รีวิว Xiaomi : Watch S1 Pro, Buds 4 Pro “อุปกรณ์ AIoT ยุคใหม่จากเสียวหมี่ หูฟังเสียงดีระดับเรือธง และนาฬิกาที่อัจฉริยะกว่าเดิม”
ในปีก่อนเรามีโอกาสได้รีวิวอุปกรณ์ AioT สุดฮิตของเสียวหมี่ ‘Xiaomi’ อย่างสมาร์ทวอทช์รุ่น Watch S1 และหูฟังไร้สายรุ่น Buds 3T Pro อุปกรณ์ทั้งสองรุ่นได้สร้างความประทับใจทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความคุ้มค่า มาในปีนี้เสียวหมี่ได้เปิดตัวสมาร์ทวอทช์และหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ในชื่อรุ่น Watch S1 Pro และ Buds 4 Pro ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับดีไซน์และคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
Xiaomi Watch S1 Pro หน้าจอ AMOLED กระจกแซฟไฟร์ที่ใหญ่และชัดเต็มตามากขึ้น เพิ่มวัดอุณหภูมิผิวหนัง
Xiaomi Watch S1 Pro (เสียวหมี่ วอทช์ เอส หนึ่ง โปร) มาพร้อมกับดีไซน์สุดคลาสสิกผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยรวมเข้ากันไว้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.47 นิ้ว ความละเอียด 480 x 480 พิกเซล (326 PPI) ปุ่มเม็ดมะยมเดี่ยวและปุ่มฟังก์ชันที่มาดีไซน์เรียบหรู
ขณะที่ตัวเรือนของนาฬิกาได้รับการออกแบบโดยใช้วัสดุระดับพรีเมียม โดยตัวเรือนนั้นผลิตจากสเตนเลสสตีล หน้าปัดปิดด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่มีคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี
ตัวนาฬิกามาพร้อมฟังก์ชันสมาร์ทซึ่งสามารถติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์สำหรับการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาต่าง ๆ มากกว่า 100 รายการ ตัวเรือนกันน้ำได้ในระดับ 5ATM สามารถใส่ว่ายน้ำได้ ระบบ Dual-band GPS เพื่อการระบุตำแหน่งที่รวดเร็วขึ้น และการกำหนดเส้นทางที่แม่นยำมากขึ้น
สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ความเร็ว ระยะทาง และติดตามข้อมูลการออกกำลังกาย เช่น ระยะเวลา ความเข้มข้น เส้นทาง และแคลอรีที่เผาผลาญ ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามความคืบหน้าและตั้งเป้าหมายได้
ในด้านการดูแลสุขภาพยังมาพร้อมฟังก์ชั่นการติดตามสุขภาพ เช่น การนอน อัตราการเต้นของหัวใจ วัดอุณหภูมิของผิวหนัง วัดและติดตามระดับออกซิเจนในกระแสเลือด (SpO2) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสภาวะสุขภาพประจำวันได้ง่ายขึ้น
นอกจากนั้นยังได้ติดตั้งระบบผู้ช่วยที่สั่งงานด้วยเสียงแพลตฟอร์ม Alexa มาในตัว สามารถเช็คสภาพอากาศ, ตั้งนาฬิกาปลุก หรือควบคุมอุปกรณ์ IoT อื่น ๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.2 มีไมโครโฟนและลำโพงในตัวรองรับฟังก์ชันโทรศัพท์ผ่านบลูทูธ สามารถรับสายโทรศัพท์ได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียวบนตัวนาฬิกาและสนทนาต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์
สำหรับแบตเตอรี่ 500mAh ในตัวนาฬิกาสามารถใช้งานได้นานถึงสูงสุด 14 วัน รองรับการชาร์จเร็ว ซึ่งชาร์จเพียง 10 นาที ก็สามารถใช้งานได้นาน 2 วัน (สำหรับการใช้งานทั่วไป) สำหรับการชาร์จเป็นระบบชาร์จไร้สายที่สามารถชาร์จได้ทั้งกับแป้นชาร์จที่ให้มา หรือแผ่นชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi ทั่วไป
