fbpx
Editor's Choice 2021RECOMMENDEDREVIEW

รีวิว Mi TV P1 รุ่นจอ 55 นิ้ว “4K HDR Android TV ที่คุณภาพคุ้มค่าที่สุดในเวลานี้เมื่อเทียบบาทต่อบาท”

หลังจากเพิ่งเปิดตัวหมาด ๆ ไปเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เสียวหมี่ (Xiaomi) แบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไอทีชื่อดังจากประเทศจีนก็ได้เปิดตัว สมาร์ททีวี ‘Mi TV P1 Series’ ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ชัดเจนว่าทางแบรนด์ตั้งใจรุกตลาด global อย่างเต็มตัว

คุณสมบัติและการออกแบบ
เท่าที่ผมทราบมาในเบื้องต้น Mi TV P1 Series เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ 3 รุ่นย่อยด้วยกัน คือ รุ่นขนาดจอ 32 นิ้ว (6,990 บาท), 43 นิ้ว (11,490 บาท) และ 55 นิ้ว (15,990 บาท)

สำหรับรุ่นที่ผมกำลังรีวิวอยู่นี้เป็นรุ่น TOP ของ Mi TV P1 Series ครับ นั่นคือรุ่นหน้าจอ 55 นิ้ว เป็นสมาร์ททีวีขนาดกำลังดีสำหรับบ้านเรือนทั่วไป

โดยพื้นฐานทีวีรุ่นนี้ออกแบบเป็น ‘4K HDR Android TV’ แผงหน้าจอแสดงผลเป็น LCD panel มีระบบไฟแบ็คไลต์เป็นหลอด LED (LED-backlit LCD TV) หน้าจอมีความละเอียด 4K (3,840 x 2,160 พิกเซล) รองรับรีเฟรชเรต 60Hz หน้าจอมีมุมมองภาพ 178 องศา มาพร้อมกับดีไซน์กรอบจอที่บางเฉียบตามสมัยนิยม

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision

นอกจากดีไซน์ที่โดดเด่น ด้านคุณสมบัติทางเทคนิคของจอ 4K ในทีวีรุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นทีวีจำนวนไม่มากในระดับราคานี้ที่รองรับแสดงผลแบบ HDR ทั้ง Dolby Vision, HDR10+ และ HLG สมจริงมากยิ่งขึ้นด้วยความสามารถในการแสดงค่าสีได้ถึง 1.07 พันล้านเฉดสี (8-Bit + FRC) และยังมีความถูกต้องของสีสันครอบคลุม color gamuts ถึงระดับ 88% (สำหรับมาตรฐาน NTSC)

ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวถือว่าเหนือกว่ามาตรฐานของสมาร์ททีวีในระดับราคาใกล้เคียงกัน นอกจากนั้นยังรองรับการแสดงผล MEMC (Motion Estimation and Motion Compensation) ที่มีการประเมินลักษณะการเคลื่อนไหวของภาพและชดเชยให้ภาพไม่ขาดความต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพบนหน้าจอทีวีมีการแสดงผลที่ลื่นไหลเนียนตา

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
ด้านหลังเครื่องยังพยายามออกแบบให้ดูเรียบร้อยสวยงาม

ด้านระบบเสียงมาพร้อมกับลำโพงคู่ระบบเสียงสเตริโอขนาดใหญ่ กำลังขับรวม 20W (2 x10W) รองรับการถอดรหัสเสียง Dolby Audio และ DTS-HD ในตัว

ด้านการเชื่อมต่อประกอบไปด้วยพอร์ต HDMI 2.0, HDMI 2.1 (eARC, VRR), HDMI (CEC), 2 x USB 2.0, AV composite, Ethernet (LAN), optical, แจ็คหูฟัง 3.5mm และช่องเสียบสายอากาศทีวี (DVB-T2/C, DVB-S2) นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wi-Fi Dual-band (2.4GHz/5GHz) และ Bluetooth 5.0

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
ขั้วต่อสายไฟเอซีแบบ C7
Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
พอร์ตเชื่อมต่อหลัก ๆ มี HDMI 2.1 (eARC) รวมอยู่ด้วย
Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
พอร์ตเชื่อมต่อภาพและเสียงอื่น ๆ ที่ให้มา ครบครันทั้งดิจิทัลและอะนาล็อก

