fbpx

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

Exclusive Preview “Huawei : nova 3 / nova 3i” ก่อนเปิดตัวในประเทศไทย

จากที่เป็นข่าวหลุดมาก่อนหน้านี้ว่า Huawei nova 3 ที่เพิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนไปสด ๆ ร้อน ๆ ในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ จะมาสั่นสะเทือนวงการมือถือระดับกลาง ทาง GM2000 ซึ่งมีโอกาสได้ลองจับลองเล่นตัวเครื่องจริง ๆ ของทั้ง nova 3 และ nova 3i มาแล้ว จึงได้นำประสบการณ์มาบอกต่อกันในรูปแบบของ “เอ็กซ์คลูซีฟพรีวิว”

ความสวยที่สัมผัสได้
เห็นการออกแบบของสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่หัวเว่ยเขาให้ข้อมูลว่าเป็นการออกแบบร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาในยุโรปของหัวเว่ยอย่าง London Design Center และ Paris Aesthetic Center ในรุ่นใหม่นี้ยังได้มีการนำเทคนิควิทยาการสมัยใหม่มาผสมผสานกับดีไซน์ที่มีอยู่เดิมได้อย่างลงตัว

เป็นมือถือจอ 6.3 นิ้ว ที่จับถือได้ถนัดมือและดูสวยเกินราคา ในภาพเป็น Huawei nova 3
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่องในตำแหน่งที่คุ้นเคย

เริ่มจากบอดี้ที่เป็นดีไซน์ของมือถือสมัยใหม่มีรูปทรงเรียวยาว ใช้ฝาหลังที่เป็นแผ่นกระจก และกรอบเครื่องที่ทำจากวัสดุประเภทโลหะอัลลอย โดยภาพรวมแล้วจึงดูสวยงามน่าใช้แทบไม่ต่างจากมือถือระดับสูงรุ่นอื่น ๆ ในเวลานี้

ในเบื้องต้นทราบว่าทั้ง 2 รุ่นจะเปิดตัวมาพร้อมกับเฉดสีใหม่อย่าง สีแดง, สีเหลือง, สีฟ้า และแน่นอนว่าต้องมีสีดำ รวมถึงสีที่เป็น gradient color อย่างสีทไวไลต์ที่เราเคยได้เห็นกันมาก่อนแล้วใน Huawei P20 Series

nova 3i กับสีดำและ gradient color

อีกเรื่องหนึ่งที่ทางหัวเว่ยเขาภูมิใจหนักหนาเห็นจะเป็นการออกแบบที่เรียกว่า “disappear edge” เขาว่าโดยปกติในสมาร์ทโฟนทั่วไปแม้แต่ iPhone X การประกบหน้าจอเข้ากับกรอบที่เป็นโลหะนั้นจำเป็นต้องมีปะเก็นพลาสติกคั่นกลางอยู่ ถ้าสังเหตให้ดีเวลามองใกล้ ๆ จะมองเห็นเป็นเส้นสีดำหรือสีเทา แทรกอยู่ระหว่างหน้าจอและกรอบตัวเครื่อง แต่ในรุ่น nova 3 และ nova 3i ทางหัวเว่ยเขามีวิธีออกแบบให้ไม่ต้องใช้ปะเก็นนี้แล้ว

รุ่นใหม่นี้ จอแสดงผลยึดกับกรอบโลหะตัวเครื่องโดยไม่ต้องมีปะเก็นพลาสติกแล้ว ทำให้ตัวเครื่องมีความบางลงไปอีก

nova 3 / nova 3i มือถือจอใหญ่แต่ไม่เทอะทะ
ในรุ่น nova 3 นั้นมาพร้อมกับจอแสดงผลทัชสกรีน LCD ขนาด 6.3 นิ้ว (ใหญ่กว่า nova 2i ขึ้นมา 6%) ความละเอียดระดับ FHD+ (2,340 x 1,080 พิกเซล) เป็นจอแสดงผลที่มีอัตราส่วนหน้าจอเท่ากับ 19.5 : 9 ให้ความถูกต้องของสีสันหรือ Color Gamut ได้ถึง 85% ดีกว่ารุ่น nova 2i ถึง 10% ฝาหลังของเครื่องปิดด้วยกระจกกันรอยแบบขอบโค้ง 3D

