รีวิว Edifier : NeoBuds Pro 2 “หูฟังไร้สายที่ฟังก์ชันและคุณภาพเสียงอยู่ในระดับ ‘ยืนหนึ่ง’ เมื่อเทียบกันบาทต่อบาท”
ในช่วงปลายปี 2021 ผมมีโอกาสได้รีวิว Edifier NeoBuds Pro หูฟังไร้สาย True Wireless Stereo (TWS) รุ่นเรือธงของ Edifier แม้ได้ชื่อว่าเป็นรุ่นเรือธงทว่าราคาของหูฟังกลับย่อมเยาจนเหมือนกับรุ่นเริ่มต้นของผู้ผลิตหูฟังยี่ห้อดังมากกว่า
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาในแง่ของ ‘คุณภาพเสียง’ Edifier NeoBuds Pro สามารถไปยืนอยู่ในกลุ่มหัวแถวในเวลานั้นได้สบาย ๆ พร้อมข้อจำกัดอยู่บ้างบางประการเมื่อเราพิจารณาในแง่ของฟังก์ชันเทียบกับหูฟังไร้สายระดับพรีเมียม
กาลเวลาผ่านมาร่วมสองปี Edifier ก็ได้เปิดตัว ‘NeoBuds Pro 2’ (นีโอบัดส์ โปร ทู) ซึ่งมาพร้อมกับราคาที่ขยับขึ้นไปอีกเล็กน้อย (4,590 บาท) การอัปเกรดในหลาย ๆ ส่วน ลำพังการอัปเกรดด้านเทคโนโลยีนั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่ผมสนใจมากกว่านั้นคือ ‘มันเสียงดีขึ้นด้วยหรือเปล่า ?’
สองปีผ่านไป ทำอะไรมาบ้าง ?
Edifier NeoBuds Pro รุ่นแรกออกมาในช่วงปลายปี 2021 มาพร้อมกับเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 (SBC, AAC, LDAC, LHDC Audio Codec) หูฟังแต่ละข้างมาพร้อมกับตัวขับเสียงแบบไฮบริดสองทาง ในย่านความถี่ต่ำเป็นหน้าที่ของตัวขับเสียงแบบไดนามิก ขณะที่ในย่านความถี่สูงเป็นหน้าที่ของตัวขับเสียงแบบ BA หรือบาลานซ์อามาเจอร์ของยี่ห้อ Knowles (ผู้ผลิต BA ยี่ห้อดัง) ตัวหูฟังได้รับการออกแบบให้กันละอองน้ำได้ตามมาตรฐาน IP54
หูฟัง NeoBuds Pro แต่ละข้างมีไมโครโฟนติดตั้งมาข้างละ 3 ตัว เพื่อคอยทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกและ/หรือรับเสียงของผู้ใช้งานในระหว่างการพูดคุยสนทนา คุณสมบัติ Hybrid ANC (Active Noise Cancelling) สามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ถึง -42dB ขณะที่แบตเตอรี่ในตัวหูฟังสามารถใช้งานได้นานสูงสุด (ANC OFF) ประมาณ 6 ชั่วโมง และเวลารวมเพิ่มอีก 18 ชั่วโมงเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จที่มาด้วยกัน
สำหรับ Edifier NeoBuds Pro 2 นั้นเพิ่งออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ (ไตรมาสที่สามของปี 2023) นับเวลาแล้วก็ห่างจากรุ่นแรกเกือบ ๆ สองปี มาพร้อมกับการอัปเกรดในหลายส่วน เริ่มจากการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.3 ซึ่งเป็นการปรับปรุงทั้งในส่วนของการใช้พลังงานและเสถียรภาพในการเชื่อมต่อ พร้อมรองรับ Audio Codec ทั้ง SBC, AAC, LDAC, LHDC (LHDC X, LHDC 192)