รีโมตคอนโทรลของทีวีรุ่นนี้แม้จะมีรูปร่างหน้าตาดูเหมือนรีโมตทีวีทั่วไป แต่เขาออกแบบเป็นรีโมตที่สั่งงานผ่านสัญญาณบลูทูธเหมือนกับรีโมตของทีวีสมัยใหม่หลายรุ่น ทำให้การควบคุมสั่งงานมีอิสระมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องชี้รีโมตไปที่หน้าจอทีวีโดยตรงเหมือนรีโมตแบบอินฟราเรดทั่วไป ตัวรีโมตใช้แบตเตอรี่ขนาด AAA ที่หาได้ทั่วไป

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
รีโมตคอนโทรลที่สั่งงานผ่านบลูทูธ

สมาร์ททีวีรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android TV 10 พร้อมฟีเจอร์ Chromecast, Google Assistant และ Play Store สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนทั่วไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนหน้าจอสมาร์ทโฟนหรือแทบเล็ตผ่าน Chromecast หรือ Miracast แคสต์ขึ้นจอทีวี, การสั่งงานด้วยเสียงพูด รวมถึงการติดตั้งแอปฯ เพิ่มเติม โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM 2GB พื้นที่เก็บข้อมูล 16GB

การเชื่อมต่อและลองใช้งาน
ผมได้รับทีวีรุ่นนี้มาเพื่อการรีวิวในสภาพใหม่แกะกล่อง สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือภาพรวมของตัวทีวีออกแบบได้ทันสมัย งานประกอบอยู่ในระดับมาตรฐาน น้ำหนักค่อนข้างเบาโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับทีวีขนาด 55 นิ้วอย่าง LG : 55SM9000PTA ที่ผมใช้งานอยู่และเคยได้รีวิวไปแล้ว

ตัวทีวีมาพร้อมกับขาตั้งทรงบูมเมอแรงที่ทำจากพลาสติกเนื้อแข็ง ยึดเข้ากับตัวทีวีได้อย่างแน่นหนาด้วยสกรูเกลียวข้างละ 2 ตัว ด้วยความที่ตำแหน่งยึดขาตั้งค่อนข้างกว้าง ซ้าย-ขวาห่างกันประมาณ 1 เมตร ดังนั้นจึงต้องพิจารณาความกว้างของชั้นวางทีวีให้ดีก่อน

หลังจากเปิดใช้งานครั้งแรก ด้วยความที่เป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จึงจำเป็นต้องตั้งค่าเบื้องต้น เช่น การตั้งค่าภาษา, การเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือการล็อคอินเข้าใช้งานบัญชีของ Google ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ก็สามารถทำได้ไม่ยากแค่ทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่แนะนำบนหน้าจอเท่านั้นเอง และยังสามารถเลือกตั้งค่าผ่านสมาร์ทโฟนเชื่อมโยงกับค่าต่าง ๆ ที่ตั้งค่าเอาไว้อยู่แล้วในสมาร์ทโฟนได้ด้วย ก็สะดวกมากขึ้นไปอีก

หลังจากการตั้งค่าต่าง ๆ แล้ว บนหน้าจอทีวีจะเข้าสู่หน้าโฮมตามปกติเหมือนแอนดรอยด์ทีวีทั่วไป หน้าโฮมยังสามารถ custom หรือปรับแต่งตำแหน่งการจัดวางต่าง ๆ หรือเพิ่ม-ลดแอปฯ ที่จะให้แสดงได้ตามชอบใจ

ในการรีวิวทีวีรุ่นนี้ผมได้เชื่อมต่อ Mi TV P1 55 นิ้วกับเอวีรีซีฟเวอร์ Marantz NR1711 ทางช่อง HDMI eARC เพื่อเพิ่มทางเลือกในส่วนของระบบเสียง และยังรับสัญญาณจาก source ภายนอกอย่าง Apple TV 4K เพิ่มเติมด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพใช้งานจริงทั่วไป

