รีวิว Xiaomi : Watch S1, Buds 3T Pro “สมาร์ทวอทช์ดีไซน์หรู จับคู่หูฟังเสียงดี ครีเอทไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพ”
Xiaomi เป็นอีกหนึ่งแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ไอทีที่ขยับขยายอีโคซิสเตมหรือระบบนิเวศของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดแบรนด์ได้เปิดตัวสมาร์ทวอทช์ Xiaomi Watch S1 (เสียวหมี่ วอทช์ เอสหนึ่ง) และหูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 3T Pro (เสียวหมี่ บัดส์ สามทีโปร) สองผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาพร้อมกับสเปคฯ ระดับพรีเมียมในราคาที่สามารถจับต้องได้ง่ายมากขึ้น
Xiaomi Watch S1 หน้าจอ AMOLED กระจกแซฟไฟร์และสายหนัง
สมาร์ทวอทช์ Xiaomi Watch S1 มาพร้อมกับการออกแบบสไตล์คลาสสิคเรียบหรู หน้าจอ AMOLED HD ขนาด 1.43 นิ้ว กระจกหน้าจอเป็นวัสดุแซฟไฟร์ พร้อมกรอบสเตนเลส
ขณะที่สายนาฬิกาเลือกใช้ได้ทั้งสายยาง (Fluorine rubber) สำหรับการใช้งานแบบแอคทีฟและสายหนังแท้สำหรับสวมใส่ใช้งานในชีวิตประจำวัน
เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.2 และ Wi-Fi IEEE 802.11b/g/n 2.4GHz มีฟังก์ชันโทรศัพท์ผ่านบลูทูธสามารถรับสายโทรศัพท์ได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียวบนตัวนาฬิกา นอกจากนั้นยังมี NFC ที่รองรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสกับบัตร MasterCard
ตัวสมาร์ทวอทช์มาพร้อมกับระบบซอฟต์แวร์สำหรับโหมดออกกำลังกายแบบมืออาชีพ (Professional Modes) จำนวน 19 โหมด รวมทั้งโหมด HIIT และ Elliptical machine ซึ่งเป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่คนที่ออกกำลังกายจริงจัง
นอกจากนั้นยังขยายเพิ่มเติมโหมดออกกำลังกายอีกเกือบ 100 โหมด รวม 117 โหมด เพื่อให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการออกกำลังกายหลากหลายมากขึ้น ตัวเรือนกันน้ำได้ในระดับ 5ATM สามารถใส่ว่ายน้ำได้
สำหรับกิจกรรมเอาต์ดอร์ Xiaomi Watch S1 ยังมาพร้อมกับ Dual-band GPS เพื่อการระบุตำแหน่งที่รวดเร็วขึ้น และการกำหนดเส้นทางที่แม่นยำมากขึ้น
ด้านสุขภาพ สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การวัดปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือด (SpO2) รวมถึงการติดตามคุณภาพของการนอนหลับ
นอกจากนั้นยังได้ติดตั้งระบบผู้ช่วยที่สั่งงานด้วยเสียงแพลตฟอร์ม Alexa มาในตัว สามารถเช็คสภาพอากาศ, ตั้งนาฬิกาปลุก หรือควบคุมอุปกรณ์ IoT อื่น ๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
Xiaomi Watch S1 มาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 12 วัน สำหรับการชาร์จเป็นระบบชาร์จไร้สายที่สามารถชาร์จได้ทั้งกับแป้นชาร์จที่ให้มา หรือแผ่นชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi ทั่วไป
สมาร์ทวอทช์ Xiaomi Watch S1 เปิดตัวในประเทศไทยและพร้อมวางจำหน่ายในราคา 6,490 บาท
Xiaomi Buds 3T Pro กับคุณสมบัติระดับพรีเมียม
