fbpx

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

รีวิว Marantz : HD-AMP1

เมื่อปีก่อนผมมีโอกาสได้รีวิว Marantz HD-DAC1 เครื่องเสียงในอนุกรม MusicLink Series ที่เกิดมาจากวิสัยทัศน์ของทีมออกแบบเครื่องเสียงมาร้านทซ์ตั้งแต่ปีค.ศ.1990 เพื่อให้เป็นเครื่องเสียงไฮไฟแนวคิดใหม่สไตล์มินิมอลลิสต์

ที่เรียกมินิมอลลิสต์ เพราะว่ามันมามีรูปลักษณ์ที่กะทัดรัด แม้จะดูว่าแอบหรูหราแต่ภาพลักษณ์ที่ปรากฏก็ยังคงดูสมถะเรียบง่าย เรียบง่ายเหมือนกับว่าไม่ได้มีพิษสงอะไรแต่คุณสมบัติและความสามารถพื้นฐานของมันไม่ได้มินิมอลตามไปด้วยเลย เช่นเดียวกับ Marantz HD-AMP1 เครื่องเสียงรุ่นใหม่ล่าสุดใน MusicLink Series

อินทิเกรตแอมป์ตัวเล็กในแบบฉบับของมาร้านทซ์
HD-AMP1 เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่มีรูปร่างหน้าตาละม้ายกับ HD-DAC1 ราวกับเป็นฝาแฝด การออกแบบโดยพื้นฐานเป็นอินทิเกรตแอมป์สเตริโอขนาดตั้งโต๊ะ ภาคขยายเสียงเป็นวงจรแบบ Class D กำลังขับข้างละ 35 วัตต์ (ที่โหลด 8 โอห์ม) หรือ 70 วัตต์ (ที่โหลด 4 โอห์ม) ช่วงความถี่ตอบสนอง 20Hz – 50kHz

สง่าราศีของอินทิเกรตแอมป์รุ่นนี้

นอกจากวงจรขยายเสียงแบบ Class D แล้ว ทีมออกแบบของมาร้านทช์ยังได้นำเอาเทคโนโลยีการป้อนกลับสัญญาณในโหมดกระแสไฟฟ้าหรือ ‘Current Feedback Technology’ มาใช้ในวงจรขยายเสียงของอินทิเกรตแอมป์รุ่นนี้ด้วย เทคโนโลยีนี้มาร้านทช์อ้างว่าพวกเขาได้พัฒนานำมาใช้งานเป็นเวลากว่า 55 ปีแล้ว เริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ในยุคที่มาร้านทช์สร้างชื่อด้วยแอมป์หลอดสุญญากาศโน่น

อีกส่วนหนึ่งที่เข้าใจว่าแฟนๆ ของยี่ห้อมาร้านทช์น่าจะเห็นกันจนชินตาแล้ว โดยเฉพาะในเครื่องเสียงระดับบนๆ ของมาร้านทช์นั่นคือวงจร HDAM-SA2 (ตัวย่อ HDAM มาจากคำว่าเต็มว่า ‘Hyper Dynamic Amplifier Module’) วงจรนี้ทางมาร้านทช์ได้พัฒนามาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วโดยมีใช้ครั้งแรกในเครื่องเล่นซีดี

เทคโนโลยีนี้เป็นการใช้วงจรขยายสัญญาณขนาดเล็กคุณภาพสูงแบบดิสครีตที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าแทนที่การใช้ไอซีออปแอมป์ทั่วไปซึ่งมักจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานอย่างเอนกประสงค์ มิได้จำเพาะมาสำหรับใช้งานในอุปกรณ์เครื่องเสียงไฮไฟ

ขั้วต่ออินพุตต่างๆ ด้านหลังเครื่อง และขั้วต่อสายลำโพง
ที่หยิบยืมมาจากเครื่องรุ่นไฮเอนด์ของมาร้านทช์เอง

HDAM ใน HD-AMP1 ยังเป็นเจนเนอเรชั่นล่าสุด HDAM-SA2 ที่พัฒนาให้มีแบนด์วิดธ์กว้างขึ้น, มีการตอบสนองที่ฉับไวมากขึ้นและมีความเพี้ยนต่ำลง ในรุ่น HD-AMP1 นี้มีการใช้วงจร HDAM-SA2 ในวงจรอยู่ 3 ส่วนได้แก่ วงจรอะนาล็อกขาเข้า, วงจรแปลงสัญญาณดิจิตอลเป็นอะนาล็อกและในวงจรภาคขยายหูฟัง ก่อนจะว่ากันในรายละเอียดอื่นๆ ต่อไป