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision

เบื้องต้นสำหรับในส่วนของการใช้งานทั่วไป ต้องบอกว่าผมประทับใจทีวีรุ่นนี้ในแง่ของความฉับไวในการเข้าถึงเมนูต่าง ๆ เรียกว่าใช้งานได้โดยไม่หงุดหงิดหัวใจ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากชิปประมวลผล MediaTek MT9611 SoC ที่ประกอบไปด้วย ARM Cortex-A55 จำนวน 4 แกน ทำงานที่ความเร็ว 1.5GHz และส่วนประมวลผลกราฟิก ARM Mali G52 MP2

เบื้องต้นตัวทีวีได้ติดตั้งแอปฯ มาให้ใช้งานแล้วจำนวนหนึ่ง เช่น Netflix, Prime Video และ YouTube ผมเองได้ลองติดตั้งแอปฯ เพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่งเช่น แอปฯ สตรีมเพลง Spotify, TIDAL หรือแอปฯ ทดสอบความเร็วของอินเทอร์เน็ตอย่าง INTERNET SPEED TEST (FIBER TEST) และเกมอย่าง Real Racing 3 ทั้งหมดสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น

สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตถ้าบ้านไหนใช้เน็ตที่เร็วกว่า 100Mbps และใช้ Wi-Fi AC หรือ Wi-Fi AX หากในบริเวณที่วางทีวีสามารถรับสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมแนะนำให้ใช้ Wi-Fi แทนการเชื่อมต่อด้วยสาย LAN ครับ เนื่องจากสเปคฯ ของพอร์ต Ethernet ในทีวีรุ่นนี้เป็นแค่ 10/100Mbps เท่านั้น

ส่วนของรีโมตบลูทูธนั้นเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบของทีวีรุ่นนี้ที่ออกแบบมาแล้วสามารถใช้งานได้จริงและใช้งานสะดวกมาก เมื่อเชื่อมต่อกับเอวีรีซีฟเวอร์ทางพอร์ต HDMI eARC ตัวรีโมตยังสามารถใช้งานควบคุมสั่งงานฟังก์ชันพื้นของตัวเอวีรีซีฟเวอร์ได้ด้วยเช่นการเปิด-ปิดเครื่อง การปรับความดังของเสียง

ปุ่มปรับความดังเสียงในรีโมตตัวนี้ยังออกแบบให้เวลากดปุ่มลดเสียงติดกัน 2 ครั้ง เท่ากับการกดปุ่มเงียบเสียง (MUTE) หากจะกลับมาฟังเสียงตามปกติก็เพียงแค่กดปุ่มเพิ่มเสียงหรือลดเสียงเท่านั้นเอง เรียกว่าก็สะดวกไปอีกครับ

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision

ที่รีโมตคอนโทรลตัวนี้ยังมีปุ่มกดเปิดแอปฯ Netflix และ Prime Video ได้โดยตรงด้วยครับ รวมทั้งปุ่มกดเรียกใช้งานฟีเจอร์ Google Assistant พร้อมไมโครโฟนที่ตัวรีโมต (ไมโครโฟนอยู่ด้านบนของรีโมต) รับคำสั่งได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยโดยอัตโนมัติ

นอกจากไมโครโฟนรับเสียงที่ตัวรีโมตแล้ว ที่ตัวทีวีเองยังมีไมโครโฟนแบบ far-field ที่สามารถเปิด-ปิดการใช้งานได้ด้วยสวิตช์ตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ใต้หน้าจอตรงกลางเครื่อง (รุ่นจอ 43 นิ้วก็มีฟีเจอร์นี้)

ข้อดีของไมโครโฟนแบบ far-field คือเวลาจะสั่งงานไม่จำเป็นต้องกดปุ่ม Google Assistant ที่รีโมต แต่สามารถเรียกใช้งานด้วยการพูดว่า “OK Google” หรือ “Hey Google” ได้เลย เหมาะกับเวลาที่มือไม่ว่าง มือเลอะ หรือว่าควานหารีโมตไม่เจอ

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision

ที่เจ๋งกว่านั้นคือชุดไมโครโฟนแบบ far-field สามารถสั่งงานตอนทีวีกำลัง standby อยู่ได้ด้วย เรียกว่าสามารถใช้งานได้เหมือนกันเป็น smart speaker ตัวหนึ่งได้เลยทีเดียว นอกจากการสั่งงานตัวทีวีเองแล้ว Google Assistant ในทีวีรุ่นนี้ยังสามารถสั่งควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ ใน Ecosystem ของเสียวหมี่ได้ เช่น เครื่องฟอกอากาศ, พัดลม, หลอดไฟ, เครื่องดูดฝุ่น ฯลฯ