Xiaomi Watch S1 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ ตัวเรือนสีเงินมาพร้อมสายหนังสีน้ำตาลดูหรูหรา และตัวเรือนสีดำมาพร้อมสายยางฟลูออโรสีดำออกแนวสปอร์ตคมเข้ม วางจำหน่ายในประเทศไทยที่ราคา 9,990 บาท
Xiaomi Buds 4 Pro หูฟังไร้สาย Hi-Res LDAC พร้อม ANC ระดับพรีเมียม
Xiaomi Buds 4 Pro (เสียวหมี่ บัดส์ สี่ โปร) ออกแบบเป็นหูฟังไร้สาย true wireless ที่มาพร้อมเทคโนโลยีและคุณสมบัติในระดับพรีเมียม อย่างเช่น การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.3 ที่รองรับ audio codec ที่เน้นคุณภาพเสียงเป็นพิเศษอย่าง LDAC (บิตเรตสูงสุด 990kbps) พร้อมการรับรองคุณภาพระดับ ‘Hi-Res Audio Wireless’
หูฟังไร้สาย Redmi Buds 4 Pro มีระบบไดรเวอร์ไดนามิกคู่แบบใหม่ทั้งหมด ประกอบด้วยตัวขับเสียงขนาด 10mm ไดอะแฟรมอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ทำหน้าที่ถ่ายทอดความถี่ในย่านกลางและต่ำ ทำงานร่วมกับตัวขับเสียงขนาด 6mm ไดอะแฟรมไทเทเนียม ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดเสียงในย่านความถี่สูง
Xiaomi Buds 4 Pro ยังมาพร้อมการตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (ANC) แบบ adaptive ซึ่งสามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้ตามความเหมาะสม โดยสามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 48dB พร้อมโหมดฟังเสียงแวดล้อม ตลอดจนการควบคุมสั่งงานที่ด้วยหูฟังโดยตรง มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนระหว่างโทรศัพท์ด้วยระบบไมโครโฟน 3 ตัว
นอกจากนั้น Xiaomi Buds 4 Pro ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Dimensional audio ที่สามารถถ่ายทอดมิติเสียงโอบล้อมได้สมจริงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของศีรษะ (Head Tracking) เพื่อการตอบสนองที่สมจริงเหมือนได้ยินผ่านหูของเราโดยตรง
ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้ทางเทคนิคแล้วสามารถเทียบได้กับเทคโนโลยี Spatial Audio และ Dynamic Head-Tracking ในหูฟังไร้สายรุ่นพรีเมียมของ Apple อย่าง AirPods Pro
ตัวหูฟังยังออกแบบให้ผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ที่จับคู่เอาไว้โดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ก่อนหน้าเสียก่อน สะดวกมากขึ้นกับการเชื่อมต่อสองอุปกรณ์ได้พร้อมกันสองเครื่องไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ประเภท สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์พีซี นอกจากนั้นตัวหูฟังยังได้รับการทดสอบการกันฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP54
สำหรับแบตเตอรี่ในตัวของหูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 4 Pro นั้น สามารถฟังต่อเนื่องได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหูฟังจนแบตเต็มแต่ละรอบ และมีเวลารวมในการใช้งานเพิ่มเป็น 38 ชั่วโมง (สูงสุด) เมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จซึ่งพร้อมรองรับการชาร์จทั้งแบบเสียบสายทางพอร์ต USB-C และแบบไร้สาย
หูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 4 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Star Gold และ Space Black พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ราคา 6,990 บาท
ลองใช้งาน Xiaomi Watch S1 Pro “พรีเมียมทั้งฟิลลิงและประสิทธิภาพ !”
