รีวิว Klipsch : GIG XXL “ลำโพงปาร์ตี้มีแบรนด์ เสียงดีเกินตัว จัดเต็มทั้งแสงสีเสียง”
ในปัจจุบันแม้ว่าลำโพงพกพาสายปาร์ตี้อาจยังไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกระแสหลัก แต่ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลำโพงในกลุ่มนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยสังเกตจากการที่มีผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ต่างให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ล่าสุด Klipsch (คลิปส์) ผู้ผลิตลำโพงไฮไฟแบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกาก็ไม่ยอมตกขบวนด้วยเช่นกัน โดยรุ่นที่นำร่องประเดิมทำตลาดในประเทศไทยคือ GIG XL และ GIG XXL ลำโพงสองขนาดที่มีการแชร์ดีไซน์การออกแบบร่วมกัน แตกต่างกันแค่เรื่องของขนาด
คุณสมบัติและการออกแบบ
Klipsch GIG XXL ออกแบบเป็นลำโพงปาร์ตี้รุ่นที่ขยับขึ้นมาจากรุ่นเล็กอย่าง GIG XL โดยในรุ่น GIG XL นั้นเป็นลำโพงแบบ 2 ทาง ใช้ตัวขับเสียงแบบฟูลเรนจ์ขนาด 6.5 นิ้ว ทวีตเตอร์ขนาด 2 นิ้ว ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 60Hz–20kHz (+/- 3dB) พร้อมโหมดเพิ่มพลังเสียงทุ้ม ให้ระดับความดังเสียงสูงสุดที่ 105dB ที่ระยะห่าง 0.5 เมตร
แบตเตอรี่ในตัวสามารถใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมง ด้านช่องทางการเล่นเพลงสามารถเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0, ช่องอินพุตอะนาล็อก 3.5mm, พอร์ต USB และอินพุต Karaoke Input (เสียบไมโครโฟน) ตัวลำโพงได้รับการออกแบบให้กันละอองน้ำได้ตามมาตรฐาน IPX4 พร้อมระบบแสงไฟวงแหวน RGB Lighting Ring แบบมัลติคัลเลอร์ให้แสงไฟได้หลากหลายสีสัน
สำหรับรุ่น GIG XXL นั้นออกแบบเป็นลำโพงแบบ 2 ทาง ใช้ตัวขับเสียงเป็นวูฟเฟอร์คู่ขนาด 6.5 นิ้ว ทำงานร่วมกับทวีตเตอร์คู่ขนาด 2 นิ้ว ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 50Hz–20kHz (+/- 3dB) พร้อมโหมดเพิ่มพลังเสียงทุ้ม ให้ระดับความดังเสียงสูงสุดที่ 110.7dB ที่ระยะห่าง 0.5 เมตร
แบตเตอรี่ Lithium 7.4V / 4,400mAh ในลำโพงรุ่น GIG XXL สามารถใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมงเช่นกัน ช่องทางการเล่นเพลงสามารถเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0, ช่องอินพุตอะนาล็อก LINE IN 3.5mm, พอร์ต USB-A รวมถึงอินพุต Karaoke สำหรับไมโครโฟน และอินพุตสำหรับขยายสัญญาจากเครื่องดนตรีอย่างเช่น กีตาร์ หรือเครื่องดนตรีอื่น ๆ เช่น คีย์บอร์ด หรือว่าอุปกรณ์สร้างเสียงกลองอย่าง Drum Machine
