รีวิว Huawei : Mate 10 Pro
Mate 10 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงใน Mate Series จากหัวเว่ยที่เปิดตัวมาพร้อมกับสโลแกน
“สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้ชิปเซ็ตเทคโนโลยี AI”
แม้ส่วนใหญ่จะยังไม่ทราบว่าการมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) เข้ามาในสมาร์ทโฟนแล้วจะดียังไง แต่ลึก ๆ ก็เชื่อว่ามันต้องมีอะไรน่าตื่นเต้นกว่า Mate Series รุ่นก่อนหน้าแน่นอน
คุณสมบัติเด่น
Huawei Mate 10 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 6 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 มีความละเอียดของจอ 2,160 x 1,080 พิกเซล ตัวเครื่องอะลูมิเนียมยูนิบอดี้มีความหนาเพียง 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 178 กรัม กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 ตัวเครื่องรองรับ 2 ซิมแบบ Dual 4G LTE สามารถสแตนด์บายสัญญาณ 4G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม
ตัวเครื่องทำงานบนระบบปฏิบัติการ EMUI 8.0 ที่ครอบอยู่บน Android 8.0 Oreo ตัวเครื่องไม่สามารถใส่เมมมอรี่การ์ดเพิ่มความจุได้ แต่มาพร้อมกับ ROM ขนาดใหญ่ถึง 128 GB และ RAM 6 GB
และอย่างที่ได้เรียนไว้ในตอนต้นสมาร์ทโฟน Huawei Mate 10 Pro มาพร้อมกับชิปประมวลผลใหม่ 8 แกน รุ่นล่าสุด Kirin 970 ชิปประมวลผลที่มีระบบ Neural Processing Unit (NPU) ที่สามารถทำงานผสานกับเทคโนโลยี AI ช่วยให้มือถือรุ่นนี้สามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการจดจำเสียงของเจ้าของเพื่อให้ได้คุณภาพการสนทนาที่ดีกว่าจากการตัดเสียงรบกวนรอบข้างทิ้งไป
หรือเมื่อใช้แอปฯ ถ่ายภาพที่มากับเครื่องระบบจะสามารถบ่งชี้ว่าสิ่งที่กำลังถ่ายอยู่นั้นเป็นวัตถุประเภทใด ภาพบุคคล ดอกไม้ สัตว์ อาหาร วิวทิวทัศน์, ตัวหนังสือ ฯลฯ เพื่อที่ระบบประมวลผลภาพถ่ายจะได้ปรับแต่งค่าต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการถ่ายภาพสิ่งนั้น
ด้านกล้องยังคงเป็นจุดเด่นที่หัวเว่ยพัฒนาร่วมกับยี่ห้อไลก้ามาอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าด้านสเปคฯ นั้นเหนือกว่า Mate 9 Series ขึ้นไปอีก มาในรุ่นนี้เป็นกล้องหลังคู่ 20 MP (ขาวดำ) + 12 MP (สี) เป็นเลนส์ SUMMILUX-H สเปคฯ f /1.6 ทั้งคู่ พร้อมระบบกันสั่นแบบ OIS และความสามารถในการถ่ายวิดีโอ 4K สำหรับกล้องหน้ามีความละเอียด 8 MP, f /2.0 สามารถถ่ายเซลฟี่ในโหมด Portrait ได้
Huawei Mate 10 Pro ยังคงมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4,000 mAh และระบบชาร์จเร็วแบบ SuperCharge เหมือนใน Mate Series และ P Series รุ่นก่อนหน้า