ด้านตัวขับเสียงใน NeoBuds Pro 2 ยังคงเป็นแบบไฮบริดสองทาง ประกอบไปด้วยตัวขับเสียงไดนามิก 10mm + BA ของ Knowles พร้อมสเปกฯ การตอบสนองความถี่เสียงได้ตั้งแต่ 20Hz-40kHz หากพิจารณาเพียงผิวเผินอาจดูว่าไม่แตกต่างจากรุ่นแรกนักทว่าในการใช้งานจริงผมพบว่ามันแตกต่างกันเยอะเลย
อีกส่วนหนึ่งที่ได้รับการอัปเกรดคือหูฟัง NeoBuds Pro 2 แต่ละข้างมาพร้อมกับไมโครโฟนถึง 4 ตัว พร้อมเทคโนโลยี ENC (Environmental Noise Cancellation) ทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวนรอบข้างในระหว่างการสนทนา
ไมโครโฟนที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นนี้ยังมีส่วนช่วยให้ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (ANC) ใน NeoBuds Pro 2 มีความสามารถมากขึ้น โดยเป็นการตัดเสียงรบกวนในช่วงความถี่กว้างขึ้น (Wide-band ANC) สามารถลดทอนเสียงรบกวนได้มากขึ้นถึงระดับ -50dB ปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้ละเอียดมากขึ้น และเพิ่มระบบตัดเสียงลมเข้ามาด้วย
อีกคุณสมบัติที่เพิ่มเข้ามาคือ ระบบเสียง Spatial Audio + Head Tracking รวมถึง Wear Detection หรือเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ นอกจากนั้นในรุ่นใหม่นี้ไฟแสดงผลที่เคสชาร์จยังออกแบบให้เปลี่ยนสีได้ด้วย
ขณะที่ตัวหูฟังยังคงออกแบบให้กันละอองน้ำได้ตามมาตรฐาน IP54 เหมือนรุ่นแรก ด้านแบตเตอรี่ในตัวหูฟังใช้งานได้นานถึง 5.5 ชั่วโมง เพิ่มอีก 16.5 ชั่วโมงจากเคสชาร์จ เมื่อใช้งานโดยปิด ANC และลดเหลือ 4 และ 12 ชั่วโมงตามลำดับเมื่อเปิด ANC ดังนั้นในภาพรวมแล้วเรื่องแบตเตอรี่ถือว่าใกล้เคียงกับรุ่นแรก
การเชื่อมต่อและการใช้งาน
อุปกรณ์มาตรฐานที่มาพร้อมกับ Edifier NeoBuds Pro 2 ประกอบไปด้วยถุงผ้าใบเล็กสำหรับพกพา, สายชาร์จ USB-A to USB-C สั้น ๆ และจุกซิลิโคนมาให้เลือกเปลี่ยนอีก 6 ขนาด ไม่รวมที่ติดมากับตัวหูฟังอีก 1 คู่
สำหรับการจับคู่เชื่อมต่อใช้งาน Edifier NeoBuds Pro 2 กับอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยภาพรวมก็ใกล้เคียงกับหูฟังไร้สายทั่วไป นอกจากการจับคู่ครั้งแรกหรือคุณสมบัติ Fast Pair ที่ออกแบบให้สะดวกกับการจับคู่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android แล้ว เรายังสามารถเข้าโหมดจับคู่ได้โดยตรงจากการกดค้างที่ปุ่มด้านในตัวเคสชาร์จ
ข้อสังเกตหนึ่งที่ได้รับการปรับปรุงจากรุ่นแรกคือ ในรุ่นใหม่นี้สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ได้โดยไม่จำเป็นต้องตัดการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ก่อนหน้าเสียก่อน ทำให้คนที่ใช้งานหูฟังกับอุปกรณ์มากกว่าหนึ่งเครื่องสามารถทำได้สะดวกมากขึ้น การมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ก็ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้นด้วยเช่นกัน
