fbpx
RECOMMENDEDREVIEW

รีวิว Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition “มิติใหม่ของมือถือแอนดรอยด์รุ่นกลาง”

Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition (เรดหมี่ โน้ต สิบสาม โปร พลัส ห้าจี เสียวหมี่ แฟน เฟสติวัล สเปเชียล อิดิชัน) คือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทางแบรนด์ได้ยกระดับการออกแบบที่ดูพรีเมียมพร้อมประสิทธิภาพระดับเรือธงให้สามารถมาอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับกลางในราคาที่จับต้องได้

ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มีสมรรถสูงในงบประมาณไม่ไกลเกินเอื้อม หรือสนใจรุ่นนี้อยู่พอดี สามารถพิจารณารายละเอียดจากรีวิวนี้ได้

คุณสมบัติและการออกแบบ
Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition มาพร้อมกับดีไซน์เรียบหรูดูดี มีความพรีเมียม และยังเป็นสมาร์ทโฟน Redmi Note Series รุ่นแรกที่เลือกใช้จอแสดงผลแบบโค้ง โดยเป็นจอ CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ที่มีกรอบหน้าจอบางเฉียบเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถรับชมเนื้อหาต่าง ๆ ได้เต็มตามากยิ่งขึ้น

หน้าจอในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังรองรับการแสดงผลที่อัตรารีเฟรชหน้าจอถึงระดับ 120Hz (AdaptiveSync 120Hz) ความสว่างสูงสุด 1800nits อัตราส่วนคอนราสต์ 5,000,000:1 ความละเอียดหน้าจอระดับ 1.5K (2712 x 1220 พิกเซล) สามารถถ่ายทอดสีสันได้ถึงระดับ 12bit พร้อมรองรับการแสดงผลตามกำหนดของ DCI-P3 wide color gamut และ Dolby Vision

Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ปิดด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass Victus พร้อมทั้งยังได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพในการรับชมบนหน้าจอนี้โดยหน่วยงาน TÜV Rheinland certifications (Flicker Free, Circadian Friendly, Low Blue Light) นอกจากนั้นตัวเครื่องทั้งยังได้รับการออกกแบบให้กันฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP68

ด้านสมรรถนะ Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition มาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7200-Ultra ซึ่งมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมระดับ 4 นาโนเมตร สนับสนุนด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 5000mAh (typ) ซึ่งรองรับการชาร์จเร็ว ไฮเปอร์ชาร์จ 120W สามารถชาร์จเต็ม 100% ได้ในเวลาเพียง 19 นาทีเท่านั้น !

นอกจากนี้ Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition ยังมาพร้อมการอัปเกรดคุณสมบัติด้านอื่น ๆ ให้เทียบเท่าสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่องที่เพิ่มขึ้นเป็น 512GB อำนวยความสะดวกในการจัดเก็บแอปพลิเคชันหรือข้อมูลมัลติมีเดียทั้งรูปภาพ คลิปวิดีโอและอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่

Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
โมดูลกล้องด้านหลังเครื่อง (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ได้รับการอัปเกรดมาพร้อมกันนั่นคือกล้องคมชัดพิเศษ ความละเอียดสูงสุด 200MP พร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS โดยมีกล้องหลักความละเอียด 200MP ที่ใช้เซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/1.65 และ Tetra pixel (เทคโนโลยี Pixel-binning ขั้นสูง) เพื่อปรับปรุงคุณภาพของภาพเมื่อถ่ายในที่แสงน้อย ขณะที่ชิ้นเลนส์เป็นแบบ 7P (7P lens) พร้อม Atomic Layer Deposition (ALD) ช่วยลดแสงแฟลร์และภาพซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนั้นยังมีกล้องเลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP และกล้องมาโคร 2MP รวมถึงกล้องหน้าความละเอียด 16MP พร้อมสำหรับการถ่ายภาพในหลากหลายรูปแบบ ฮาร์ดแวร์ของกล้องนี้ยังทำงานร่วมกับ Xiaomi Imaging Engine ซึ่งเป็นระบบการประมวลภาพเวอร์ชันใหม่ นอกจากนั้นสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังมีขอบเขตสี P3 แบบ end-to-end ที่มีพื้นที่สีที่กว้างกว่ามาตรฐาน sRGB ทำให้ภาพถ่ายในจอแสดงผลมีความสวยงามสมจริง

และผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มระดับภาพถ่ายด้วยตัวเลือกการปรับแต่งภาพที่หลากหลาย ได้แก่ ฟิลเตอร์ filmCamera ใหม่ล่าสุด เฟรมภาพแบบ Art และเอฟเฟกต์ AI bokeh

เพื่อตอบสนองประสบการณ์ที่ดีในการเล่นเกมตัวสมาร์ทโฟนมาพร้อมกับอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ระดับ 2160Hz ผสานเทคโนโลยี 16x super-resolution touch technology ในโหมด Game Turbo จึงให้การตอบสนองได้อย่างแม่นยำ เสริมด้วยระบบลำโพงคู่ในตัวและเทคโนโลยี Dolby Atmos เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์เสียงที่เร้าใจมากขึ้น

Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition รุ่นพิเศษมาในสี Mystic Silver สำหรับ Redmi Note 13 Pro+ 5G รุ่นมาตรฐานยังมีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สี Midnight Black, สี Moonlight White และสี Aurora Purple

Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ตัวเครื่องและอุปกรณ์มาตรฐานที่มาด้วยกัน (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

อุปกรณ์มาตรฐานและการใช้งาน
ครั้งแรกที่ได้รับตัวผลิตภัณฑ์ Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition มาแบบครบทั้งกล่องเหมือนของที่วางจำหน่ายจริง ๆ เรารู้สึกว่ามันหนักกว่ากล่องสมาร์ทโฟนทั่วไปที่เราคุ้นเคยมาก ในขณะที่รุ่นหลายยี่ห้อมาในกล่องบาง ๆ ที่ไม่มีแม้แต่อะแดปเตอร์ชาร์จไฟให้มา แต่เสียวหมี่ให้อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 120W แถมมาในกล่องเลย รวมทั้งสายชาร์จและเคสอย่างดี

ตัวเครื่องรองรับซิม 5G สองซิม (nano SIM + nano SIM หรือ nano SIM + eSIM) เพิ่มการ์ดหน่วยความจำเสริมไม่ได้ เชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC พร้อมทั้ง IR Blaster สำหรับการปลดล็อคหน้าจอนอกจากการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอแล้ว ยังสามารถปลดล็อคหน้าจอได้ด้วย AI Face Unlock

Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
รองรับ 5G แบบสองซิมทั้งนาโนซิมและ eSIM (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ช่องใส่ซิม, ไมโครโฟน, พอร์ต USB-C และลำโพงที่ด้านล่างของตัวเครื่อง (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
พอร์ต IR, ไมโครโฟน และลำโพงที่ด้านบนของตัวเครื่อง (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ปุ่มล็อคหน้าจอ และปุ่มปรับความดังเสียงที่ด้านขวามือของตัวเครื่อง (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

ตัวเครื่อง Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition มาในขนาดกะทัดรัดจับถือได้ถนัดมือ ตัวเครื่องดีไซน์เรียบหรูสวยงาม ซ่อนชุดลำโพงสำหรับคุยสนทนาเอาไว้อย่างแนบเนียนที่ขอบด้านบนของจอ หน้าจอขอบโค้งแลดูกลมกลืนกับฝาหลังขอบโค้งเช่นกัน ฝาหลังมีพื้นผิวด้านสีทูโทนพร้อมโลโก้แสดงความเป็นรุ่นพิเศษ

ขณะที่เฟรมหรือสันเครื่องด้านข้างมีลักษณะเป็นเหลี่ยมจับถือได้ถนัดมือ สำหรับโมดูลกล้องที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และนูนขึ้นมานั้นกลับดูสวยงามลงตัวดีเมื่อตัวสมาร์ทโฟนติดตั้งอยู่ภายในเคสสีเทาที่ให้มาด้วยกัน

Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
หน้า UI บางส่วน (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ผลการทดสอบด้วยแอปฯ Benchmark ต่าง ๆ (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ผลการทดสอบด้วยแอปฯ Benchmark ต่าง ๆ (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ผลการทดสอบด้วยแอปฯ Benchmark ต่าง ๆ (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
เข้าถึงคอนเทนต์ Dolby Visoin ใน Netflix ได้ (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

จากการใช้งานทั่วไปเราพบว่า Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition ซึ่งทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ MIUI 14 (Android 13) พร้อมทั้งหน่วยความจำ RAM 12GB (LPDDR5) พื้นที่ความจุในตัวเครื่อง 512GB (UFS3.1) สามารถใช้งานได้ลื่นไหลแทบไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นพรีเมียม