สิ่งหนึ่งที่อยากเรียนให้ทราบคือ HD-AMP1 เป็นเครื่องเสียงในอนุกรม MusicLink Series ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเป็นเรื่องของ stylish & performance คือเป็นผู้ที่หลงใหลตัวสินค้าทั้งในเรื่องของหน้าตาและคุณภาพอันโดดเด่น

ดังนั้นการวางระดับและราคาของ HD-AMP1 จึงอยู่เหนือกว่าแอมปลิฟายใน PM Series จนขึ้นไปแตะระดับกลางสูงหรือระดับไฮเอนด์ของมาร้านทช์เอง สังเกตได้จากสนนราคาระดับเฉียดครึ่งแสนบาท อุปกรณ์เครื่องเคราส่วนประกอบต่างๆ ที่เป็นระดับพรีเมี่ยม (ตัวถัง, คอนเน็คเตอร์ต่างๆ หรือขั้วต่อสายลำโพง) สิ่งเหล่านี้ปรากฎชัดเจนตั้งแต่แรกเห็นครับ เหลือก็แต่เรื่อง performance ที่ผมต้องศึกษาและพิจารณาจาก HD-AMP1 หลังจากนั้น

DAC ในตัว ไม่ใช่แค่ของแถม
HD-AMP1 เป็นอินทิเกรตแอมป์สมัยใหม่ตามสมัยนิยมที่ไม่ได้มีเพียงแค่อินพุตสัญญาณอะนาล็อก (ANALOG 1, ANALOG 2) ขณะที่อินพุต Phono ที่เคยมีในอินทิเกรตแอมป์ของมาร้านทช์หลายๆ รุ่นหายไป แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคืออินพุตสัญญาณดิจิตอล ที่ใส่มาชนิดที่เรียกไม่ได้ว่าเป็น ‘ของแถม’ แต่จัดเต็มจนบางทีผมอยากจะเรียกมันว่าเป็น DAC ที่มีภาคขยายเสียงเสียด้วยซ้ำ แถมยังรองรับไฟล์เสียงยอดนิยมครบถ้วนทั้ง WAV, ALAC, FLAC, AIFF, MP3, AAC และ WMA

อินพุตสัญญาณดิจิตอลที่เด่นสุดคือ อินพุต Asynchronous ‘USB-DAC’ (USB-B) ที่รองรับสัญญาณเสียงรายละเอียดสูงไปไกลถึงระดับ 32bit/384kHz, DSD2.8 / DSD5.6 / DSD11.2 … ใช่แล้วครับ ไปถึงระดับ Quad-DSD เลยและเหนือ PCM 24bit/192kHz ไปอีกเท่าตัว โดยมีหัวใจของการทำงานอยู่ที่ชิพ DAC รหัส SABRE ES9010K2M จาก ESS ลำพังสเปคฯ พื้นฐานอย่างนี้พอจะสนับสนุนความเห็นของผมเรื่องที่ว่าอินพุตสัญญาณดิจิตอลในอินทิเกรตแอมป์ตัวนี้ไม่ใช่ของแถมได้ไหมครับ

ใช่ว่าจะมีเพียงแค่อินพุต USB-DAC ที่น่าสนใจ HD-AMP1 ยังมีอินพุต Coaxial, Optical ที่รองรับสัญญาณเสียงรายละเอียดสูงถึงระดับ 24bit/192kHz ด้านหน้าเครื่องยังมีพอร์ต USB-A สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ iOS (ไอโฟน, ไอพอดทัช, ไอแพด) ทั้งในโหมดชาร์จแบตและเล่นเพลง อีกทั้งยังสามารถเล่นเพลงจาก USB Flash Drive ได้ด้วย

ทำความรู้จัก HD-AMP1
เห็นตัวเล็กๆ อย่างนี้อย่าเพิ่งปรามาสเชียวนะครับว่า HD-AMP1 จะเป็นแอมป์ที่มาร้านทช์ทำมาเพื่อขายหน้าตาเพียงอย่างเดียว ตัวเล็กๆ อย่างนี้น้ำหนักเกือบ 6 กิโลเลยนะครับ

