เปิดโค้ดคำสั่ง เผย Spotify HiFi (“Supremium”) อาจเปิดให้สตรีมเพลงแบบ 24bit Lossless จ่ายเดือนละ 720 บาท
Spotify คุณภาพระดับไฮไฟที่หลายคนรอคอยมานานอาจเตรียมจะเปิดตัวแล้วในเร็ว ๆ นี้ ล่าสุดมีบัญชีชื่อ u/Hypixely ในเวบบอร์ดชื่อดังอย่าง Reddit ได้เปิดเผยโค้ดคำสั่งในแอปฯ Spotify ที่ทำให้เห็นรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับการสตรีมด้วยคุณภาพในระดับ “Supremium” ซึ่งอาจมีระบบเสียงแบบ 24bit Lossless ตลอดจนความสามารถในการสร้างเพลย์ลิสต์ด้วย AI และคุณสมบัติอื่น ๆ อีกมากมาย
Spotify ประกาศว่าจะให้บริการสตรีมเสียงในระดับ HiFi พร้อมกับการขึ้นค่าบริการเป็นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 แต่ฟีเจอร์ดังกล่าวกลับถูกแช่แข็งอยู่อย่างนั้นจนข้ามปี ครั้งล่าสุดที่เราได้ยินเกี่ยวกับ Spotify HiFi คือในเดือนมิถุนายนของปีนี้ เมื่อรายงานของ Bloomberg พบว่า Spotify ได้เปลี่ยนชื่อบริการสตรีมเสียงระดับ HiFi ไปเป็น “Supremium”
การค้นพบของผู้ใช้งาน Reddit ในครั้งนี้ได้ยืนยันข้อมูลข้างต้นนี้ อีกหนึ่งข้อมูลตามที่พวกเขากล่าวถึงคือ Spotify อ้างถึงการสตรีมเสียงแบบ Lossless โดย “ไม่มีการสะดุดหรือความหน่วงช้า”
นอกจากนี้แหล่งข่าวผู้ใช้งาน Reddit พบว่าการสตรีมระดับ Supremium ยังสามารถฟังหนังสือเสียงได้ 30 ชั่วโมงในแต่ละเดือน พร้อมด้วยความสามารถในการจัดเรียงไลบรารี่ได้ตามอารมณ์ กิจกรรม และแนวเพลงด้วย
โค้ดของแอปฯ ยังกล่าวถึงเครื่องมือมิกซ์ขั้นสูง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งลำดับเพลย์ลิสต์ตามจังหวะต่อนาที ช่วยให้การเปลี่ยนระหว่างเพลงสามารถทำได้อย่างราบรื่น สามารถกรองเพลงในเพลย์ลิสต์ตามอารมณ์หรือแนวเพลง มีแม้กระทั่งฟีเจอร์ “ตรวจสอบเสียง” ที่ช่วยให้คุณ “เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับนิสัยการฟังของคุณและค้นพบว่ามิกซ์เสียงใดที่คุณชื่นชอบเป็นพิเศษ”
หลังจากเจาะลึกโค้ดคำสั่งในแอปฯ แล้วยังพบว่าราคาของ Supremium อยู่ที่ 19.99 ดอลลาร์ (ประมาณ 720 บาท) ต่อเดือน
ซีเจ สแตนลีย์ โฆษกของ Spotify ได้เผยกับ The Verge ว่า “ที่ Spotify เราทำซ้ำและคิดอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของเราและมอบคุณค่าให้กับผู้ใช้”
“ทว่าเรายังคงไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการคาดเดาเกี่ยวกับคุณสมบัติใหม่ที่เป็นไปได้นี้ และเราก็ยังไม่มีอะไรใหม่ที่พร้อมจะแชร์ในเวลานี้”
ด้วยแผนพรีเมียมที่มีอยู่ในปัจจุบันของ Spotify กับค่าใช้จ่าย 10.99 ดอลลาร์ต่อเดือน จึงไม่ชัดเจนว่าระบบเสียงแบบไฮไฟ, เพลย์ลิสต์ AI และคุณสมบัติอื่น ๆ บางอย่างที่พบในโค้ดนั้นมีความน่าสนใจมากเพียงพอที่จะดึงดูดผู้ใช้ให้ยอมจ่ายเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวหรือไม่ ขณะเดียวกัน Apple Music และ Amazon Music ต่างก็นำเสนอการสตรีมเสียงแบบ Lossless พ่วงเข้าไปในบริการที่มีอยู่เดิมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ที่มา: the verge