สำหรับ Xiaomi Buds 3T Pro นี่คือหูฟังที่เสียวหมี่พยายามชูคุณสมบัติเด่นมากมายที่ทัดเทียมกับหูฟัง true wireless ในระดับพรีเมียม
ว่าไปตั้งแต่ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (ANC) ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 40dB โดยมีไมโครโฟนข้างละ 3 ตัวคอยทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการออกไป และคอยรับเสียงพูดเพื่อให้การสนทนามีความกระจ่างชัดเจนอยู่เสมอ
ซึ่งระบบตัดเสียงรบกวนนี้สามารถเลือกระดับการตัดเสียงให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันได้ด้วย ขณะเดียวกันยังมีโหมดเปิดฟังเสียงแวดล้อม (Dual Transparency) ให้เลือกใช้งานด้วย
ด้านคุณภาพเสียง Xiaomi Buds 3T Pro มาพร้อมกับ Luxury Dynamic Driver แม่เหล็กคู่ขนาด 10mm ไดอะแฟรมเคลือบด้วยวัสดุคาร์บอนที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงเพชร (แกร่งและต่อต้านเรโซแนนซ์ได้ดี) หรือ Diamond-like carbon (DLC)
ด้านการเชื่อมต่อไร้สาย ใช้เทคโนโลยี Bluetooth 5.2 รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 เครื่อง ตัวหูฟังออกแบบให้สามารถกันน้ำและฝุ่นได้ในระดับ IP55 แบตเตอรี่ในตัวหูฟังสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC
เมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จเวลารวมสูงสุดที่ใช้งานได้คือ 24 ชั่วโมง ตัวเคสชาร์จสามารถชาร์จไฟเข้าได้ทั้งแบบเสียบสายทางพอร์ต USB-C และแบบไร้สายกับแผ่นชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi
Xiaomi Buds 3T Pro ยังมาพร้อมกับการรองรับ LHDC 4.0 Codec ซึ่งทางเทคนิคแล้วให้คุณภาพเสียงแบบไร้สายทัดเทียม LDAC Codec ของโซนี่เลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีโหมดเสียงพิเศษอย่างเทคโนโลยีจำลองมิติเสียงโอบล้อมเสมือนจริง และการติดตามตำแหน่งของศีรษะเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับฟังเสียงเสมือนว่ามีแหล่งกำเนิดจริงอยู่ตรงหน้า
ซึ่งทั้ง 2 เทคโนโลยีหลังนี้ทางเทคนิคแล้วสามารถเทียบได้กับเทคโนโลยี Spatial Audio และ Dynamic Head-Tracking ในหูฟังไร้สายรุ่นพรีเมียมของ Apple อย่าง AirPods Pro เลยทีเดียว
หูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 3T Pro เปิดตัวในประเทศไทยพร้อมวางจำหน่ายในราคา 3,999 บาท มีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาว
ลองใช้งาน Xiaomi Watch S1 “ประทับใจกว่าที่คิด !”
เนื่องจากการรีวิวนี้จัดทำขึ้นในช่วงระหว่างที่สินค้ายังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ การใช้งานในบางแง่มุมจึงยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ คาดว่าหลังจากที่สินค้าเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่มีการอัปเดตเฟิร์มแวร์กันจนเข้าที่เข้าทางแล้ว การใช้งานน่าจะสะดวกคล่องตัวกว่านี้
อย่างไรก็ดีเบื้องต้นสำหรับการลองใช้งานทั้ง Xiaomi Watch S1 และ Xiaomi Buds 3T Pro ต้องบอกว่าค่อนข้างประทับใจเลยทีเดียว โดยเฉพาะในแง่ของเนื้องานและความคุ้มค่า