ด้านการเชื่อมต่อ Mate 10 Pro รองรับการเชื่อมต่อไร้สายมาตรฐานทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi ac, Bluetooth v.4.2 (รองรับ aptX HD และ LDAC) และ NFC มีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C ที่รองรับการใช้งานเป็น DisplayPort 1.2 สามารถใช้งานในรูปแบบ PC Mode ได้ (ดูตัวอย่างวิดีโอการทำงานของ PC Mode โดยการสแกน QR Code) นอกจากนั้นยังมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดติดตั้งอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่อง สามารถใช้งานร่วมกับแอปฯ Smart Remote เพื่อใช้เป็นยูนิเวอร์แซลรีโมทคอนโทรลควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Mate 10 Pro คือภาคเสียงที่ระบุว่ารองรับไฟล์เสียงรายละเอียดสูงหรือ Hi-Res Audio ถึงระดับ 32bit / 384kHz ทว่ามาในรุ่นนี้หัวเว่ยได้ตัดช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm ออกไป แล้วให้อะแดปเตอร์แปลงจาก USB-C เป็น 3.5 mm มาใช้งาน ส่วนชุดหูฟังเฮดเซ็ตที่ให้มาก็เป็นขั้วต่อ USB-C สามารถเสียบฟังจากพอร์ต USB-C ที่ตัวเครื่องได้โดยตรง
สัมผัสแรกและลองใช้งาน
Huawei Mate 10 Pro วางจำหน่ายในราคา 27,900 บาท ช่วงแรกที่เริ่มวางจำหน่ายจะมีให้เลือกเฉพาะสีฟ้ามิดไนท์บลู และสีน้ำตาลมอคค่าบราวน์ จากนั้นจึงมีสีดำกราไฟต์เพิ่มเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก
สัมผัสแรกกับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ รู้สึกได้ทันทีว่าตัวเครื่องมีสัดส่วนที่จับถือได้ง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Mate 9 ดีไซน์โดยรวมอาจจะดูไม่แตกต่างมากมาย แต่ดีไซน์ด้านหลังเครื่องนั้นดูทันสมัย และดูดีมีสไตล์ขึ้นมาก ตำแหน่งของกล้องคู่ด้านหลังและเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมีลักษณะสมมาตรและดูลงตัว ตำแหน่งสแกนนิ้วยังอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานง่ายและมีการตอบสนองที่ฉับไวเหมือนเช่นเคย (จุดนี้เด่นมาตั้งแต่ในรุ่น Mate 8 แล้ว)
ด้านสมรรถนะการใช้งาน ต้องบอกว่ามันคือ Mate 9 Series ที่ถูกอัปเกรดขึ้นไปอีกระดับอย่างชัดเจน จอ OLED FullView Display ที่รองรับ HDR 10 ให้ภาพน่าตื่นตาตื่นใจแต่ยังเป็นรองจอ Super AMOLED ของ Samsung Galaxy Note 8 และ Apple iPhone X ในแง่ความกว้างของไดนามิกภาพ ด้านพลังการประมวลผลจากการใช้งานจริงและที่วัดได้จากแอปฯ Benchmark ต่าง ๆ บ่งชี้ว่า Mate 10 Pro นั้นมีภาคประมวลผลที่สามารถเทียบได้กับสมาร์ทโฟนในกลุ่มไฮเอนด์ ดังนั้นความลื่นไหลในการใช้งานจึงพูดได้ว่าหายห่วงแน่นอน สมาร์ทโฟนรุ่นนี้จึงเปิดกว้างสำหรับการใช้งานทั้งในแง่ของความบันเทิง และการใช้ทำงานอย่างจริงจัง
ด้านการถ่ายภาพโหมดเซลฟี่แม้จะเป็นกล้องเดี่ยว แต่ก็อาศัยความสามารถของซอฟต์แวร์ในการทำเอฟเฟ็คต์หน้าชัดหลังเบลอได้ ด้านกล้องหลังต้องบอกว่าคุณภาพเยี่ยมมากทั้งในแง่ของระบบหาโฟกัสที่ทำงานได้รวดเร็วแม่นยำ คุณภาพของภาพที่ได้ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของสมาร์ทโฟนในยุคนี้
ระบบกล้องใน Mate 10 Pro ช่วยให้การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนมีคุณภาพของภาพที่น่าประทับใจและเหนือชั้นกว่าใน Mate Series เดิมมากขึ้นไปอีก ในโหมดหน้าชัดหลังเบลอหรือ Wide Aperture สามารถแยกระนาบตื้นลึกได้อย่างแม่นยำเมื่อเทียบกับรุ่นเก่าอย่าง Mate 9 หรือสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ที่สามารถถ่ายภาพในลักษณะเดียวกันนี้