ความรู้สึกแรกหลังจากที่ได้สัมผัสและลองใช้งาน Xiaomi Watch S1 Pro เราสัมผัสได้ถึงความเรียบหรูไปอีกขั้นเมื่อเทียบกับ Xiaomi Watch S1 ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า โดยรุ่น S1 Pro นั้นมีความแตกต่างจากรุ่น S1 อยู่หลายจุดเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ที่ความจุมากกว่า หน้าจอใหญ่กว่า (1.47 นิ้วกับ 1.43 นิ้ว) มีขอบจอที่บางกว่า หน้าจอมีความละเอียดความคมชัดมากกว่า (480×480 พิกเซล กับ 466×466 พิกเซล) นอกจากนั้นหน้าจอยังมีความสว่างสูงสุดมากถึง 600nits สำหรับฝาหลังของ S1 Pro ก็เป็นวัสดุประเภทกระจกหรือเซรามิกดูพรีเมียมกว่าฝาหลังของรุ่น S1 ที่เป็นพลาสติก
สำหรับการถอดเปลี่ยนสายนาฬิกาของ Xiaomi Watch S1 Pro ก็ทำสะดวกและง่ายขึ้น เนื่องจากตัวเข็มที่ยึดสายนาฬิกานั้นเป็นแบบมาตรฐานสากลทำให้ถอดหรือใส่สายนาฬิกาได้สะดวกรวดเร็ว
Xiaomi Watch S1 Pro มีอุปกรณ์มาตรฐานที่มาพร้อมกับตัวนาฬิกาเป็นแป้นชาร์จไร้สายที่สามารถชาร์จจนเต็ม 100% ภายในเวลา 85 นาที
ตัวเรือนของนาฬิกาเป็นดีไซน์แบบเรียบง่าย ไม่มีอะไรที่ดูหวือหวาโดยฉพาะรุ่นที่ตัวเรือนเป็นสีดำ ปุ่มเม็ดมะยมของรุ่น S1 Pro ซึ่งมีอยู่ปุ่มเดียวแต่ใช้งานง่ายกว่าเพราะสั่งงานได้ทั้งการกดและการหมุน ซึ่งเมื่อรวมกับระบบทัชสกรีนแล้วก็ยิ่งทำให้การเข้าถึงเมนูตั้งค่าต่าง ๆ หรือการเข้าถึงแอปฯ สามารถทำได้อย่างลื่นไหลคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ส่วนของ UI และ UX บนหน้าจอทัชสกรีนของนาฬิกาถือว่าปรับแต่งมาได้ดียิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ผนวกกับหน้าจอที่มองเห็นได้ง่ายขึ้นสามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจการใช้งานได้ไม่ยาก เป็นการปัดขึ้น-ลง หรือปัดซ้าย-ขวา ผสมผสานกับการใช้ปุ่มกดด้านข้าง และปุ่มเม็ดมะยมซึ่งสามารถสั่งงานด้วยการกดหรือการหมุนได้ ใช้งานร่วมกับแอปฯ Mi Fitness ในสมาร์ทโฟน (iOS, Android)
สำหรับการแจ้งเตือนจากที่ได้ลองเชื่อมต่อใช้งานกับ iPhone 13 Pro Max บนตัวนาฬิกา Xiaomi Watch S1 Pro สามารถแจ้งเตือนข้อความ แอปฯ โซเชียลมีเดีย หรือแอปฯ ธนาคารต่าง ๆ บนหน้าปัดนาฬิกาได้ตามปกติ นอกจากนั้นการแสดงผลยังรองรับทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย
ในโหมดออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ ในภาพรวมถือว่าทำได้ดีมาตรฐาน มีโหมดออกกำลังกายให้เลือกเยอะมาก ครอบคลุมเกือบทุกประเภทกีฬาและการออกกำลังกาย ด้านการวัดค่าของเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ดูเหมือนมีความสเถียรและความฉับไวในการตรวจจับข้อมูลได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมทั้งยังเพิ่มโหมดวัดอุณหภูมิบนผิวหนังเพิ่มเข้ามาด้วย
อีกส่วนหนึ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับการใช้งานในชีวิตประจำวันคือ เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแล้ว ตัวนาฬิกา Xiaomi Watch S1 Pro ยังสามารถใช้งานเป็นรีโมตคอนโทรลควบคุมการเล่นคอนเทนต์ในสมาร์ทโฟนได้ด้วย นอกจากนั้นยังใช้เป็นรีโมตชัตเตอร์ใช้สั่งสมาร์ทโฟนถ่ายรูปได้ด้วย ที่น่าสนใจคือ ไม่จำเป็นต้องใช้งานได้เฉพาะกับสมาร์ทโฟนของเสี่ยวหมี่เท่านั้น เพราะเราได้ลองทั้งสองส่วนนี้กับไอโฟน
ลองใช้งาน Xiaomi Buds 4 Pro “สมแล้วที่เป็นหูฟังรุ่นเรือธงของแบรนด์ !”