ยิ่งรู้ว่าข้างในเป็นแอมป์ Class D ก็ยังแปลกใจว่าทำไมถึงหนักเกินคาด แต่พอดูสเปคฯ อีกที อ่อ กำลังขับของเขาเบิ้ลได้เป็นเท่าตัวเลยเมื่ออิมพิแดนซ์ของโหลดลดจาก 8 เหลือ 4 โอห์ม นั่นหมายความมันเป็นแอมป์ Class D ที่มีกำลังสำรองดีมาก แบบนี้เรียกว่าไม่โม้เอาตัวเลขกำลังขับบนกระดาษให้เยอะเข้าว่า แต่เป็นตัวเลขกำลังขับที่ใช้งานได้จริง เป็นกำลังขับในเชิงพลวัต (dynamic power)

วงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายใน HD-AMP1

เมื่อได้มีโอกาสจับเครื่องมาใช้งานจริง ก็ต้องบอกว่าแอมป์หน้าตาเรียบๆ แบบ HD-AMP1 นี่ลูกเล่นหรือคุณสมบัติต่างๆ นั้นไม่ได้กะทัดรัดไปตามตัวเลย บนหน้าปัดเรียบๆ มองเห็นปุ่มต่างๆ อยู่แค่ไม่มีปุ่ม

ลูกบิดขนาดใหญ่ด้านซ้ายสำหรับเลือกอินพุตที่จะฟัง ด้านขวามือถัดมาเป็นจอแสดงผลสไตล์ Porthole หรือช่องอากาศข้างเรือซึ่งได้กลายเป็นลายเซ็นของเครื่องเสียงมาร้านทช์ไปแล้ว ลูกบิดใหญ่อีกตัวด้านขวามือเป็นวอลุ่มคอนโทรล ถัดมาด้านล่างเป็นเอาต์พุตหูฟัง (6.3mm headphone output)

บนหน้าปัดของ HD-AMP1 ยังมีปุ่ม SETUP เพื่อเข้าถึงเมนูการตั้งค่าต่างๆ ของเครื่อง ซึ่งมีตั้งแต่ระดับความสว่างของหน้าจอแสดงผล, เลือกโหมดแสตนด์บายอัตโนมัติ, เลือกโหมดการใช้งานกับ iPod, เลือกดิจิตอลฟิลเตอร์, เกนขยายของเอาต์พุตหูฟัง, การปรับชดเชยเสียงทุ้มหรือเสียงแหลม, ปรับสมดุลซ้าย/ขวา หรือการตั้งค่าต่อตรง (S.Direct) บายพาสทุกฟังก์ชั่นปรับเสียงที่ว่ามาเพื่อฟังแบบ flat (ไม่มีการปรับแต่งเสียง) ซึ่งตลอดการรีวิวผมเลือกไว้ตรงนี้

นอกจากนั้นในกรณีที่ใช้งานลำโพงขนาดเล็ก หรือชุดลำโพง Sub+Sat แบบ 2.1 แชนเนล ที่ด้านหลังเครื่อง HD-AMP1 ยังมีขั้วต่อ SUBWOOFER OUT สำหรับให้ต่อพ่วงใช้งานกับลำโพงซับวูฟเฟอร์ได้ด้วย

ตลอดการรีวิวอินทิเกรตแอมป์รุ่นนี้ผมเน้นใช้งานตามจริงคือ ใช้งานที่อินพุต USB-DAC เป็นหลัก โดยมีคอมพิวเตอร์ที่เล่นเพลงจากโปรแกรม roon เป็นแหล่งสัญญาณต้นทาง สลับกับเน็ตเวอร์คทรานสปอร์ตอย่าง Clef Audio Zero One

สำหรับอินพุตอะนาล็อกของ HD-AMP1 มีการลองใช้งานบ้างเป็นครั้งคราวแต่ไม่ได้ให้ความสำคัญมากเท่าอินพุต USB-DAC เนื่องจากในปัจจุบันผมเองฟังเพลงจากแหล่งสัญญาณอะนาล็อกไม่บ่อยนัก แต่เหนือสิ่งอื่นใด คงเป็นเพราะอินพุต USB-DAC ของอินทิเกรตแอมป์รุ่นนี้มีคุณสมบัติและคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม

ผมว่าถ้าเทียบกับ USB-DAC แบบแยกชิ้นทั่วไป ภาค DAC ในตัว HD-AMP1 ควรจะต้องมีมูลค่ามากกว่า 50% ของราคาเครื่องเลยทีเดียว อันนี้ผมยืนยันความเห็นอย่างจริงจังเลยนะครับ

ลองขับลำโพงความไวต่ำ
ช่วงแรกของการทดสอบภาคคุณภาพเสียง ผมลองใช้แอมป์ตัวนี้ขับลำโพงราคาประหยัดและมีความไวค่อนข้างต่ำอย่าง Mission VX2 (คู่ละ 8,750 บาท ตู้เปิด สองทาง ความไว 85dB) ตลอดจนลำโพงตู้ปิดความไวค่อนข้างต่ำอย่าง XAV Klaszix 1A (26,500 บาท ตู้ปิด สองทาง ความไว 87dB) และ NHT C-3 (42,200 บาท ตู้ปิด สามทาง ความไว 87dB) สิ่งที่พบเจอกับหูของตัวเองก็คือ HD-AMP1 แสดงพฤติกรรมชัดเจนว่ามันขับลำโพงอย่าง VX2 ได้ง่ายที่สุด รองลงมาก็ Klaszix 1A ส่วนลำโพง C-3 นั้นต้องเรียกว่าพอจะใช้งานได้แต่ถ้าว่ากันตามจริงแล้วก็ยังไม่ใช่แอมป์ที่จะรีดเค้นประสิทธิภาพของลำโพงรุ่นนี้ออกมาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

USB-DAC ในตัวรองรับไฟล์ 24bit/352.8kHz
USB-DAC ที่บิลต์อินมานี้ยังรองรับ DSD 11.2MHz ด้วยครับ​

น้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนจะเป็นบุคลิกของอิมเกรตแอมป์ตัวนี้คือ การแจกแจงรายละเอียดซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของเสียงที่มีความนุ่มนวลของมวลเนื้อเสียง มันทำให้ลำโพง VX2 ฟังดูคุ้มค่าเกินค่าตัว เสียงกลางทุ้มลงไปถึงย่านความถี่ต่ำๆ มี definition หรือการแยกแยะรายละเอียดที่เด็ดขาดชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในภาพรวมถือว่าแมตช์กันดีเลยล่ะครับทั้งในแง่ของกำลังขับและคุณภาพเสียง ตัวเลขความไวที่ 85dB ของ VX2 ไม่ใช่อุปสรรคเลยสำหรับอินทิเกรตแอมป์กำลังขับข้างละ 35 วัตต์ตัวนี้ เรียกว่าเปิดฟังอัลบั้ม Companion (ไฟล์ DSD64) ของ Patricia Barber ฟังได้แบบเพลินๆ ทั้งอัลบั้มเลยล่ะ

สำหรับการใช้ขับลำโพง Klaszix 1A ผมชอบความราบรื่นในเสียงกลางที่ได้จากชุดนี้เป็นพิเศษ มันเป็นเสียงที่ชัด เต็ม สะอาดและมีรายละเอียดเต็มไปหมดแม้จะใช้ระดับวอลุ่มของ HD-AMP1 ค่อนข้างสูงก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ในวิสัยที่พูดได้ว่าขับได้ สุ้มเสียงในภาพรวมคล้ายเสียงที่ได้จากแอมป์หลอดซิงเกิ้ลเอนด์ไตรโอด เป็นเสียงที่สว่างสดใสแต่ฟังลื่นหู ขณะที่เสียงทุ้มมีปริมาณจำกัด ลำพังฟังเพลงร้องเบาๆ หรือแจ๊ซที่มีดนตรีน้อยชิ้นไม่เน้นอึกทึกก็พอฟังได้เพลินๆ แต่ถ้าจะให้ได้อรรถรสเต็มที่กับดนตรีที่ดุดันกว่นั้นควรหาลำโพงซับวูฟเฟอร์ที่แมตช์กันมาต่อพ่วงที่ SUBWOOFER OUT ของ HD-AMP1 น่าจะดี