ภาคเสียงที่ว่ารองรับ hi-res audio เมื่อลองเล่นไฟล์เพลงรายละเอียดสูงระดับ 24bit/352.8kHz ที่ใส่เข้าไปในตัวเครื่องโดยใช้แอปฯ Music ที่มากับ Mate 10 Pro พบว่ามันสามารถมองเห็นและเล่นไฟล์รายละเอียดสูงเหล่านั้นได้อย่างราบรื่น แต่ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นการเล่นแบบ bit perfect เหมือนอย่างเครื่องเล่นในกลุ่ม Digital Audio Player ชั้นดีหรือไม่ เพราะไม่มีการแจ้งรายละเอียดในส่วนนี้ หรือรายละเอียดของภาค DAC ที่อยู่ในตัวอะแดปเตอร์ USB-C to 3.5 mm หรือ USB-C Headset เอาไว้
พยายามจะแยกแยะภาพน้องหมาและน้องแมวออกจากกัน
เสียงจากลำโพงในตัวเครื่องจัดว่ามีคุณภาพดีพอสมควร คือได้ทั้งความดังและคุณภาพเสียงเมื่อพิจารณาจากขนาด แต่ระบบลำโพงสเตริโอที่อาศัยลำโพงจาก ear-piece ที่ตัวเครื่องยังมีลักษณะเหมือนใน Mate 9 คือระดับความดังมันไม่ทัดเทียมกับลำโพงที่อยู่บริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง เสียงจากชุด USB-C headset มีคุณภาพในระดับพอใช้ได้ เสียดายว่าไม่มีโอกาสได้ลองฟังเสียงจากตัวอะแดปเตอร์ USB-C to 3.5 mm กับหูฟังอื่น เนื่องจาก review sample ที่ได้รับมา ไม่มีตัวตัวอะแดปเตอร์ USB-C to 3.5 mm ส่งมาด้วย
สำหรับระบบแปลภาษาใน Mate 10 Pro ที่ใช้ระบบ Microsoft Translator ซึ่งคุยว่าแปลได้ 50 ภาษาและสามารถทำงานได้แบบออฟไลน์นั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจ แต่ในการใช้งานจริงพบว่าผู้ใช้ยังต้องเรียนรู้วิธีการใช้อีกพอสมควร
เพราะใช้งานจริงไม่ง่ายเท่าใดนักอีกทั้งยังมีปัจจัยแวดล้อมหลายอย่างที่มีผลกับการแปล เช่น เสียงรบกวน การใช้คำแสลง ความเร็วและสำเนียงในการพูด ฯลฯ อีกทั้งระบบยังไม่สามารถแปลจากเสียงพูดในภาษาไทยได้ หลัก ๆ จะเน้นใช้การแปลจากภาษาต่างชาติให้เป็นไทยมากกว่า ซึ่งเท่าที่ลองใช้ดูก็มีความเห็นว่าเป็นระบบที่ดีแต่ยังปรับปรุงให้สมบูรณ์กว่านี้ได้อีกพอสมควร ในเวลานี้มันอาจใช้เป็นตัวช่วยในบางสถานการณ์ได้เท่านั้น
ความเห็นโดยสรุปและข้อแนะนำ
Mate 10 Pro คืออีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของสมาร์ทโฟน Mate Series จากหัวเว่ยซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อเน้นการใช้งานและการทำงานที่หลากหลายภายในเครื่องเดียวกันได้อย่างแท้จริง ความน่าประทับใจเป็นพิเศษว่าไปตั้งแต่ดีไซน์ภายนอก, คุณภาพกล้อง, การซื้อความสามารถในอนาคตของระบบประมวลที่มี AI ในตัว, การใช้งานแบบ PC Mode รวมถึงตัวเครื่องที่มีคุณสมบัติป้องกันน้ำและฝุ่นได้แล้ว
แต่จุดที่ต้องแนะนำให้ใช้เป็นปัจจัยในการพิจารณาเลือกซื้อเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในกลุ่มไฮเอนด์ด้วยกันก็คือ การเพิ่มการ์ดความจุไม่ได้, การไม่มีระบบชาร์จไร้สาย และคุณภาพของจอ OLED ที่ยังเป็นรองคู่แข่งอยู่เล็กน้อย หากคุณได้พิจารณาหรือได้ลองเล่นแล้วพบว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาแล้วล่ะก็ Huawei Mate 10 Pro อาจเป็นสมาร์ทโฟนชั้นดีในราคาสมเหตุสมผลที่คุณกำลังมองหาอยู่ก็เป็นได้ครับ
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด
ราคา 27,900 บาท