แผ่นเสียงมียอดขายแซงหน้าแผ่นซีดีเป็นครั้งแรกในรอบ 30 กว่าปี
ข้อมูลสถิติล่าสุดที่มีรายงานจากอุตสาหกรรมจำหน่ายสื่อบันทึกเสียงในสหรัฐอเมริกาเผยว่า ยอดขายแผ่นเสียงไวนิลมียอดขายแซงหน้าแผ่นซีดีเป็นครั้งแรกในรอบ 30 กว่าปี
รายงานจาก RIAA (Recording Industry Association of America) หรือ สมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา รายงานว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ท่ามกลางวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยอดขายแผ่นเสียงนั้นมีมูลค่าถึง 232.1 ล้านเหรียญสหรัฐ แซงหน้ายอดขายแผ่นซีดีที่ 129.9 ล้านเหรียญสหรัฐไปไกล
โดยยอดขายแผ่นเสียงนั้นคิดเป็น 62% ของยอดจำหน่ายสื่อบันทึกเสียงแบบจับต้องได้ (physical media) ทั้งหมด อย่างไรก็ดียอดจำหน่ายนี้ยังลดลงถึง 23% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งทาง RIAA สรุปว่าเป็นผลมาจากความจำเป็นในการปิดร้านขายแผ่น และการงดแสดงคอนเสิร์ต
อย่างไรก็ตามตัวเลขของยอดขายแผ่นไวนิลถือเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับคนที่รักเทคโนโลยีย้อนยุค ด้วยกระแสการกลับมาเป็นที่นิยมนักสะสมและเหล่าฮิปสเตอร์ ซึ่งยินดีที่จะลุกจากที่นั่งไปกลับแผ่นจากหน้า A เป็นหน้า B
ทว่าสื่อบันทึกเสียงแบบจับต้องได้นั้นยังถือว่าเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม ทาง RIAA กล่าวว่ารายได้ในหกเดือนแรกของปี 2020 สัดส่วน 85% นั้นยังคงมาจากการสตรีม ซึ่งเป็นวิถีการฟังเพลงของผู้คนในยุคนี้
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 รายได้จากการสตรีมเพลงนั้นเพิ่มขึ้นอีก 12% กลายเป็น 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทาง RIAA สรุปว่าเป็นผลมาจากการที่ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิงเหล่านี้ ดูเหมือนเต็มใจที่จะจ่ายค่าบริการสมัครสมาชิกเพิ่มมากขึ้น
จำนวนการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินในบริการสตรีมต่าง ๆ ทั้ง Spotify, Apple Music และ Amazon เพิ่มขึ้นเป็น 72 ล้านคน คิดเป็นอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นมา 24% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยครึ่งปีแรกในปี 2019
ที่มา: thejakartapost