ลองขับลำโพง Mission LX2
ในช่วงท้ายก่อนที่ผมจะมาเขียนสรุปเป็นรีวิวนี้ ผมมีโอกาสได้ลองฟัง HD-AMP1 กับลำโพงรุ่นใหม่ของ Mission นั่นคือ Mission LX2 ซึ่งอยู่ใน Series ที่สูงกว่า VX2 ลำโพง LX2 มีความไวแค่ 85dB อิมพิแดนซ์เฉลี่ยอยู่ที่ 6 โอห์ม ลำพังตัวเลขเหล่านี้ออกจะน่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกันสำหรับแอมป์ที่มีกำลังขับ 35 วัตต์ต่อข้าง

แต่อย่างที่ได้เรียนไว้ข้างต้นว่ากำลังสำรองของ HD-AMP1 นั้นจัดว่าไม่ธรรมดา ประกอบกับตัวลำโพง LX2 มีอิมพิแดนซ์ต่ำสุดตามสเปคฯ อยู่ที่ 4.1 โอห์ม ก็ถือว่ายังไม่สาหัสจนเกินไปนักสำหรับแอมป์ที่มีเรี่ยวแรงเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ไม่เยอะอย่างนี้ สำหรับผลลัพธ์ที่ออกมาผมถือว่ายอดเยี่ยมเลยครับ

มันเหมือนส่วนผสมระหว่างประสบการณ์ที่ได้จากตอนที่ฟังกับลำโพง VX2 และลำโพง Klaszix 1A คือมันเป็นความรู้สึกที่ได้หลังจากฟังเสียงน่ะครับ ไม่ใช่เรื่องของสมการ 1+1 เท่ากับ 2 หรอกครับ ทว่าในภาพรวมถือว่าน่าพอใจเลย บวกลบคูณหารแล้วเหมือนข้อจำกัดต่างๆ จะน้อยลงไปเยอะ

ระหว่างใช้งานร่วมกับลำโพง Mission LX2

ลำพังเปิดเพลงที่ริบมาจากแผ่นซีดีก็ฟังออกแล้วว่านี่คือส่วนผสมที่ลงตัวกันดีคู่หนึ่ง ขนาดเป็นอัลบั้มเพลงทั่วๆ ไปอย่างชุด All-4-One อัลบั้มเปิดตัวของ 4 หนุ่มวง All-4-One เอามาเปิดในพ.ศ.นี้ กับซิสเตมนี้ยังให้ความอิ่มเอมในการฟังได้ดีเยี่ยม กับซิสเตมง่ายๆ แต่เสียงดีมากเกินคาดแบบนี้แหละครับ

เพื่อพิสูจน์ว่า 35 วัตต์ใน HD-AMP1 สามารถขับ LX2 ได้ดี และภาค USB DAC ใน HD-AMP1 สามารถถ่ายทอดความเป็นดนตรีได้เกินคุ้ม ผมยังเลือกไฟล์เพลงจากอีกหลายๆ อัลบั้มมาพิจารณา หนึ่งในนั้นคืออัลบั้ม Tears Of Missing ของ Tong Li (ถงลี่)

มันเป็นเรื่องน่าแปลกพอสมควรนะครับที่แอมป์ Class D ตัวนี้กลับไปให้เสียงละม้ายคล้ายคลึงกับแอมหลอดซิงเกิ้ลเอนด์ไตรโอด มันโปร่ง มันสว่างสดใส และมีเกรนเสียงที่ละเอียดและเกลี้ยงเกลา ความหยาบกร้านรกหูของแอมป์ Class D เมื่อในอดีตกลายเป็นเรื่องของความทรงจำสีจางๆ ไปเสียแล้วเมื่อเทคโนโลยีของแอมป์ Class D เดินทางมาได้จนถึงจุดนี้

แอมป์ Class D กับ แอมป์ Class D
ด้วยความบังเอิญหรือด้วยโชคชะตามิทราบ ในวาระที่กำลังฟัง HD-AMP1 กับ LX2 ผมก็ได้รับอินทิเกรตแอมป์รุ่นใหม่ของยี่ห้อเดน่อน ‘Denon’ มาลองฟังด้วย มันคือ Denon PMA-50 อินทิเกรตแอมป์ที่ใช้ภาคขยายเสียงแบบ Class D เช่นกัน มีกำลังขับข้างละ 30 วัตต์ที่โหลด 8 โอห์ม และเพิ่มขึ้นเป็น 50 วัตต์เมื่อโหลดลดลงเป็น 4 โอห์ม

