รีวิว Cleer : ARC II Sport “หูฟังไร้สาย Open-Ear แนวสปอร์ตดีไซน์ล้ำ ตอกย้ำจุดเด่นในด้านฟังก์ชัน”
หูฟังไร้สายแบบเปิดหูหรือ Open-Ear เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ใหม่ที่มาแรงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว แบรนด์ล่าสุดที่เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยก็คือยี่ห้อ Cleer Audio (เคลียร์ ออดิโอ) จากสหรัฐอเมริกา ประเดิมด้วยรุ่น ARC II Music และ ARC II Sport ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติที่อัดแน่นทั้งด้านฟังก์ชันและด้านเทคโนโลยีเสียง
จากประวัติความเป็นมา Cleer Audio ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 จากการรวมตัวของผู้ที่ชื่นชอบและหลงรักเสียงเพลงที่ต้องการนำเสนอประสบการณ์การฟังที่ไม่ซ้ำแบบใคร โดยทีมงานของ Cleer มีทั้งผู้ที่คร่ำหวอดในวงการเครื่องเสียงและผ่านการร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมาเป็นเวลานาน
นั่นจึงไม่น่าแปลกใจนักที่หนึ่งในหูฟังสองรุ่นที่เปิดตัวในไทยอย่าง ARC II Sport นั้นได้รับรางวัลในด้านการออกแบบจาก Reddot มาแล้ว (Reddot Winner 2023)
คุณสมบัติและการออกแบบ
Cleer ARC II Sport เป็นหูฟังไร้สายแบบ open-ear ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันแบบแอคทีฟรวมถึงออกกำลังกายโดยเฉพาะ มาพร้อมที่เกี่ยวหูและบานพับสปริงที่มีความยืดหยุ่นได้ช่วยเพิ่มการยึดเกาะ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสวมใส่ได้อย่างสบายและกระชับมากยิ่งขึ้น สามารถสวมใส่ใช้งานได้นาน ๆ โดยไม่รู้สึกอึดอัดหรือระคายหู
ด้วยดีไซน์ที่เป็นแบบเกี่ยวหู และตัวขับเสียงที่ออกแบบมาให้วางอยู่หน้ารูหู ไม่ได้ปิดทับหรืออุดเข้าไปในรูหู ผู้ใช้งานจึงยังคงสามารถใช้งานหูฟังหรือฟังเพลงเพลิน ๆ พร้อมทั้งยังได้ยินเสียงจากสภาพแวดล้อมภายนอกไปด้วยเพื่อที่จะได้ไม่พลาดการสื่อสารใด ๆ
นอกจากนั้นตัวหูฟังยังมาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำหรือเหงื่อได้ในระดับ IPX5 จึงสามารถใช้งานในกิจกรรมทั่วไปรวมถึงการออกกำลังกาย ตลอดจนการทำความสะอาดที่สามารถทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
สะดวกมากขึ้นไปอีกด้วยคุณสมบัติ Multipoint Connectivity ให้เชื่อมต่อบลูทูธกับอุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน สามารถสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้แบบง่าย ๆ
ด้านคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพเสียงโดยตรง Cleer ARC II Sport เลือกใช้ตัวขับเสียงแบบไดนามิกแม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 16.2mm เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.3 รองรับระบบเสียง Snapdragon Sound รองรับ Audio Codec ทั้ง AAC, SBC, aptX Adaptive และ aptX Lossless
ตัวหูฟังมาพร้อมกับไมโครโฟนแบบ Beamforming ข้างละ 2 ตัว พร้อมระบบเสียง aptX Voice ช่วยลดเสียงรบกวนภายนอก เพื่อการคุยสนทนาที่คมชัด สามารถใช้งานร่วมกับแอปฯ เสริมที่ชื่อ ‘Cleer+’ เพื่อช่วยอำนวยความสะดกวในการใช้งานเพิ่มเติมอย่างเช่น การปรับแต่งเสียงด้วย EQ หรือการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในอนาคต
ตัวหูฟังยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวที่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมง โดยเวลารวมจะเพิ่มเป็น 35 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ นอกจากนั้นยังรองรับการชาร์จเร็วซึ่งใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที ก็สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง
อีกหนึ่งความพิเศษของตัวเคสชาร์จคือ นอกจากใช้เก็บและชาร์จไฟให้กับตัวหูฟังได้แล้ว ยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV-C ได้ด้วย สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียให้กับตัวหูฟังได้โดยอัตโนมัติขณะที่เก็บอยู่ในเคสชาร์จ
การเชื่อมต่อและการใช้งาน
อุปกรณ์มาตรฐานที่มาพร้อมกับตัวหูฟัง Cleer ARC II Sport นอกจากเคสชาร์จแล้วก็ยังมีสายชาร์จ USB-A to USB-C ความยาวประมาณ 1 คืบให้มาด้วยอีก 1 เส้น รวมทั้งผ้าเช็ดทำความสะอาดและเอกสารคู่มือใช้งาน
สำหรับ first impression ของหูฟังรุ่นนี้ต้องบอกว่าสิ่งแรกที่รู้สึกค่อนข้างสะดุดตาคือ ตัวเคสชาร์จที่ดูหรูหราสวยงาม ผิวด้านนอกเป็นวัสดุผ้าให้สัมผัสนุ่มมือ แม้ว่าตัวเคสชาร์จนั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ (ประมาณก้อนสบู่มาตรฐาน) แต่ด้วยลักษณะที่แบนและโค้งมนทำให้สามารถพกพาได้ไม่ยากเย็นนัก
การจับคู่และเชื่อมต่อใช้งานครั้งแรกสามารถทำได้ง่ายและสะดวกไม่ต่างจากหูฟังไร้สาย TWS ทั่วไป การเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกันทั้งสองเครื่องก็สามารถทำได้ง่ายด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนสองเครื่อง สมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนกับคอมพิวเตอร์
หรือจะใช้งานกับสมาร์ททีวีรุ่นใหม่ ๆ ที่เชื่อมต่อหูฟังไร้สายได้ ก็ไม่เกี่ยงเช่นกัน สำหรับการเปิดใช้งานโหมดจับคู่ (pairing) ของตัวหูฟังก็สามารถทำได้ง่าย ๆ แค่กดค้างปุ่มกด Multi Function Button (MFB) ที่อยู่ในตัวเคสชาร์จ (ขณะที่หูฟังอยู่ในตัวเคส)
สำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่จับคู่กันไว้แล้วต้องถือว่าสามารถทำได้อย่างรวดเร็วฉับไวไม่ต่างจากหูฟังไร้สายระดับพรีเมียม ตัวหูฟังสามารถใช้งานแยกเดี่ยว ๆ ได้ทั้งสองข้าง ไมโครโฟนสำหรับใช้สนทนาถือว่าให้เสียงชัดเจนโดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่เงียบ และยังตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีพอสมควรเมื่อใช้งานแบบ outdoor
ในขณะที่การควบคุมสั่งงานด้วยระบบสัมผัสนั้นถือว่า ควบคุมได้ง่าย ไปตามนิ้วสั่งได้ดีไม่ว่าจะเป็นการแตะ 1 ครั้ง, 2 ครั้ง, 3 ครั้ง หรือว่าแตะค้าง ส่วนหนึ่งอาจเป็นตัวตัวหูฟังเองมีพื้นที่ค่อนข้างมากและเซ็นเซอร์ตรวจจับการสัมผัสก็มีความแม่นยำดี สามารถใช้ในการการลด/เพิ่มเสียง, การข้าม/ย้อนแทร็ค, เล่น/หยุดเพลง, รับ/วางสาย รวมถึงการเรียกใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง (Siri, Google Assistant)
สำหรับอีกหนึ่งคุณสมบัติหรือฟังก์ชันที่มีในหูฟังรุ่นนี้คือ การควบคุมสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหว (Motion Control) โดยอาศัยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่อยู่ในตัวหูฟัง เมื่อเปิดใช้งาน (ในแอปฯ Cleer+) เราสามารถพยักหน้าเพื่อรับสายเรียกเข้าได้ หรือส่ายหน้าสองครั้งเพื่อปฏิเสธสายเรียกเข้าหรือวางสายได้ หรือจะสั่งย้อน/ข้ามเพลงด้วยการหันซ้าย/ขวาก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดีฟังก์ชันนี้อาจจะเหมาะกับการใช้งานในบางสถานการณ์ เช่น การออกกำลังกายที่โฟกัสอยู่ที่จุด ๆ เดียว การนั่งหรือยืนนิ่ง ๆ อยู่กับที่ เพราะเมื่อเราลองเปิดใช้งานในสภาพแวดล้อมการใช้งานทั่วไปพบว่าเราเผลอเปลี่ยนเพลงโดยไม่ได้ตั้งใจบ่อยครั้งเลยทีเดียว
ด้านคุณภาพเสียงที่ได้จากตัวหูฟัง Cleer ARC II Sport นั้นต้องบอกว่าเป็นเสียงที่คมชัดสดใสพอสมควร เด่นที่เสียงกลางและเสียงกลางแหลมมากกว่าเสียงในย่านความถี่ต่ำ หากว่าไม่นับช่วงเสียงทุ้มลึกแล้วสมดุลเสียงโดยรวมก็ถือว่าเป็นหูฟัง Open-Ear ที่สมดุลเสียงค่อนข้างดีเลยทีเดียว อย่างน้อยเนื้อเสียงก็มีความอิ่มหนาไม่บางเบาเสียจนไม่มีน้ำหนัก อย่างไรก็ดีในภาพรวมก็ยังเหมาะสำหรับใช้ฟังคอนเทนต์ประเภทรายการข่าว พอดแคสต์ รายการประเภทพูดคุยสนทนา หรือใช้สำหรับการพูดคุยสนทนาตลอดจนการประชุมออนไลน์ มากกว่าการฟังเพลงแบบไฮไฟเหมือนพวกหูฟังอินเอียร์ระดับพรีเมียม