เท่าที่ได้ลองใช้ดูคอนเทนต์วิดีโอทั้งใน YouTube และ Netflix พบว่าการจัดการพลังงานและการระบายความร้อนถือว่าทำได้ดี แถมการดูคอนเทนต์ใน Netflix ยังสามารถเข้าถึงคุณภาพในส่วนของระบบภาพ Dolby Vision ได้ด้วย ซึ่งคุณสมบัตินี้มักพบได้เฉพาะแต่ในสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป

Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ตัวอย่างเมนูเลือกโหมดของกล้องเครื่อง (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดมาโคร (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

สำหรับการใช้งานในส่วนของกล้องหลักพบว่า Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition สามารถให้ภาพได้ดีทั้งในสภาพแสงปกติและแสงน้อย อาจเป็นรองรุ่นท้อปของเสียวหมี่ในแง่ของไดนามิกเรนจ์ของภาพอยู่บ้างแต่ก็ถือว่าดีมากแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนในระดับราคานี้

Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดซูมภาพ (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยถึงปานกลาง (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยถึงปานกลาง (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

 
Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
ตัวอย่างภาพถ่ายในยามค่ำคืน (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

ขณะที่การถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้างพิเศษให้ภาพชัดเจนทั่วทั้งภาพและแทบไม่มีความผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวบริเวณขอบภาพ การซูมภาพแม้จะมีข้อจำกัดในระดับหนึ่งสำหรับการซูมแบบออปติคัล ทว่าการซูมเสริมด้วยดิจิทัลซูมก็ยังเก็บรายละเอียดได้ดีพอสมควรเลย

จุดหนึ่งที่เราลองใช้แล้วรู้สึกประทับใจคือ หน้าจอของตัวโทรศัพท์มือถือที่ให้สีสันค่อนข้างตรงและเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับจอมอนิเตอร์ที่เราใช้งานอยู่ (เปิดใช้งานโหมดหน้าจอแบบมาตรฐาน) ข้อดีคือทำให้เราสามารถประเมินคุณภาพของภาพที่ถ่ายได้ง่ายกว่าหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ให้สีสันผิดเพี้ยน ซึ่งสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลางนี่คืออีกหนึ่งคุณสมบัติตอบโจทย์คนรักการถ่ายภาพจริง ๆ

Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition เหมาะกับใคร ?
หลังจากที่ได้ลองใช้งานโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์รุ่นนี้ เราพบว่าให้มันประสบการณ์หลาย ๆ อย่างในระดับเดียวกับโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์รุ่นแฟลกชิป โดยเฉพาะถ้าหากย้อนเวลากลับไปสัก 4-5 ปี แฟลกชิปบางรุ่นอาจเป็นรองรุ่นนี้เสียด้วยซ้ำ

Review Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition

ดังนั้นในความเห็นของเรา เราคิดว่านี่คือ มิติใหม่ของสมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์รุ่นกลาง ที่พยายามตอบโจทย์ของคนที่อยากได้ประสบการณ์ในการใช้งานรอบด้านเหมือนรุ่นแฟลกชิปทว่ายังมีงบประมาณที่จำกัด หรือสำหรับคนที่มองเรื่องของอัตราส่วนความคุ้มค่ากับงบประมาณที่ต้องจ่ายไป โทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว


ข้อมูลการวางจำหน่ายในประเทศไทย

• วางจำหน่ายรุ่นความจุ 12GB + 512GB ในสี Mystic Silver

• ราคา 15,990 บาท

• วางจำหน่ายที่ร้าน Xiaomi Store ทั่วประเทศ

• โปรโมชันพิเศษในช่วง 1-30 เม.ย. 67 ลูกค้าที่ซื้อ ‘Redmi Note 13 Pro+ 5G Special Edition’ จะได้รับเคสมือถือ BamBam สุดเอ็กคลูซีฟ พร้อมกระเป๋าเป้ Xiaomi Fan Festival 2024 มูลค่า 1,390 บาท* (หมายเหตุ* ของแถมมีจำนวนจำกัด / เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด)

กองบรรณาธิการ AV Tech Guide

สื่อออนไลน์ที่มีเนื้อหาครอบคลุมเกี่ยวกับเทคโนโลยีนวัตกรรมในกลุ่มสินค้าเครื่องเสียงไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ไอทีมัลติมีเดีย ตลอดจนสินค้านวัตกรรมอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ดำเนินงานโดยทีมงานมืออาชีพ