ส่วนรุ่น nova 3i นั้นมาพร้อมกับจอแสดงผลทัชสกรีน LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2,340 x 1,080 พิกเซล) เช่นกัน ฝาหลังของเครื่องปิดด้วยกระจกกันรอยแบบขอบโค้ง 2.5D ซึ่งมีความโค้งมนน้อยกว่าฝาหลังของ nova 3

แม้ว่าทั้งคู่จะมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นแต่ขนาดเครื่องก็ไม่ได้ใหญ่โตเทอะทะมากขึ้นตามไปด้วย เพราะว่าทีมออกแบบของหัวเว่ยได้ลดขนาดของขอบจอทั้งด้านบนและด้านล่างลงมาจากรุ่น nova 2i โดยขอบจอด้านบนลดลงถึง 72% และขอบจอด้านล่างลดลงถึง 42% เป็นผลให้อัตราส่วน หน้าจอ:ตัวเครื่อง (screen : body ratio) นั้นเพิ่มขึ้นเป็น 81% (ของ nova 2i เท่ากับ 76%)

สรุปก็คือเครื่องรุ่นใหม่จะมีเครื่องขนาดสูสีกับรุ่น nova 2i แต่ได้หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น

screen : body ratio = 81%

ครั้งแรกกับ Kirin 710 ชิปประมวลผลสำหรับมือถือรุ่นกลางที่ผสาน AI
ก่อนอื่น อยากให้ทราบกันก่อนว่าทั้ง nova 3 และ nova 3i มีสมรรถนะที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อย่าง nova 3e และ nova 2i อย่างชัดเจนในทุก ๆ ด้าน และเมื่อเทียบกันเองรุ่น “nova 3” จะเป็นรุ่นที่สูงกว่า “nova 3i” (แม้ว่ารหัสชื่อรุ่นจะชวนให้คิดว่ารุ่น 3i เป็นรุ่นที่สูงกว่าก็ตาม)

Huawei nova 3 ซึ่งเป็นรุ่นสูงกว่านั้นมาพร้อมชิป Kirin 970 ชิปประมวลผลพ่วง AI รุ่นเรือธงของหัวเว่ยในปัจจุบันที่มีใช้งานอยู่ทั้งใน Mate 10 Pro และ P20 Pro

ส่วน Huawei nova 3i นั้นจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของหัวเว่ยที่ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ป้ายแดงอย่าง Kirin 710 ซึ่งเป็นชิปประมวลสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นกลางตัวแรกจากหัวเว่ยที่พ่วงส่วนประมวลผล NPU และ AI เข้าไปด้วยเหมือนชิปรุ่นเรือธงอย่าง Kirin 970 ทำให้รองรับการใช้งานร่วมกับระบบ AI ได้เหมือนกับชิปรุ่นใหญ่

Kirin 710 เป็นชิปประมวลผลแบบ 8 แกน 12nm process แบ่งเป็น Cortex A73 2.2GHz 4 แกน + Cortex A53 1.7GHz 4 แกน แต่ละแกนประมวลผลได้เร็วกว่า Kirin 659 ที่ใช้อยู่ใน nova 2i และ nova 3e อยู่ 2 เท่าตัว ส่วนประมวลผลกราฟฟิก “GPU Turbo” เร็วกว่าใน Kirin 659 อยู่ 2.26 เท่า นอกจากนั้นยังรองรับสัญญาณเครือข่าย 4G LTE, VOLTE แบบ 2 ซิมสแตนด์บายได้พร้อมกัน

ในรุ่นใหม่นี้ยังรองรับ “AI Game Suite” ซึ่งในขณะเล่นเกม ระบบจะกันทรัพยากรส่วนสำคัญให้กับเกมก่อน แม้จะมีสายเรียกเข้าก็ยังคงเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีเพียง notification แสดงว่ามีสายเรียกเข้าเท่านั้น ทำให้การเล่นเกมไม่สะดุด