ซึ่งลักษณะดังกล่าวก็ถือว่าเป็นเรื่องค่อนข้างปกติสำหรับหูฟังประเภท Open-Ear เพราะเท่าที่ได้ลองมาปัจจุบันเรายังไม่เจอตัวไหนที่ให้เสียงได้เต็มย่านความถี่เสียงในแบบไฮไฟเลย
เราพบว่าการขยับตัวหูฟังให้เข้าที่เข้าทางหรือการปรับเสียงในแอปฯ Cleer+ อาจพอช่วยให้สมดุลเสียงอิ่มหนาขึ้นได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ได้เสียงเทียบเท่ากับหูฟัง true wireless (TWS) ในระดับราคานี้อยู่ดี โดยเฉพาะ TWS ประเภทอินเอียร์อย่าง Edifier NeoBuds Pro 2 หรือ Apple AirPods Pro 2
ดังนั้นนี่จึงอาจเป็นที่สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรามองว่าการรองรับ Audio Codec คุณภาพสูงในหูฟังรุ่นนี้อาจไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรในแง่ของคุณภาพเสียงมากนัก เนื่องมาจากลักษณะทางกายภาพของหูฟังประเภท Open-Ear เอง
อย่างไรก็ดี สองเรื่องที่ Cleer ARC II Sport ทำได้ดีและสร้างความประทับใจให้เราก็คือการสวมใส่ที่กระชับแล้วยังค่อนข้างสะดวกสบายด้วย เรื่องขนาดอาจไม่ใช่ปัญหาสักเท่าไร เพราะเมื่อใส่ใช้งานมันค่อนข้างแบนราบไปกับใบหูและน้ำหนักที่ไม่มากจนเกินไป ใส่ใช้งานแล้วจึงไม่รู้สึกว่าเทอะทะ
ขอติงนิดเดียวที่ตัวปลายก้านที่กล้องรอบใบหูนั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ทำให้เวลาสวมใส่ใช้งานเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าบริเวณกระดูกอ่อนด้านหลังใบหูได้ แต่ทั้งนี้ก็อาจขึ้นอยู่กับสรีระและรูปทรงใบหูของผู้ใช้งานแต่ละคนด้วย
อีกเรื่องที่ประทับใจก็คือตัวแอปฯ Cleer+ ที่ออกแบบ UI มาได้สวยงามน่าใช้ บนหน้าหลักสามารถแสดงค่าพลังงานในแบตเตอรี่ทั้ง % พลังงานและเวลาที่ยังสามารถใช้งานได้ นอกจากนั้นยังสามารถเข้าถึงการตั้งค่าหรือการเปิดใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ของตัวหูฟังได้ด้วย แถมยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเซอร์ไพรซ์ก็คือ มันสามารถเก็บสถิติการนับก้าวเดินของเราได้ด้วย ซึ่งเข้าใจว่าก็อาศัยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวในตัวหูฟังนั่นเอง
Cleer ARC II Sport เหมาะกับใคร ?
Cleer ARC II Sport เป็นหูฟังไร้สายประเภท Open-Ear ที่มีจุดเด่นในแง่ของดีไซน์ที่ทันสมัยทั้งในด้านของรูปลักษณ์และฟังก์ชันในการใช้งานที่โดดเด่นกว่าหูฟังไร้สายประเภท Open-Ear รุ่นราคาถูก
ดังนั้น Cleer ARC II Sport จึงเหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหูฟังไร้สายแนวสปอร์ตที่มีดีไซน์สวยงาม เมื่อสวมใส่ใช้งานแล้วยังไม่ถูกตัดขาดจากสภาพแวดล้อมหรือเสียงที่อยู่รอบ ๆ สามารถสนทนากับคนรอบข้างได้อย่างปกติเหมือนไม่ได้กำลังใส่หูฟัง ขณะที่ฟังก์ชันอย่างการใช้ UV-C ฆ่าเชื้อให้ตัวหูฟังก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความเอาใจใส่ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถหยิบใช้งานได้อย่างสบายใจ
สำหรับคุณสมบัติที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันสองเครื่องนั้น เป็นการเปิดโอกาสให้ใช้งานหูฟังรุ่นนี้ได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น เหมาะกับคนที่มีอุปกรณ์ที่ใช้รับชมคอนเทนต์มากกว่าหนึ่งเครื่อง ก็สามารถใช้งานได้สะดวกโดยไม่ต้องคอยสลับการเชื่อมต่อไปมาระหว่างอุปกรณ์ให้เสียเวลาและหงุดหงิดใจ
หูฟังไร้สาย Cleer ARC II Sport มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ/ทอง และ สีดำ/แดง วางจำหน่ายในราคา 7,490 บาท สามารถหาซื้อและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการฟังเพลงได้แล้ววันนี้ที่ Studio7, BB Beyond D-box, Banana IT และ Pro Gadget หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง https://www.facebook.com/GadgetbyRTB