เช่นเดียวกับรุ่นแรกหรือหูฟังไร้สายอีกหลายรุ่นของ Edifier ตัวหูฟังสามารถใช้งานร่วมกับแอปฯ Edifier Connect เพื่อตรวจสอบระดับพลังงานของแบตเตอรี่ในตัวอุปกรณ์ รวมถึงการใช้งานฟังก์ชันและการตั้งค่าต่าง ๆ หลักก็อย่างเช่น การเลือกระดับการตัดเสียงรบกวน, การเลือกระดับของโหมดเปิดฟังเสียงแวดล้อม หรือการใช้งานโหมดตัดเสียงลม
สำหรับการตั้งค่าอื่น ๆ อีกหลายส่วนการหน้าที่ของปุ่มกดแบบสัมผัสที่ตัวหูฟังแต่ละข้าง, การตั้งค่าความไวในการสัมผัส หรือการเลือกสีของไฟที่ตัวเคสชาร์จ สามารถดูรายละเอียดได้ในคลิปด้านล่างนี้
จากหน้าหลักของแอปฯ Edifier Connect หน้าเมนูถัดไปเมื่อปัดไปทางซ้ายคือ Sound modes หรือโหมดเสียงหลัก ๆ 3 โหมดด้วยกัน คือ โหมดฟังเพลง, เล่นเกม และ Spatial Audio (พร้อม Head-tracking) ซึ่งสามารถดูรายละเอียดของการใช้งานได้ในคลิปด้านบนนี้
เช่นเดียวกับรุ่นแรก Edifier NeoBuds Pro 2 เขาเปิดโอกาสให้เราสามารถปรับจูนเสียงของหูฟังได้เอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ผมแนะนำให้ทำนะครับ โดยเข้าไปที่เมนู Sound effects (ถัดจาก Sound modes) ซึ่งตัวเลือกมีทั้งแบบที่เขาตั้งค่ามาให้แล้วอย่าง ‘Classic’ และ ‘Dynamic’ รวมถึงตัวเลือก ‘Customized’ ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถปรับแต่งได้เองโดยอาศัยพาราเมตริคอีคิว ซึ่งผมเองก็ได้ปรับแต่งจนเป็นที่น่าพอใจและได้เอามาแนะนำไว้ในรีวิวนี้ด้วย (ดูในคลิปหรือภาพประกอบ)
ก่อนอื่นต้องบอกว่าการปรับแต่งข้างต้นแตกต่างจากการปรับแต่งที่ผมเคยแนะนำเอาไว้ตอนที่รีวิวรุ่นแรก เนื่องจากผมพบว่าสุ้มเสียงที่เป็น default ของ NeoBuds Pro 2 นั้นแตกต่างจาก NeoBuds Pro อย่างชัดเจน หลังจากปรับแต่งเสียงจนเป็นที่น่าพอใจแล้วผมก็ใช้ค่าตามนั้นไปตลอดทั้งการรีวิวต่อจากนี้เป็นต้นไป
ที่ทำเช่นนั้นได้เป็นเพราะว่านี่เป็นการปรับแต่งในตัวฮาร์ดแวร์โดยตรง ดังนั้นหลังการปรับแต่งไม่ว่าเราจะนำไปใช้กับอุปกรณ์อะไร หูฟังรุ่นนี้ก็จะเป็นแนวเสียงตามที่เราได้ปรับแต่งเอาไว้ล่าสุดตลอดการใช้งาน จนกว่าที่เราจะเข้าไปปรับแต่งใหม่หรือมีการทำ factory reset
คุณภาพเสียง
ตามที่ได้เรียนไว้ข้างต้นว่า แม้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวขับเสียงที่ใช้งานอยู่ใน NeoBuds Pro 2 มีความใกล้เคียงกับรุ่นแรก ทว่าเมื่อลองใช้งานจริงผมพบว่าเสียงของมันแตกต่างกันมาก
ครั้งแรกที่ฟัง NeoBuds Pro ผมคิดว่าเสียงทุ้มของมันมีปริมาณค่อนข้างมาก ขณะที่เสียงกลางและแหลมนั้นค่อนข้างจม แนวทางการปรับแต่งด้วยพาราเมตริคอีคิวจากในแอปฯ Edifier Connect นั้นจึงมีการปรับลดปริมาณเสียงทุ้มไปในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ได้ยกเพิ่มปริมาณเสียงกลางและเสียงแหลมในปริมาณที่ค่อนข้างมากพอสมควรเลย จึงได้เสียงที่ผมถูกใจ