อย่างไรก็ดีในระหว่างรีวิวอยู่นี้ส่วนของชุดไมโครโฟนแบบ far-field ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้างกับการสั่งงานด้วยภาษาไทย ซึ่งในจุดนี้ทางเสียวหมี่ได้ให้ข้อมูลมาว่ากำลังอยู่ในระหว่างการปรับแก้ด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์ในอนาคต ซึ่งผมเข้าใจว่าน่าจะทำได้ลุล่วงในช่วงที่ทีวีออกวางจำหน่ายพอดี

คุณภาพของภาพและเสียง
ในส่วนของการพิจารณาคุณภาพของภาพและเสียง ผมเริ่มจากการใช้งาน Mi TV P1 โดยไม่เปิดใช้งานอุปกรณ์แวดล้อมอื่น ๆ คือ เปิดชมวิดีโอต่าง ๆ ด้วยแอปฯ ในตัวทีวีเอง รวมทั้งฟังเสียงจากลำโพงของทีวีโดยตรง

ผมพบว่าสเกลเลอร์ภาพในตัวทีวีทำหน้าที่ได้ดีทีเดียวครับ สามารถอัปสเกลสัญญาณภาพแบบ HD หรือ Full HD จาก YouTube, Netflix ให้แสดงผลเป็น 4K ได้ดีเลยครับ โดยเฉพาะจาก Netflix นี่ถือว่าทำได้ดีเกินคาดและเกินราคาของทีวีไปมาก

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
ตัวอย่างการอัปสเกลสัญญาณวิดีโอ Full HD ใน Netflix เพื่อแสดงผลบนหน้าจอความละเอียด 4K

สำหรับลำโพงในตัวทีวีให้เสียงดังเหลือเฟือ มีความชัดเจน สดใสดี ถ้าหากไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เนื้อเสียงหรือรายละเอียดเทียบเท่าการต่อลำโพงซาวด์บาร์หรือชุดเครื่องเสียงเพิ่มเติมนะครับ

ผมยังได้ลองเชื่อมต่อทีวีกับหูฟังไร้สาย Sony WH-1000XM4 เพื่อลองใช้งานด้วยครับ พบว่าสามารถใช้งานด้วยกันได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาเสียงกับภาพไม่ตรงกัน แถมยังรองรับการทำงานของฟีเจอร์ Wear Detection ที่ตัวหูฟังด้วยครับ (ถอดหูฟังออก หยุดเล่นอัตโนมัติ)

เท่าที่ได้ลองกับแอปฯ พื้นฐานที่มากับทีวีทั้ง YouTube, Netflix และ Prime Video ทั้งหมดไม่มีปัญหาเลยครับ ใช้งานได้สะดวกราบรื่นดี แนะนำให้เป็นทางเลือกสำหรับการรับชมในยามค่ำคืนที่ไม่ต้องการให้เสียงรบกวนคนรอบข้างหรือเพื่อนบ้านครับ

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
หากต่อกับชุดเครื่องเสียงแล้วไม่ออกเป็น Dolby Atmos ให้เลือกตั้งค่าตรงนี้โดยเปลี่ยนจาก AUTO เป็น Passthrough

สำหรับการต่อชุดเครื่องเสียงเพิ่มเติมเช่น ในกรณีที่ผมต่อ HDMI eARC ส่งเสียงจากทีวีย้อนกลับมาตัวที่เอวีรีซีฟเวอร์ Marantz NR1711 ผมพบว่าในบางกรณีหากตั้งค่าเอาต์พุตเสียงของทีวีตรงส่วน ‘Digital Output’ เป็น ‘AUTO’ แล้ว เมื่อสตรีมคอนเทนต์ที่เป็นระบบเสียง Dolby Atmos แล้ว หากว่าที่เอวีรีซีฟเวอร์ไม่พบสัญญาณเสียงที่เป็น Dolby Atmos ให้เปลี่ยนการตั้งค่าจาก ‘AUTO’ ไปเป็น ‘Passthrough’ ตัวเอวีรีซีฟเวอร์ก็จะเล่นเสียง Dolby Atmos ได้ตามปกติ