อย่าง Xiaomi Watch S1 นั้นตัวจริงเนื้องานประณีตและดูดีเลย ตัวเรือนแม้จะมีขนาดไม่เล็กนักแต่ก็น้ำหนักเบาและดูแข็งแกร่งดีในระดับหนึ่งเมื่อคาดคะเนจากสายตา ปุ่มเม็ดมะยมด้านข้างทั้ง 2 ปุ่มออกมาให้กดสั่งงานได้อย่างเดียว แต่ไม่รองรับการหมุน ทัชสกรีนหน้าจอตอบสนองได้ติดนิ้วดี จอมีความคมชัด สว่างและสีสันสดใสดี
ส่วนของ UI และ UX บนหน้าจอ ถือว่าปรับแต่งมาได้ดี มีขนาดที่มองเห็นได้ง่าย สามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจการใช้งานได้ไม่ยาก เป็นการปัดขึ้น-ลง หรือปัดซ้าย-ขวา ผสมผสานกับการใช้ปุ่มกดด้านข้าง คล้ายกับสมาร์ทวอทช์สมัยใหม่ทั่วไป
สำหรับคนที่คอยเหลือบมองนาฬิกาบ่อย ๆ สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ยังมีโหมดเปิดหน้าจอตลอดเวลา (หน้าจอแบบสแตนด์บายที่ยังเห็นวันที่และเวลา) ให้เลือกเปิดใช้งานได้ด้วย แต่อาจเปลืองพลังงานแบตเตอรี่มากขึ้นอีกนิด
ในส่วนของไอคอนของแอปฯ บางตัวอาจต้องอาศัยการทำความรู้จักบ้างในช่วงเริ่มต้นใช้งาน ภาพรวมของการตอบสนองต่อการสั่งงานทั้งการสัมผัสหน้าจอ การปัดบนหน้าจอ หรือการกดปุ่มทำได้รวดเร็วฉับไวไม่รู้สึกถึงความหน่วงช้า
สำหรับการแจ้งเตือนเท่าที่ได้เชื่อมต่อกับ iPhone 13 Pro Max (iOS 15.4) สามารถแจ้งเตือนข้อความ แอปฯ โซเชียลมีเดีย หรือแอปฯ ธนาคารต่าง ๆ บนหน้าปัดนาฬิกาได้ตามปกติ การแสดงผลรองรับทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย
นอกจากนั้นฟังก์ชันควบคุมการเล่นเพลงใน Xiaomi Watch S1 ยังสามารถใช้เป็นรีโมตคอนโทรลควบคุมการเล่นเพลงใน iPhone 13 Pro Max ได้ด้วย
เมื่อจับคู่และเชื่อมต่อ Xiaomi Watch S1 กับแอปฯ ‘Mi Fitness’ ในอุปกรณ์ iOS แล้วเราพบว่ามันยังมีอะไร ๆ ที่สามารถปรับตั้งหรือเลือกจากแอปฯ อีกพอสมควรเลยทีเดียว เช่น รูปแบบของหน้าปัดนาฬิกาที่มีให้เลือกกว่า 200 แบบ รวมทั้ง MIUI super wallpaper หรือฟีเจอร์อย่างการยกแขนเพื่อเรียกเปิดหน้าจอแสดงผล
หรือฟังก์ชันการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือด สามารถเลือกได้ว่าจะวัดเป็นครั้งคราว หรือจะให้คอยมอนิเตอร์ไปตลอดทั้งวันก็ได้
สำหรับตัวนาฬิกาที่กันน้ำได้ในระดับ 5ATM นั้น สามารถใส่เล่นกีฬาทั่วไปได้สบาย สามารถใส่ว่ายน้ำได้ แต่เป็นน้ำสระหรือแหล่งน้ำธรรมชาติที่เป็นน้ำตื้น ไม่ใช่การดำน้ำลึกหรือกิจกรรมที่ต้องน้ำแรงดันสูง สามารถโดนฝนหรือนำไปล้างด้วยน้ำเปล่าได้เลย พร้อมฟังก์ชันไล่น้ำออกจากลำโพงด้วยคลื่นเสียง
สำหรับในโหมดออกกำลังกายการแสดงข้อมูลในระหว่างการออกกำลังกายอาจจะดูเรียบง่ายไม่ได้มีกราฟิกหวือหวา แต่ก็ให้ข้อมูลครบถ้วนและดูง่ายพอสมควร การกำหนดเป้าหมายต่าง ๆ ในการออกกำลังกายก็ให้ครบถ้วนอย่างที่ควรจะเป็นเช่นกัน
จากการที่ได้ลองใช้งาน Xiaomi Watch S1 ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เราบอกได้เบื้องต้นว่าเพียงเท่านี้ก็สร้างความประทับใจทีมงานของเราได้ไม่น้อยแล้ว ส่วนเรื่องความคุ้มนั้นไม่ต้องพูดถึง… Xiaomi ชื่อนี้เขาการันตีความคุ้มอยู่แล้ว
ลองใช้งาน Xiaomi Buds 3T Pro “เมื่อไลฟ์สไตล์และสุขภาพเป็นเรื่องเดียวกันได้ !”