นอกจากนั้นแล้วตัวลำโพง Klipsch GIG XXL ยังมาพร้อมระบบแสงไฟวงแหวนคู่ RGB Lighting Rings แบบมัลติคัลเลอร์และไฟสโตรบคู่ (ไฟกระพริบ) สร้างสีสันจากแสงไฟให้สนุกกับงานปาร์ตี้ได้หลากหลายรูปแบบ
การเชื่อมต่อและการใช้งาน
เนื่องจากเรามีโอกาสได้ลองลำโพงปาร์ตี้ของ Klipsch ทั้งสองรุ่น (GIG XL และ GIG XXL) บอกได้เลยว่าทั้งคู่มีความน่าสนใจเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป ด้านน้องเล็กอย่าง GIG XL ที่มาใน DNA เดียวกันนั้นมีจุดขายตรงพลังเสียงที่มาพร้อมกับความกะทัดรัด หยิบจับง่ายใช้งานสะดวก
ขณะที่รุ่นพี่อย่าง GIG XXL ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่านั้นสามารถเติมเต็มได้มากกว่าทั้งในส่วนของพลังเสียงและฟังก์ชันใช้งาน ลำพังแค่ระบบแสงไฟก็เร้าใจกว่ากันเยอะ ในด้านการเชื่อมต่อนั้นก็มีครบ ๆ ทั้งแบบไร้สาย และแบบเสียบสาย เปิดกว้างสำหรับการฟังเพลงจากแหล่งสัญญาณเสียงหลากหลายไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, เครื่องเล่นซีดี, เครื่องเล่นแผ่นเสียง หรือเครื่องเสียงสตรีมเมอร์ โดยขั้วต่อและปุ่มควบคุมการทำงานทั้งหมดอยู่ที่ด้านบนของตู้ลำโพง
ที่น่าสนุกกว่านั้นคือตัว ลำโพงนอกจากสามารถเชื่อมต่อไมโครโฟนเพื่อขยายเสียงจากไมโครโฟนสำหรับใช้ร้องคาราโอเกะแล้ว ยังสามารถต่อพ่วงเครื่องดนตรีเข้าไปเล่นแจมกันได้ด้วย ทีนี้ถ้าก๊วนปาร์ตี้ไหนมีมือกีตาร์ก็เอ็นจอยร่วมกันได้ง่าย ๆ โดยทั้งไมโครโฟนและเครื่องดนตรีเสริมยังสามารถปรับความดังเสียงแยกกันได้ด้วย ด้านไมโครโฟนยังปรับระดับความก้องกังวานของเสียงหรือ ECHO ได้ด้วย
GIG XXL แม้ว่ามีขนาดใหญ่กว่า GIG XL แต่ก็ยังถือว่ามีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด (เล็กกว่าทั้ง SONY SRS-XV800 และ Samsung Sound Tower MX-ST50B) โดยตัวลำโพงมีความสูง 551mm ความกว้าง 275mm และความลึก 290mm น้ำหนัก 8.2 กิโลกรัม
ตัวตู้ลำโพงผลิตจากวัสดุ ABS และมีแผงหน้ากากเป็นตะแกรงโลหะโปร่ง งานประกอบมีความประณีตเรียบร้อย แน่นหนาแข็งแรง ตามมาตรฐานของแบรนด์ระดับโลกอย่าง Klipsch ด้านบนของลำโพงยังออกแบบเป็นมือจับขนาดใหญ่ให้หิ้วยกย้ายได้สะดวก ด้านหลังตู้ลำโพงยังมีท่อเปิดทรงรีขนาดใหญ่คอยช่วยสะท้อนเสียงทุ้ม ตัวลำโพงเวลาใช้งานวางบนพื้นตรง ๆ สังเกตว่า ตัวลำโพงถูกออกแบบให้เงยหน้านิด ๆ
สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานที่มาพร้อมกับตัวลำโพงนอกจากสายไฟ AC สำหรับเสียบชาร์จแบตเตอรี่ในตัวหรือเสียบใช้พลังงานจากไฟบ้านได้โดยตรงแล้ว ยังมีไมโครโฟนให้มาด้วยพร้อมใช้งาน เรียกว่าแกะกล่องก็พร้อมเปิดตี้ร้องคาราโอเกะกันได้เลย
เบื้องต้นเราได้ลองเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ GIG XXL ผ่านบลูทูธเพื่อฟังเพลงจาก Apple Music แล้วใช้คุณสมบัติตัดเสียงร้องใน Apple Music เพียงเท่านี้เมื่อเราเสียบไมโครโฟนกับลำโพง เราก็มีระบบเสียงคาราโอเกะชั้นดีแบบง่าย ๆ พร้อมใช้งานแล้ว แน่นอนว่าพอได้หยิบไมค์สตาร์ทแล้วหลายคนก็ไม่ยอมวางไมค์สต็อป (ฮา)
สำหรับการเชื่อมต่อบลูทูธกับลำโพงก็ทำได้ง่าย ๆ โดยกดปุ่มสัญลักษณ์ Bluetooth ที่อยู่ในกลุ่มของปุ่มควบคุมต่าง ๆ ด้านบนตู้ลำโพงซ้ำกันสองครั้ง เพื่อเข้าโหมดจับคู่ จากนั้นก็มองหาชื่อลำโพงในเมนูเชื่อมต่อบลูทูธของอุปกรณ์ กดจับคู่และเชื่อมต่อเพียงเท่านี้ก็พร้อมใช้งาน
สำหรับพอร์ต USB-A นั้นรองรับการเล่นไฟล์เสียงในรูปแบบ MP3 เท่านั้น นอกจากนั้นแล้วพอร์ต USB-A นี้ยังสามารถทำหน้าที่เป็นพาวเวอร์แบงค์สำหรับชาร์จไฟให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ด้วย นอกจากระบบเสียงแล้วด้านระบบแสงสีเพียงแค่กดปุ่มสัญลักษณ์แสงไฟด้านบนตัวลำโพงก็เป็นการเปิด-ปิด หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบและสีสันของไฟวงแหวน RGB คู่ได้ง่าย ๆ ขณะที่ไฟสโตรปก็สามารถเปิด-ปิดได้ด้วยการกดปุ่มสัญลักษณ์ไฟนี้ค้างไว้
ด้านบนของตัวลำโพงยังมีไฟ LED แสดงระดับพลังงานแบตเตอรี่อยู่ด้วย ซึ่งถ้าจะเช็คระดับพลังงานแบตเตอรี่ก็เพียงแค่กดปุ่ม POWER สั้น ๆ เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น
Powerful Party Sound
ด้วยความที่ตัวลำโพง GIG XXL ได้รับการออกแบบให้ขั้วต่อและปุ่มทั้งหมดอยู่ที่ด้านบนของลำโพง เวลาใช้งานจริงพบว่ามันค่อนข้างสะดวกแต่อาจต้องระมัดระวังมากขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากตัวลำโพงไม่ได้แจ้งคุณสมบัติการป้องกันละอองน้ำเอาไว้เหมือนในรุ่น GIG XL
นอกจากช่องรับสัญญาณ LINE IN (3.5mm) แล้วลำโพงรุ่นนี้ยังมีช่อง LINE OUT (3.5mm) ให้สามารถต่อพ่วงสัญญาณออกไปภายนอกหรือต่อไปเข้าลำโพงแอคทีฟอีกตัวได้ด้วย
และด้วยความลำโพง GIG XXL มาพร้อมกับคุณสมบัติในการเชื่อมต่อบลูทูธแบบคู่ ทำให้เราสามารถใช้งานลำโพงสองตัวทำงานคู่กันเพื่อสร้างมิติเสียงสเตริโอสำหรับในงานปาร์ตี้ที่ขนาดใหญ่หรืองานปาร์ตี้ที่ต้องการความเร้าใจมากยิ่งขึ้น สำหรับวิธีการใช้งานในรูปแบบนี้สามารถทำได้ตามคำแนะนำในคู่มือ