ดูจากความเร็วของ storage ที่ใช้ใน Huawei nova 3 บ่งชี้ว่ามือถือรุ่นนี้ใช้ storage แบบ UFS2.1
ลองเช็ค Huawei nova 3 ดูว่ามีเซ็นเซอร์อะไรมาให้บ้าง

กล้อง AI ที่ฉลาดมากขึ้นไปอีก
ที่ผ่านมาสมาร์ทโฟน nova series ของ Hauwei จะเน้นเรื่องของกล้อง โดยเฉพาะกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่เป็นพิเศษมาโดยตลอด ใน Huawei nova 3 / nova 3i ก็เห็นจะไม่แตกต่างกัน โดยในรุ่นใหม่นี้เขามาพร้อมกับจุดขายอย่าง “24MP, 4 AI Camera” ใช่แล้วครับ มันมีกล้องทั้งหมด 4 ตัว แบ่งเป็นกล้องหน้าและหลังอย่างละ 2 ตัว และทั้งหมดรองรับการทำงานร่วมกับ AI

ครั้งแรกกับกล้องหน้าคู่ผสานเทคโนโลยี AI

โดยกล้องหน้าทั้ง 2 รุ่นจะเป็นกล้อง 24MP f/2.0 + 2MP สำหรับทำ Bokeh Effect ซึ่งในที่นี้หัวเว่ยเขาคุยว่าเป็นกล้องหน้าของมือถือรุ่นแรกที่มีระบบ AI เข้ามาช่วย ตัวอย่างเช่น โหมด “AI Selfie Scenerary Recognition” ซึ่งจะใช้ AI ทำหน้าที่ปรับแต่งภาพในส่วนของ “ตัวแบบ” กับ “ฉากหลัง” เป็นอิสระจากกัน

โหมด “AI + New Beauty Algorithm” การแต่งสวยด้วยโหมดบิวตี้ คราวนี้จะแยกแต่งให้สวยตามเพศและสีผิวด้วย เช่น แบ่งตามเป็นภูมิภาค เป็นสีผิวแบบเอเชีย, ยุโรป หรือลาตินอเมริกา เป็นต้น

หรือว่าจะเป็นโหมด “AI + HDR Pro” ซึ่งทำให้การถ่ายภาพในโหมด HDR คราวนี้จะเป็นแบบ Hardware Grade HDR หมายความว่าระบบจะไม่ได้ทำงานด้วยการอาสัยซอฟต์แวร์แต่งภาพเพียงอย่างเดียว แต่จะทำงานร่วมกับส่วนของฮาร์ดแวร์นั่นคือตัวเซ็นเซอร์รับภาพด้วย เรียกประมวลผลแบบดูกันทีละพิกเซลเลยทีเดียว

กล้องหน้าของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ยังรองรับระบบปลดล็อคหน้าจอและระบบรู้จำใบหน้า (Unlock / Facial Recognition) แบบ 360 องศา มีระบบ “3D Qmoji” แบบน่ารัก ๆ มาให้ใช้งานอีก 8 รูปแบบด้วยกัน สามารถทำเป็นไฟล์เคลื่อนไหวแบบ gif animation หรือบันทึกเป็นวิดีโอเพื่อส่งต่อความน่ารักได้ด้วย

หัวเว่ยก็มีกับเขาเหมือนกันสำหรับ 3D Qmoji สุด cute

สำหรับกล้องหลังจะผสานการทำงานร่วมกับระบบ AI ด้วยเช่นกัน ซึ่ง AI ในเวอร์ชั่นนี้ทางหัวเว่ยคุยว่าเป็นระบบที่ผ่านการเก็บข้อมูลมาจากรูปภาพมาแล้วถึง 100 ล้านรูป มีการปรับปรุงเรื่องของการทำ Bokeh Effect ได้เนียนมากขึ้นโดยเฉพาะตามขอบภาพหรือเส้นผม มีระบบ AI Assist Composition ช่วยแสดงขอบเขตที่ไม่ให้วัตถุที่อยู่ตามขอบภาพดูผิดขนาดในเวลาถ่ายภาพมุมกว้าง

นอกจากนั้นแล้วยังสามารถถ่ายวิดีโอแบบ Super Slow Motion ได้ถึงระดับ 480 fps (หน่วงภาพได้ 16 เท่า)

