Elac Debut 2.0 ลำโพงราคาประหยัดรุ่นใหม่ล่าสุดจากอีแล็ค
Elac Debut 2.0 ลำโพงราคาประหยัดรุ่นใหม่ล่าสุดจากอีแล็ค ออกแบบโดย Andrew Jones ผู้ที่ตั้งใจจะทำให้ลำโพงระดับราคาเช่นนี้ยังคงนำเสนอคุณภาพเสียงออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ด้วยระดับราคาที่เหลือเชื่อ จาก Debut รุ่นแรก เพียงสองปีต่อมานักออกแบบลำโพงผู้มากประสบการณ์ได้ประกาศเปิดตัวลำโพงรุ่นใหม่ Debut 2.0
สิ่งที่เราจะได้เห็นและได้ยินจากลำโพงรุ่นใหม่นี้จะดียิ่งไปกว่าลำโพงรุ่นก่อนๆ การออกแบบตกแต่งลงตัวสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น ส่วนคุณภาพเสียงนั้นได้รับการยืนยันว่าจะละมุนกว่ากาแฟคาราเมลลาเต้ ด้านราคาเปิดตัวในต่างประเทศนั้นจะแพงกว่ารุ่นก่อนประมาณ 20 เหรียญต่อคู่เท่านั้น ซึ่งเป็นราคาที่สมเหตุสมผล
รุ่นที่เป็นรุ่นเด่นอย่าง ลำโพงที่มีขนาดวูฟเฟอร์ 6.5 นิ้ว รุ่นล่าสุดจะเป็นรุ่น B6.2 ซึ่งขายอยู่ที่ 300 เหรียญต่อคู่ ตัวลำโพงถูกออกแบบภายในใหม่ให้มีความแข็งแรงยิ่งขึ้น ติดตั้งช่องระบายเบสไว้ทางด้านหน้าเพื่อความสะดวกสบายในการจัดวาง และตกแต่งผิวตัวตู้ทั้งหมดด้วย black ash vinyl
ลำโพงรุ่นใหม่นี้ประกอบด้วย ลำโพงทวีตเตอร์โดมผ้าแบบใหม่มาพร้อมกับขอบเซอร์ราวนด์แบบ “wide-roll surround” ที่รับประกันเรื่องการตอบสนองความถี่ได้สูงถึง 35,000 เฮิรตซ์ (สัตว์เลี้ยงของคุณจะชอบมัน) และกรวย อะรามิด (ใยแก้ว) ที่ปรับปรุงใหม่มาพร้อมกับความชัดเจนและพลิ้วไหว
ลำโพงทั้งหมดในซีรีส์ Debut 2.0 ประกอบไปด้วย
B5.2 Debut 2.0
ลำโพงวางหิ้งแบบ 2 ทาง วูฟเฟอร์ขนาด 5.25 นิ้ว ราคาคู่ละ $250
B6.2 Debut 2.0
ลำโพงวางหิ้งแบบ 2 ทาง วูฟเฟอร์ขนาด 6.5 นิ้ว ราคาคู่ละ $300
C5.2 Debut 2.0
ลำโพงเซ็นเตอร์แบบ 2 ทาง วูฟเฟอร์ขนาด 5.25 นิ้ว ราคาตู้ละ $200
C6.2 Debut 2.0
ลำโพงเซ็นเตอร์แบบ 2 ทาง วูฟเฟอร์ขนาด 6.5 นิ้ว ราคาตู้ละ $280
F5.2 Debut 2.0
ลำโพงวางพื้นแบบ 3 ทาง วูฟเฟอร์ขนาด 5.25 นิ้ว จำนวน 3 ตัว ราคาคู่ละ $600
F6.2 Debut 2.0
ลำโพงวางพื้นแบบ 3 ทาง วูฟเฟอร์ขนาด 6.5 นิ้ว จำนวน 3 ตัว ราคาคู่ละ $800
A4.2 Debut 2.0
ลำโพงคอนเซนตริก ขนาด 4 นิ้ว ใช้เป็นลำโพงกระจายเสียงในระบบ Dolby Atmos (วางบนลำโพง) ราคาคู่ละ $250
OW4.2 Debut 2.0
ลำโพงติดผนังแบบ 2 ทาง วูฟเฟอร์ขนาด 4 นิ้ว ราคาคู่ละ $250
SUB3010 Debut 2.0
ลำโพงซับวูฟเฟอร์แบบมีภาคขยาย 400 วัตต์ พร้อม AutoEQ วูฟเฟอร์ขนาด 10 นิ้ว ราคาตู้ละ $450
Debut 2.0 จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่สหรัฐ ในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ขณะที่ในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนจะเริ่มวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียด้วยสนนราคาตามที่แจ้งไว้ (อ้างอิงราคา $ 250 มีมูลค่าประมาณ 180 ปอนด์หรือ 320 เหรียญออสเตรเลีย แต่ราคาจำหน่ายจริงคาดว่าจะสูงกว่านี้)