ครั้งแรกที่แกะกล่องแล้วได้ลองเชื่อมต่อหูฟังเพื่อใช้งานกับสมาร์ทโฟน เราพบว่าหูฟังรุ่นนี้สุ้มเสียงดีแบบสะดุดหูเราเลยทีเดียว น้ำเสียงของมันเตะหูเราตั้งแต่นาทีแรกที่ได้ฟัง มันเป็นหูฟังที่ให้รายละเอียดเปิดเผยคึกคักกระฉับกระเฉงที่ฟังง่ายสบายหูมาก
ใครกลัวเสียงที่เจี๊ยวจ๊าวโฉ่งฉ่างกระด้างหู สบายใจได้ครับหูฟังรุ่นนี้เสียงโคตร smooth เสียงกลางไม่จม ขณะที่เสียงแหลมมีลักษณะเนียนละเอียดเหมือนเอามือลูบแป้งมันบนผ้าไหม แม้ว่าเราได้เชื่อมต่อใช้งานในโหมด AAC กับไอโฟนก็ตาม ซึ่งทางเทคนิคก็ถือว่ายังไม่ได้ใช้งานหูฟังรุ่นนี้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ดีเราพบว่าถ้าหากต้องการเปิดใช้งานคุณสมบัติเชื่อมต่อพร้อมกันสองอุปกรณ์ หรือเปิดใช้งานโหมด LDAC ในตัวหูฟังรุ่นนี้จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ เนื่องจากค่า default ของมันไม่ได้เปิดใช้งานทั้งสองคุณสมบัตินี้ และการเปิดใช้งานต้องทำผ่าน companion app อย่าง ‘Xiaomi EarBuds’ ซึ่งปัจจุบันยังมีเฉพาะในสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เท่านั้น
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Xiaomi Buds 4 Pro คือ การออกแบบเคสชาร์จที่ไม่ใช่เป็นการเปิดฝาครอบการบน แต่เป็นการเปิดฝาครอบจากด้านหน้า ทำให้การหยิบหรือเก็บตัวหูฟังนั้นทำได้สะดวกขึ้นพอสมควรเมื่อเทียบกับดีไซน์ฝาครอบเปิดบน
นอกจากเคสชาร์จแล้ว อุปกรณ์มาตร,ฐานที่มาด้วยกันก็มีสายชาร์จ USB-A to USB-C และจุกซิลิโคนขนาดต่างกันทั้งหมดสามคู่ (รวมตัวที่ติดกับมาหูฟังแล้ว) ให้เลือกเปลี่ยนใช้ตามความเหมาะสม ซึ่งถ้ายังไม่แน่ใจว่าเหมาะสมพอดีกับหูของเราหรือเปล่า สามารถใช้เมนู Ear Tip Test ในแอปฯ Xiaomi Earbuds ช่วยวิเคราะห์ได้
นอกจากใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตได้แล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Xiaomi Watch S1 Pro ได้โดยตรงด้วย ซึ่งอาจทำให้หลาย ๆ ฟีเจอร์สามารถใช้งานได้แบบส่วนตัวมากขึ้น ด้านการตัดเสียงรบกวนนั้นหากต้องการความเงียบขั้นสุดก็ถือว่าทำได้เงียบสนิทเลยทีเดียว