ในครั้งแรกที่ได้รับผลิตภัณฑ์ใหม่ของเสียวหมี่มาสำหรับทำการรีวิว เมื่อได้รับคำแนะนำว่า อยากให้รีวิวร่วมกัน อยากให้ได้ลองใช้งานร่วมกัน เรามีคำถามเล็กน้อยว่า “มันเกี่ยวข้องกันอย่างไร ทำไมจึงอยากให้พูดถึงพร้อม ๆ กัน”
คำอธิบายที่ได้คือ เสียวหมี่ต้องการให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ทดลองว่าเมื่อใช้งานร่วมกัน ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาเป็นอย่างไร ทั้งในแง่ของการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการออกกำลังกายเพื่อการดูแลสุขภาพ
เราพบว่า Xiaomi Buds 3T Pro นอกจากใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตได้แล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Xiaomi Watch S1 ได้โดยตรงด้วย ซึ่งอาจทำให้หลาย ๆ ฟีเจอร์สามารถใช้งานได้แบบส่วนตัวมากขึ้น
อย่างไรก็ดีประโยชน์ในการใช้งานร่วมกันที่ชัดเจนมากที่สุด คือ การใช้ในระหว่างการออกกำลังกาย อย่างน้อยทั้งคู่ก็สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ดี จะออกกำลังกายแบบอินดอร์หรือเอาต์ดอร์ก็ไม่หวั่น เรียกว่าสมบุกสมบันได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
นอกจากนั้นยังได้ใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนหรือฟังก์ชันเปิดฟังเสียงแวดล้อมในตัวหูฟังด้วย เพราะบางครั้งในยิมก็มีเสียงดังรบกวน สร้างความรำคาญ เราก็อยากได้ความสงบเงียบ แต่ถ้าหากเป็นการออกกำลังกายแบบเอาต์ดอร์เราก็อาจอยากฟังเสียงธรรมชาติด้วย หรือบางครั้งก็แนะนำให้ฟังเสียงรอบข้างบ้างเพื่อความปลอดภัย
เมื่อพูดถึงโหมดตัดเสียงรบกวน ในหูฟัง Xiaomi Buds 3T Pro เขามีโหมดตัดเสียงรบกวนแบบ 3+1 (3+1 Active Noise Cancellation Modes) ซึ่งเป็นระบบตัดเสียงรบกวนที่ ‘สามารถเลือกระดับการลดทอนเสียงรบกวน’ ได้ด้วย เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการใช้งานจริง
โดยสามารถเลือกได้ตั้งแต่ระดับการลดทอนเสียงรบกวนน้อยที่สุด ‘Light mode’, ลดทอนปานกลาง ‘Balanced mode’ และ ลดทอนมากที่สุด ‘Deep mode’ นอกจากนั้นยังสามารถเลือกเป็น ‘Adaptive mode’ เพื่อให้ระบบช่วยตัดสินใจแทนเราโดยอัตโนมัติว่าจะปรับไปที่โหมดไหนดี
สำหรับโหมดเปิดฟังเสียงแวดล้อมนั้นก็เป็น Dual Transparency คือ โหมดเปิดฟังเสียงแวดล้อมใน Xiaomi Buds 3T Pro นั้นยังสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะเป็นโหมด ‘Transparency’ หรือ ‘Voice Enhanced’ เพื่อให้รับฟังย่านเสียงพูดสนทนาได้ชัดเจนมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ดีการปรับระดับการลดทอนเสียงรบกวน และการเลือกใช้โหมด Dual Transparency นั้น เท่าที่เราได้ลองใช้งานพบว่าสามารถทำได้เฉพาะในสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ MIUI เวอร์ชันใหม่ ๆ เช่น MIUI 13 ใน POCO X4 Pro