Mi TV P1 55 นิ้วเครื่องนี้ยังสร้างความประทับใจด้วยภาพในรูปแบบของ HDR Dolby Vision ซึ่งถือว่าให้คุณภาพออกมาโดดเด่นสะดุดตามากสำหรับทีวีในระดับราคานี้

อย่างตอนที่ผมเปิด Netflix ดูสารคดีชุด Chef’s Table สีสันและแสงที่สมจริงบนหน้าจอทำให้อาหารดูน่ากินขึ้นมาก แต่ละเมนูนี่แทบจะลอยออกมาจากหน้าจอเลยทีเดียว อย่างเช่น ช่วงท้ายของ EP (นาทีที่ 43:10) ที่เป็นอาหารไทยจากร้าน Bo.lan หากทีวีไม่รองรับการแสดงผลแบบ HDR Dolby Vision เชื่อว่าความน่ากินคงลดลงไปเยอะเลยล่ะครับ

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
Mi TV P1 กับการถ่ายทอดรายละเอียดของภาพจากสารคดีชุด Our Planet ใน Netflix (HDR Dolby Vision)
Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
Mi TV P1 กับการถ่ายทอดรายละเอียดของภาพจากสารคดีชุด Our Planet ใน Netflix (HDR Dolby Vision)
Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
Mi TV P1 กับการถ่ายทอดรายละเอียดของภาพจากสารคดีชุด Our Planet ใน Netflix (HDR Dolby Vision)

หรือในสารคดีชุด Our Planet ใน Netflix ทีวีรุ่นนี้ก็ถ่ายทอดภาพออกมาได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน นอกจากความคมชัดแล้ว ความเป็นธรรมชาติของภาพในแต่ละฉากก็ดีงามไม่แพ้กัน ในฉากกลางวัน ภาพที่ได้ก็สว่างและดูเป็นกลางวันจริง แม้แต่ร่มเงาที่ปรากฏในแต่ละฉาก สีสันมีความเป็นธรรมชาติสมจริงจากภาพที่มีความเป็นสามมิติ ไม่แบน ไม่แห้ง เหมือนทีวีรุ่นเก่าหรือทีวีราคาประหยัดทั่วไป เช่น ในช่วงนาที 16:31 ถึง 21:20

หรือฉากแสงเหนือในสารคดี Night On Earth (Ep. Frozen Night) ช่วงนาทีที่ 31:18 ถึง 32:00 ก็ดูสวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจดีเช่นกัน ผมสังเกตว่ามุมมองภาพในแนวนอนถือว่าดีมาก และถ้าหากจะมีความผิดเพี้ยนในเรื่องของแสงและคอนทราสต์ปรากฏให้เห็นบ้าง ก็เป็นข้อจำกัดตามปกติของจอแสดงผลประเภท LCD นั่นเอง

ยังมีภาพยนตร์อีกจำนวนหนึ่งทั้งที่เป็นระบบภาพปกติและ HDR Dolby Vision ที่ผมมีโอกาสได้รับชมจาก Mi TV P1 เครื่องนี้ เช่น The Grand Tour และ Tom Clancy’s Jack Ryan Season 1 จาก Prime Video, TENET จาก Apple TV 4K (ไฟล์จาก iTunes) และ Russian Doll จากแอปฯ Netflix

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
Mi TV P1 กับการถ่ายทอดรายละเอียดของภาพจากซีรีส์ The Grand Tour ใน Prime Video (HDR10)
Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
Mi TV P1 กับการถ่ายทอดรายละเอียดของภาพ HDR Dolby Vision จากภาพยนตร์เรื่อง TENET เล่นจากกล่อง Apple TV 4K (ไฟล์จาก iTunes Movies)
Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
Mi TV P1 กับการถ่ายทอดรายละเอียดของภาพจากซีรีส์ Russian Doll ใน Netflix (HDR Dolby Vision)
Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision
Mi TV P1 กับการถ่ายทอดรายละเอียดของภาพจากซีรีส์ Russian Doll ใน Netflix (HDR Dolby Vision)