สำหรับระบบควบคุมสั่งงานแบบบีบที่ก้านของหูฟังนั้นลองใช้งานแล้วพบว่าสะดวกและใช้งานง่ายกว่าแบบสัมผัส น่าเสียดายเล็กน้อยที่มันไม่สามารถปรับความดังที่ตัวหูฟังได้โดยตรงเหมือนอย่างหูฟังไร้สาย true wireless แบบมีก้านบางรุ่น
โดยสรุปแล้วเมื่อพูดถึง ‘คุณภาพเสียง’ ชัดเจนว่า Xiaomi Buds 4 Pro เป็นหูฟังที่ตั้งใจจูนให้เสียงทุ้มค่อนข้างเด่นกว่าย่านเสียงอื่น ๆ เสียงที่ได้ไม่ว่าจะใช้งานกับคอนเทนต์ใด ๆ (ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม) จะเป็นแนวที่มีเนื้อเสียงอิ่มหนาหนักแน่น จูนเสียงแบบยกทุ้มมาชัดเจน ทว่ามีปริมาณไม่ได้เยอะเสียจนล้นหรือท่วมกลบเสียงย่านอื่น
ต้องชมเชยทีมออกแบบว่าจูนเสียงมาเก่งมาก คิดว่าหูฟังแบรนด์ไฮไฟหลายยี่ห้อก็คงอยากได้เสียงแบบนี้แหละเพียงแต่หลาย ๆ ยี่ห้อยังจูนมาไม่ได้อย่างนี้เท่านั้นเอง
Xiaomi Watch S1 Pro และ Buds 4 Pro ในทัศนะของเรา
Xiaomi Watch S1 Pro ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ต่อยอดมาจากรุ่นปีที่แล้วได้อย่างน่าสนใจ เมื่อคาดลงบนข้อมือแล้วลองใช้งานสักพักเรารู้สึกได้ถึงความเรียบหรู ดูดี วัสดุที่ใช้ผลิตตัวนาฬิกาก็ดูว่าเป็นวัสดุคุณภาพสูงที่มีความทนทานด้วยไม่ใช่แค่ดูดีเพียงอย่างเดียว
เมื่อผนวกรวมกับคุณสมบัติและความสามารถอื่น ๆ ที่ค่อนข้างครอบคลุมความต้องการของคนที่มองหานาฬิกาอัจฉริยะสักเครื่อง เราคิดว่า Xiaomi Watch S1 Pro นั้นไม่ได้เป็นรองใครในพิกัดราคาเดียวกัน
สำหรับ Xiaomi Buds 4 Pro สมแล้วที่เป็นหูฟังรุ่นเรือธงของแบรนด์ เพราะนอกจากมีฟีเจอร์ทุกอย่างที่พึงมีในหูฟังไร้สายระดับนี้แล้ว เรื่องของคุณภาพเสียงมันก็ยืนแถวหน้าเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เสียงแหลมที่ฟังสบายหูไม่ว่าจะเปิดเพลงประเภทไหนหรือสตรีมจากแหล่งสัญญาณคุณภาพระดับใดของหูฟังรุ่นนี้จำเป็นต้องแลกกับเสียงแหลมที่มีลักษณะโรลออฟค่อนข้างเร็ว (แต่ไม่ถึงขั้นกุดด้วนหรือทึบ) คนที่ชอบเสียงแหลมแบบโปร่ง ๆ พลิ้ว ๆ สดใสระยิบระยับเป็นประกายสดใสกังวาน ฟังแล้วอาจรู้สึกขัดใจบ้างในบางเวลา ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อควรไปลองฟังดูสักครั้งว่ายังใช่เสียงที่กำลังมองหาอยู่หรือเปล่า