มาในรุ่นใหม่อย่าง NeoBuds Pro 2 ครั้งแรกที่ผมลองฟังนั้นพบว่าสุ้มเสียงคอ่นข้างเปิดเผยเลยทีเดียว โดยเสียงทุ้มยังคงมีปริมาณเหลือเฟือเหมือนเช่นเคย ขณะที่เสียงกลางและแหลมนั้นก็มีปริมาณมากไม่เป็นรองกัน ทำให้ฟังนาน ๆ หรือเปิดดังแล้วผมรู้สึกว่าฟังแล้วไม่ค่อยสบายหูนัก ทำให้แนวทางการปรับพาราเมตริคอีคิวในหน้าเมนู Sound effects ของหูฟังรุ่นใหม่นี้ผมจึงให้ความสำคัญกับการปรับลดปริมาณเสียงในย่านความถี่เสียงทุ้ม ย่านกลางแหลม และเสียงแหลม โดยที่ยังพยายามรักษาลักษณะเสียงที่เปิดเผยและให้ละเอียดได้ดีของตัวหูฟังเอาไว้ ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินที่ผมทำได้สำเร็จเสียด้วย !!
เมื่อเปรียบเทียบกันโดยตรงหลังจากปรับแต่งพาราเมตริคอีคิวจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว ผมพบว่าเสียงของ NeoBuds Pro 2 สามารถถ่ายทอดรายละเอียดเสียงได้ดีกว่ากันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะใช้งานกับอุปกรณ์ Android ในโหมด LDAC Codec หรือใช้งานกับอุปกรณ์ iOS ในโหมด AAC Codec
นอกจากรายละเอียดที่ดีกว่าแล้ว NeoBuds Pro 2 ยังให้เสียงที่มีแบนด์วิดธ์กว้างกว่าด้วย ด้านเสียงทุ้มมีลักษณะนุ่มแน่นและลงได้ลึกมากขึ้นด้วย ในย่านเสียงกลางและเสียงแหลมนั้นก็มีลักษณะที่เปิดเผยและมีฮาร์มอนิกส์เสียงที่ดีกว่า การแยกแยะรายละเอียดของเสียงก็ดีกว่าไม่ว่าจะเปิดดังหรือเปิดเบา ๆ ไม่เพียงเท่านั้นหูฟังรุ่นใหม่นี้ยังมีเวทีเสียงที่กว้างกว่าด้วย ขณะที่ภาพรวมของเสียงทั้งหมดก็ยังฟังดูสบาย ๆ ไม่รุกเร้าหรือออกแนวโฉ่งฉ่างสักเท่าไรนัก
นั่นจึงเป็นสาเหตุทำให้ผมสามารถเลือกเพลงหลากหลากแนวใน playlist ที่เลือกเอาไว้ใช้ฟังกับหูฟังขนาดใหญ่อย่าง Apple AirPods Max ได้สบาย ๆ ทุกเพลงที่อยู่ใน playlist นี้ (https://tidal.com/browse/playlist/ec5b2962-56a7-490e-835d-0a7f809481fc)
บางเพลงที่มีลักษณะโชว์ไดนามิกเสียง หูฟังรุ่นนี้ก็สามารถถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างเร้าใจ จนครั้งแรกที่ได้ฟังผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลย หลังจากที่ฟังจนจบทั้ง playlist ดังกล่าว รวมทั้งอีกหลายอัลบั้มใน TIDAL หรือเพลงคุ้นหูอีกจำนวนหนึ่งที่ผมเก็บเอาไว้เครื่องเล่น FiiO M11s ผมก็พบว่าตัวเองได้หลงรักหูฟังไร้สายรุ่นนี้เข้าให้แล้ว
อ้อ อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกคือ แม้ว่าในรีวิวนี้ส่วนใหญ่ผมใช้งาน NeoBuds Pro 2 กับอุปกรณ์ Android อย่าง Samsung Galaxy S22 Ultra และ FiiO M11s โดยใช้งาน LDAC Audio Codec แต่ผมก็พบว่าเมื่อใช้งานกับอุปกรณ์ iOS อย่าง Apple iPhone 13 Pro Max โดยใช้งาน AAC Audio Codec คุณภาพเสียงก็มิได้ลดทอนลงไปจนเหมือนกับว่ากำลังใช้งานหูฟังคนละรุ่น หมายความว่ามันก็ยังฟังดีอยู่นั่นแหละครับ