หลายฉากในภาพยนตร์เหล่านั้นให้ภาพน่าประทับใจมากครับ เช่น หลายฉากในหนัง TENET หรือในซีรีส์ Russian Doll (S1 Ep.1) มีหลายฉากที่โชว์ศักยภาพของระบบภาพ HDR Dolby Vision ได้ดี

เช่น ในฉากเปิดของ Episode หรือช่วงนาทีที่ 07:03-07:20 ผมอาจจะสามารถบอกได้เลยครับว่า Mi TV P1 55 นิ้วเครื่องนี้เป็นทีวีราคาย่อมเยาที่สุดที่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดต่าง ๆ ของภาพออกมาได้ในระดับนี้… เสียวหมี่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับทีวี 55 นิ้วที่เปิดตัวมาในระดับราคาไม่เกิน 20,000 บาท แล้วครับ !

Mi TV P1 รุ่นจอ 55 นิ้ว เหมาะกับใคร ?
จากคุณสมบัติทั้งหมดที่ว่ามา ผมสรุปได้ว่า Mi TV P1 เป็น 4K HDR Android TV ขนาด 55 นิ้ว ราคาไม่เกิน 20,000 บาทที่ทันสมัยและครบเครื่องที่สุดในเวลานี้ โดยเฉพาะการรองรับการการแสดงผล HDR Dolby Vision ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่หาได้ยากมาก ๆ ในทีวีระดับราคานี้

เมื่อประกอบกับคุณสมบัติอื่น ๆ ในฐานะสมาร์ททีวีที่ใช้งานได้อย่างลื่นไหล​ สมาร์ททีวีจอ 55 นิ้ว ที่มีความคุ้มค่าในระดับ ‘Best Buy’ รุ่นนี้ จึงเหมาะสำหรับทุกคนที่กำลังมองหาทีวีที่มีสมรรถนะสูงเกินราคาสักเครื่องมาใช้งานที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นทีวีเครื่องแรก หรือเครื่องที่สอง ที่สาม ที่สี่ ของบ้านก็ตาม

Review Mi TV P1 Series smart life limitless vision

Mi TV P1 Series ทุกรุ่นเตรียมวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2564 โดยจะเริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Lazada, JD Central, Shopee และร้าน Mi Stores ที่ร่วมรายการ

โดย Mi TV P1 Series รุ่นจอ 55 นิ้ว ตั้งราคาเอาไว้ที่ 15,990 บาท, รุ่นจอ 43 นิ้ว ซึ่งมีสเปคฯ เทียบเคียงกับรุ่น 55 นิ้ว จำหน่ายในราคา 11,490 บาท และรุ่นน้องเล็ก 32 นิ้ว ซึ่งสเปคฯ ลดทอนไปพอสมควร จำหน่ายในราคา 6,990 บาท

สำหรับคนที่ต้องการทีวีจอขนาดใหญ่กว่านี้ ทางเสียวหมี่เขาฝากมาบอกว่า เขายังมีรุ่น Mi TV Q1 ซึ่งมีหน้าจอขนาด 75 นิ้ว ราคา 44,990 บาท เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกด้วยครับ ทว่ารุ่นนี้ผมยังไม่เคยได้ลองใช้งาน

แต่สำหรับรุ่นที่ผมได้ลองใช้งานแล้วอย่าง Mi TV P1 Series โดยส่วนตัวผมคิดว่ารุ่น 55 นิ้วนี้ คุ้มค่ามากที่สุดแล้วครับ เพราะได้ทุกอย่างครบถ้วนทันสมัยพร้อมใช้งานเลย แถมสเปคฯ หลายด้านยังเผื่อไปถึงอนาคตอีกต่างหาก บอกได้คำเดียวว่า “คุ้ม !”


นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
Xiaomi
สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1800 012 368 (Call Center)

มนตรี คงมหาพฤกษ์

ผู้ก่อตั้งสื่อออนไลน์ AV Tech Guide อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารและออนไลน์ GM2000 Magazine จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนใจเครื่องเสียงทั้งระบบอะนาล็อกและดิจิทัล ใช้งานสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android ใช้คอมพิวเตอร์ทั้ง macOS และ Windows หลงใหลเทคโนโลยีเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนี้กำลังเห่อระบบบันทึกเสียงและไมโครโฟนแบบมืออาชีพ