เมื่อพูดถึงเรื่องคุณภาพเสียง หลังจากที่มีโอกาสได้ลองฟังมาหลายวัน บอกได้เลยว่านี่คือหูฟังไร้สายของเสียวหมี่ที่เรา ‘ชอบเสียง’ มากที่สุดในแง่ของความเที่ยงตรงและไม่ค่อยมีคัลเลอร์ แว้บแรกที่ได้ลองฟังคือ มันไม่มีอะไรที่ฟังแล้วแปลกระคายหูเลย ทีมออกแบบจูนเสียงมาดีมาก แนวเสียงเปิดเผย กระจ่างชัด ให้รายละเอียดหยุมหยิม และไม่เจี๊ยวจ๊าวน่ารำคาญ
ย่านเสียงกลางเด่นลอย ไม่จม ไม่ทึบ ไม่โอเวอร์ สรุปคือ สมดุลค่อนข้างดี ขณะที่ในย่านความถี่ต่ำมีน้ำหนัก ให้เบสต้นเป็นลูกกลม ๆ ฟังเพลงสมัยใหม่ก็สนุกคึกคักใช้ได้เลย และไม่ใช่หูฟังที่ท่วมไปด้วยเสียงทุ้มกลบย่านเสียงอื่น ๆ เสียจนหมด
นอกจากคุณสมบัติล้ำ ๆ และเรื่องของคุณภาพเสียงที่คุ้มค่าเกินราคาตามที่ได้พูดถึงไว้แล้ว ในส่วนของ LDHC 4.0 Codec และเทคโนโลยีจำลองเสียงโอบล้อมและการติดตามตำแหน่งของศีรษะนั้น เป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจมากเช่นกัน
ทว่าในระหว่างรีวิวนี้อุปกรณ์ที่พร้อมรองรับการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ร่วมกับ Xiaomi Buds 3T Pro นั่นคือ สมาร์ทโฟน Xiaomi 12 ทางแบรนด์ยังไม่พร้อมส่งมาให้เราได้ลองใช้งาน ดังนั้นในส่วนนี้ทางเราจะมี follow-up ในส่วนของรายละเอียดจากการใช้งานจริงตามมาหลังจากนี้
Xiaomi Watch S1 และ Buds 3T Pro ในทัศนะของเรา
เนื่องจากการรีวิวนี้จัดทำขึ้นในช่วงระหว่างที่สินค้ายังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ การใช้งานในบางแง่มุมจึงยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ คาดว่าหลังจากที่สินค้าเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่มีการอัปเดตเฟิร์มแวร์กันจนเข้าที่เข้าทางแล้วหรืออุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกับการรีวิวพร้อมแล้ว การใช้งานน่าจะครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ดีในเบื้องต้น เท่าที่เราได้ลองมาทั้งหมด ก็พอจะสรุปและฟันธงเบา ๆ ได้ว่านาฬิกาอัจฉริยะหรือสมาร์ทวอทช์อย่าง Xiaomi Watch S1 นั้นถูกออกแบบมาเพื่อครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง และนำเสนอในราคาที่ไม่ได้สูงจนจับต้องได้ยาก (ตรงนี้ต้องปรบมือให้เป็นพิเศษ)
สำหรับ Xiaomi Buds 3T Pro กับคุณภาพเสียงและคุณสมบัติพื้นฐานที่มีอยู่ในหูฟังไร้สายรุ่นนี้ บอกได้เลยว่าราคานี้ถือว่าสุดคุ้ม นี่ยังไม่นับคุณสมบัติอื่น ๆ ที่เรียกว่าออกมาเพื่อ ‘ท้าชน’ หูฟัง true wireless ระดับบนโดยเฉพาะ
แต่เชื่อเถอะว่า ต่อให้มีคุณสมบัติมากมายเพียงใด แต่ถ้าเบสิกแล้วตัวหูฟังนั้นเสียงไม่ดีเหมือนที่ Xiaomi Buds 3T Pro สามารถทำได้ คุณสมบัติทั้งหมดก็แทบไม่มีความหมายเลยจริง ๆ