ซึ่งในจุดนี้ต้องเรียนให้ทราบตรงกันครับว่า Audio Codec ในบลูทูธนั้นเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในหลาย ๆ ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพเสียง ในความเป็นจริงยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น คุณภาพของตัวขับเสียง, ภาครับสัญญาณบลูทูธ/ดิจิทัล ตลอดจนภาคขยายเสียงในตัวหูฟัง หรือแม้แต่ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการทำงานที่มีผลกับคุณภาพเสียงด้วยเช่นกัน
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หูฟังไร้สายรุ่นหนึ่งจะยังคงสามารถถ่ายทอด ‘คุณภาพเสียงที่ดี’ ได้ แม้ว่าเชื่อมต่อไร้สายด้วย Audio Codec ที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงสุดก็ตาม
Edifier NeoBuds Pro 2 เหมาะกับใคร ?
โดยส่วนตัวในฐานะที่ใช้งาน Edifier NeoBuds Pro รุ่นแรกอยู่ ผมบอกได้ว่าสองปีที่ผ่านมาทีมออกแบบของ Edifier ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า เพราะ NeoBuds Pro 2 นั้นได้รับการอัปเกรดไปจากรุ่นแรกโดยสมบูรณ์ทั้งด้านฟังก์ชันใช้งานและคุณภาพเสียง
โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพเสียงนี่ทำได้น่าประทับใจมาก ทำให้หูฟังรุ่นนี้สมกับคำว่าเป็นหูฟัง Hi-Res Audio Wireless ได้อย่างแท้จริง ซึ่ง Hi-Res Audio ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงตัวเลขการตอบสนองความถี่บนหน้ากระดาษเท่านั้น แต่หมายถึงเสียงที่มีความกระจ่างชัดเจน มีความสดใสสมจริง และเต็มไปด้วยรายละเอียดอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกันมันยังให้เสียงที่ easy ฟังสบายและเป็นมิตรกับโสตประสาทอีกต่างหาก ซึ่งในระดับราคานี้หรือแม้แต่ที่ราคาสูงกว่านี้เป็นเท่าตัวผมยังไม่เคยได้ประสบการณ์เช่นนี้จากหูฟังไร้สายรุ่นใดมาก่อนเลย ดังนั้นผมจึงสามารถรับประกันได้ว่าคนที่ต้องการอัปเกรดจาก NeoBuds Pro รุ่นแรก หูฟังอย่าง NeoBuds Pro 2 เป็นตัวเลือกที่คุณควรพิจารณาก่อนเป็นลำดับแรกครับ
สำหรับคนที่ใช้งานหูฟังอินเอียร์แบบเสียบสายคุณภาพดีอยู่และกำลังมองหาหูฟังไร้สาย TWS สักตัวไปใช้งานเพื่อความสะดวก แต่ไปลองฟังมาแล้วหลายรุ่นก็ยังไม่ถูกใจเสียที ผมอยากแนะนำให้ลองหูฟังรุ่นนี้ดูครับ มันอาจเป็นอะไรที่คุณกำลังค้นหาอยู่ก็เป็นได้
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย:
✅ 425degree
Edifier NeoBuds Pro 2 ราคา 4,590 บาท สั่งซื้อได้ที่ Link นี้
(โค้ดส่วน 200 บาท: 425nbp2 หมดอายุ 31 ตค. 66)
ทดลองฟังได้ที่หน้าร้าน 425degree ที่ ชั้น 4 CTW และ ชั้น 2 Mega Bangna
🔴 ข้อมูลเพิ่มเติมหูฟัง Edifier NeoBuds Pro 2: https://425.ee/3ZXB2VM