กล้องหลังของรุ่น nova 3 สเปคฯ น้อง ๆ รุ่นเรือธงแล้ว
โหมดกล้องหลัง (ตัวจำหน่ายจริงอาจมีความแตกต่าง)

สรุปความแตกต่างระหว่าง nova 3 / nova 3i
ทั้ง Huawei nova 3 / nova 3i ที่ดูเหมือนจะเป็นฝาแฝดกันนั้น ในความเป็นจริงมีความแตกต่างกันอยู่หลายส่วน ลองไปดูความแตกต่างของแฝดคนละฝาคู่นี้กันครับ

ตัวเครื่อง:
nova 3 ฝาหลังปิดด้วยกระจกกันรอย 3D ที่มีความโค้งมนมากกว่า ทำให้ตัวเครื่องดูเพรียวกว่าเล็กน้อย ปุ่ม lock screen / power มีการสลักผิวเป็นลวดลายให้แตกต่างจากปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง
nova 3i ฝาหลังปิดด้วยกระจก 2.5D ความโค้งมนจะน้อยกว่า ขนาดตัวเครื่องก็ใกล้เคียงกันมากกับ nova 3

ชิปประมวลผล:
nova 3 ใช้ Kirin 970
nova 3i ใช้ Kirin 710

หน่วยความจำและความจุข้อมูล:
nova 3 ให้ RAM 6GB/ROM 128GB
nova 3i ให้ RAM 4GB/ROM 128GB

พอร์ตเชื่อมต่อ:
nova 3 ใช้พอร์ต USB Type-C
nova 3i ใช้พอร์ต Micro USB

แบตเตอรี่:
nova 3 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3,750 mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบ Fast Charge 18W
nova 3i มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3,340 mAh ไม่รองรับการชาร์จเร็ว

กล้องหน้า:
nova 3 มาพร้อมกับกล้องหน้า 24MP + 2MP รองรับ AI มีอินฟราเรดช่วยปลดล็อคด้วยใบหน้าในที่มืด
nova 3i มาพร้อมกับกล้องหน้า 24MP + 2MP รองรับ AI

กล้องหลัง:
nova 3 มาพร้อมกับกล้องคู่ 16MP (RGB) + 24MP (Monochrome) โดยใช้เลนส์ f/1.8 ทั้งคู่ มีตัวอักษรกำกับว่า “AI CAMERA”
nova 3i มาพร้อมกับกล้องคู่ 16MP + 2MP โดยใช้เลนส์ f/2.2 ทั้งคู่ มีตัวอักษรกำกับว่า “DUAL LENS”

ราคา:
nova 3 = 16,990 บาท
nova 3i = 9,990 บาท

ยังคงมีเคสแถมมาให้เหมือนเดิม

อุปกรณ์ในกล่องของทั้ง 2 รุ่นให้มาคล้าย ๆ กัน แตกต่างกันในรายละเอียด
เปรียบเทียบหัวชาร์จของทั้ง 2 รุ่น ของ nova 3 ซึ่งเป็นระบบชาร์จเร็ว 18 วัตต์จะมีขนาดใหญ่กว่า, ตัวขายจริงน่าจะเป็นปลั๊กขาแบนเหมือนกัน
ชัด ๆ กับหัวชาร์จของ nova 3 ซึ่งเป็นระบบชาร์จเร็ว (Quick Charge) 18 วัตต์
ความแตกต่างของขั้วต่อ
ความแตกต่างของปุ่ม lock screen / power
ความแตกต่างแบบชัด ๆ ที่ด้านหลังเครื่อง

มนตรี คงมหาพฤกษ์

ผู้ก่อตั้งสื่อออนไลน์ AV Tech Guide อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารและออนไลน์ GM2000 Magazine จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนใจเครื่องเสียงทั้งระบบอะนาล็อกและดิจิทัล ใช้งานสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android ใช้คอมพิวเตอร์ทั้ง macOS และ Windows หลงใหลเทคโนโลยีเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนี้กำลังเห่อระบบบันทึกเสียงและไมโครโฟนแบบมืออาชีพ