อย่างไรก็ดีลำพังลำโพง GIG XXL เพียงตัวเดียวก็เปิดได้ดังสะใจเกินคาดไปมากแล้ว และด้วยความที่เป็นลำโพงสายปาร์ตี้พันธุ์แท้ต้องบอกว่าเสียงที่ได้จากลำโพงรุ่นนี้ฟังสนุกคึกคักดีมาก
นอกจากรายละเอียดเสียงที่กระจ่างชัดเจนแต่ยังไม่ทิ้งลายของลำโพงที่มาจากแบรนด์ไฮเอนด์แล้ว มันมีเสียงทุ้มที่ดีดเด้งออกมาเป็นลูก ๆ ทำให้ฟังแล้วมีความกระหึ่มหนักแน่นเร้าใจเอาเรื่อง สายตื้ดได้ลองแล้วรับรองว่าโดนใจแน่นอน
ในกรณีที่ใช้งานในพื้นที่เปิดกว้างหรืออยากเพิ่มความเร้าใจเข้าไปอีกนิด แค่เปิดใช้งานฟังก์ชัน Bass Boost เพิ่มน้ำหนักเสียงทุ้มด้วยการกดปุ่ม ‘BASS’ ที่ด้านบนตู้ลำโพง เมื่อเปิดใช้งานไฟวงแหวนหน้าตู้ลำโพงจะกระพริบตอบรับเป็นสีขาวสองครั้ง ถ้าจะปิดฟังก์ชัน Bass Boost ก็แค่กดปุ่มนี้ซ้ำ ไฟวงแหวนหน้าตู้ลำโพงจะกระพริบตอบรับเป็นสีขาวหนึ่งครั้ง
อย่างไรก็ดีเท่าที่เราได้ลองใช้งานในบ้านหรือในห้องปิด เราว่าปุ่มนี้อาจไม่จำเป็นนัก เพราะพลังเสียงของลำโพงนั้นเรียกว่า ‘เหลือกินเหลือ’ ใช้อยู่แล้ว ไม่ว่าเราจะฟังเพลงแนวไหน POP, JAZZ, ROCK, METAL, HIP HOP หรือ EDM เราพบว่า Klipsch GIG XXL สามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกแนวเพลง แต่เมื่อพูดถึงลำโพงปาร์ตี้แน่นอนว่ามันเข้ากับเพลงแนวสนุก ๆ ที่มีเสียงเบสโดดเด้งได้ดีที่สุด เรียกว่ายิ่งฟังยิ่งอยากเร่งเสียงให้มันดังขึ้น ๆ เรื่อย ๆ !!! ดังนั้นถ้าพูดถึงลำโพงปาร์ตี้บอกได้เลยว่ารุ่นนี้คือ ‘ของแทร่’
Klipsch GIG XXL เหมาะกับใคร ?
ในปัจจุบันอาจมีลำโพงปาร์ตี้เป็นตัวเลือกอยู่ในตลาดมากมาย หลายระดับราคา ถ้าคุณกำลังมองหาลำโพงปาร์ตี้ขณะเดียวกันคุณก็มีความคุ้นเคยอยู่กับเครื่องเสียงคุณภาพดี เครื่องเสียงที่มีมาตรฐานสูง เครื่องเสียงที่ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพเสียงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าฟังก์ชันการทำงาน ลำโพงปาร์ตี้อย่าง Klipsch GIG XXL น่าจะเป็นอะไรที่คุณปฏิเสธมันได้ยาก
เหตุผลก็คือ ท่ามกลางแสงไฟสีสันฉูดฉาดวูบวาบ ลำโพงปาร์ตี้รุ่นนี้ยังมีความเนี๊ยบ ความละเมียดละเมียดละไม ผสมผสานรวมกันอยู่ ทั้งในแง่ของเนื้องาน การควบคุมสั่งงานต่าง ๆ ฟีลลิ่งในเวลาควบคุมสั่งงานที่เหมือนเรากำลังควบคุมเครื่องเสียงไฮไฟที่เราคุ้นเคย แน่นอนว่ายังมีเรื่องของรายละเอียดเสียงที่เราได้ยินได้ฟังจากลำโพงปาร์ตี้รุ่นนี้
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย:
บริษัท โฮม ไฮ-ไฟ จำกัด
02-448-5489, 02-448-5465-6
www.sound-republic.com
ราคา 16,900 บาท