หลายท่านที่ทราบว่ายี่ห้อ Marantz และ Denon ซึ่งในปัจจุบันอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันของ D+M Group (DMGlobal) คงมีการแบ่งเทคโนโลยีแอมป์ Class D ซึ่งกันและกัน สุ้มเสียงก็คงจะไปในแนวทางเดียวแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้วจากน้ำเสียงที่ได้ยิน มันไม่ใช่เลยครับ แอมป์ทั้งคู่เมื่อใช้ขับลำโพง LX2 มันให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน

ผมยังคงยืนยันว่า HD-AMP1 ให้เสียงผ่าน LX2 คล้ายแอมป์หลอดซิงเกิ้ลเอนด์ไตรโอด เด่นมากที่เสียงกลางและแหลม ถ้าจัดระเบียบของซิสเตมให้ดี เซ็ตอัพเหมาะสม เสียงทุ้มที่เด่นน้อยกว่า มันก็แค่ฟังเด่นน้อยกว่า แต่จะไม่ใช่ตัวปัญหาที่คอยลดทอนอรรถรสในการฟังเพลง ขณะที่ PMA-50 ถ่ายทอดน้ำเสียงผ่านลำโพง LX2 ในโทนที่นุ่มนวลกว่า ละมุนละไมกว่า มีสมดุลเสียงค่อนไปทางกลางทุ้มมากกว่ากลางแหลม

รายละเอียดที่ถ่ายทอดออกมาไม่ใช่ลักษณะจะแจ้งชัดเจนเหมือนอย่าง HD-AMP1 คือถ้าเสียงจาก HD-AMP1 เปรียบเป็นกาแฟเอสเปรสโซ เสียงจาก PMA-50 ก็เป็นกาแฟลาเต้จากหัวเชื้อกาแฟเดียวกันอะไรประมาณนั้นล่ะครับ

อินทิเกรตแอมป์เสียงดียุคใหม่กับแนวคิดทันสมัย
ด้วยความรู้สึกจากใจจริง ครั้งแรกที่่เห็น HD-AMP1 ผมคิดว่ามันเป็นแค่เครื่องเสียงในกลุ่มไลฟ์สไตล์ที่ไม่สามารถจะมาเอาจริงเอาจังอะไรกับคุณภาพเสียง

แต่พอได้ใช้งานจริงๆ แล้ว อินทิเกรตแอมป์หน้าตาดีตัวนี้ก็ได้ฉายแววของเครื่องเสียงไฮไฟยุคใหม่ออกมา คำว่ายุคใหม่ในที่นี้คือแนวคิดไม่ยึดติดอยู่กับรูปแบบเดิมๆ ว่าไปตั้งแต่เรื่องของการใส่วงจร DAC ชั้นดี (ชนิดที่ว่าทำแยกขายอีกรุ่นก็ได้) มาในตัว หรือการนำวงจรแอมป์ Class D ที่ยุคหนึ่งคนไฮไฟเขาไม่เอากันมาใช้โดยให้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้พิสูจน์ตัวของมันเอง แล้วอินทิเกรตแอมป์ตัวนี้ก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างน่าชื่นชม

ถ้าชอบเครื่องเสียงน้อยชิ้น เล่นง่าย แต่สุ้มเสียงออกมาแล้วทำให้อ้าปากค้างได้… ผมว่า Marantz HD-AMP1 ตัวนี้มิสามารถมองข้ามไปได้เลยจริงๆ ครับ


นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บริษัท เอ็ม.ไอ.เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
โทร. 0-2254-3316-9
ราคา : 49,900 บาท

มนตรี คงมหาพฤกษ์

ผู้ก่อตั้งสื่อออนไลน์ AV Tech Guide อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารและออนไลน์ GM2000 Magazine จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนใจเครื่องเสียงทั้งระบบอะนาล็อกและดิจิทัล ใช้งานสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android ใช้คอมพิวเตอร์ทั้ง macOS และ Windows หลงใหลเทคโนโลยีเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนี้กำลังเห่อระบบบันทึกเสียงและไมโครโฟนแบบมืออาชีพ