รีวิว MRZ : 900 Series 5.0 Home Theater Speakers Set
มีหลายคนถามมาว่า งบประมาณขั้นต่ำในการหาชุดโฮมเธียเตอร์มาไว้ในบ้านสักชุดนึงจะอยู่ที่เท่าไหร่ดี? ถ้าตัดทีวี และแหล่งโปรแกรมออกไป ก็จะเหลือแต่ภาคขยายแล้วก็ลำโพง เอาง่าย ๆ เลยก็คือชุดลำโพงซาวด์บาร์ปัจจุบันนี้ ถ้ามีประมาณหมื่นต้น ๆ ก็เป็นเจ้าของได้แล้ว
แต่ก็คงขัดใจกับคนที่ต้องการระบบเสียงเซอร์ราวด์แท้ ๆ มีเสียงหยอกล้อโอบล้อมมาจากลำโพงด้านหลังซึ่งมันก็มีเสน่ห์ประจำตัวของมัน อันนี้แนะนำว่าก็คงต้องเปลี่ยนมาเป็นชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์ดีกว่า อย่างน้อยก็ 5.0 channel ผมกะคร่าว ๆ ว่างบประมาณขั้นต่ำน่าจะประมาณ 30,000 บาทก็คงจะอยู่ รวมคู่นี้เอวีฯ กับลำโพง ทีนี้ต้องมาตัดสินใจว่าเราจะเทหมดส่วนใหญ่ไปที่ ภาคขยายอย่าง av receiver หรือลำโพงดี
ตอนนี้อาจมีภาพชุดโฮมเธียเตอร์อินเดอะบ๊อกซ์ลอยเข้ามาในหัวคุณบ้าง ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเพราะราคามันสูสีเชือดเฉือนกันอยู่แล้ว แต่กับชุดโฮมเธียเตอร์อินเดอะบ๊อกซ์ซ์คุณคงต้องร่วมหัวจมท้ายระหว่าง av receiver กับลำโพงของมันไปอีกพักใหญ่ ๆ บางคนอาจไม่ชอบเสียงของ เอวีฯ ยี่ห้อนั้น หรือถ้าอยากได้ฟังก์ชั่นบางอย่างของเอวีรีซีฟเวอร์อีกยี่ห้อหนึ่ง อย่างนี้ก็ต้องเลิกคิดไปเลย
ผมจะแนะนำชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์ซักชุดนึงที่จะทำให้คุณมีอิสระในการเลือก av receiver ในแบบที่คุณชอบมากขึ้น เป็นชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์ในแบบ 5.0 channel ที่ให้ทางเลือกเรื่อง subwoofer ได้อีก ที่สำคัญราคาของมัน เพียง 1 ใน 6 ของราคาที่เราตั้งงบไว้ตั้งแต่ทีแรกเท่านั้น
คงมีเสียงอุทานตามมาทันทีว่า…เฮ้ยมันจะดีเหรอ ลำโพงโฮมเธียเตอร์ทั้งชุดราคาแค่ห้าพัน อย่าลืมว่าเรากำลังจะจัดชุดแข่งกับพวกโฮมเธียเตอร์อินเดอะบ๊อกซ์ ราคาชุดลำโพงขนาดนี้มันก็น่าจะสมน้ำสมเนื้อกับพวกลำโพงในชุดโฮมเธียเตอร์อินเดอะบ๊อกซ์ซึ่งรับรองว่าคุณจะได้อะไรอะไรจากลำโพงชุดนี้มากกว่าลำโพงที่แถมมาเป็นแน่
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ว่าลำโพงชุดนี้มันดีจริงพอที่ให้คุณเลิกคบชุดโฮมเธียเตอร์อินเดอะบ๊อกซ์ได้ขนาดนั้นเลยไหม?
Budget Home Theater Speakers
จริง ๆ ชื่อ MRZ ก็ไม่ใช่ชื่อใหม่ที่ไม่เคยคุ้นหูเสียเลย ใครที่อยู่แถวย่านวังบูรพาคงรู้จักร้านเครื่องเสียงชื่อเดียวกันนี้ดี จุดเริ่มต้นก็คงมาจากการเป็นตัวแทนนำเข้าเครื่องเสียงในสมัย 40-50 ปีก่อน
สมัยก่อน MRZ ทราบมาว่าไม่ได้มีเฉพาะลำโพงอย่างเดียว มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่นที่ติดโลโก้ MRZ แบบเดียวกันนี้ด้วย ช่วงแรก ๆ ทราบมาอีกว่าใช้วัตถุดิบจากทางฝั่งญี่ปุ่น อย่างเช่นพวกดอกลำโพงต่าง ๆ โดยนำมาประกอบเป็นตู้ในบ้านเรา ปัจจุบันนี้ไม่แน่ใจว่าสำเร็จครบถ้วนมาจากโรงงานหรือนำวัตถุดิบเข้ามาประกอบในบ้านเราเหมือนอย่างแต่ก่อน
ในชุด series 900 ชุดนี้ จะประกอบด้วยลำโพงที่แพ็คมาในกล่อง 2 กล่องโดยกล่องแรกจะเป็นลำโพงคู่หน้า ซึ่งเป็นลำโพงตั้งพื้นขนาดเล็กก็ได้เพราะว่า ความสูงของมันน่าจะประมาณ 1 เมตร ซึ่งก็แค่เอวของเราเท่านั้น ตอบสนองความถี่ที่ 58 ถึง 20000 Hz ความต้านทาน 4 โอห์ม รองรับกำลังขับสูงสุดที่ 100 วัตต์ เป็นลำโพงสองทางที่ใช้ไดร์เวอร์ขนาด 5 นิ้ว 2 ตัว ทำงานในย่านความถี่ต่ำ ไม่ได้บอกว่ามีจุดตัดความถี่ที่เท่าไหร่
แต่ถ้าให้เดาจากการวัดด้วยกราฟการตอบสนองความถี่ก็น่าจะอยู่ประมาณ 2,200 – 2,300kHz ลำโพงวูฟเฟอร์ทำเหมือนลายเคฟล่าที่มีเฟสปลั๊กอยู่ตรงกลาง จริง ๆมันก็เป็นโพลิเมอร์ชิ้นเดียวกันนี่แหละ ที่มีขอบยางเป็นขอบเซอร์ราวด์ จัดว่าเป็นลำโพงหน้าแคบเพราะว่า มีขอบตู้ที่เป็นไม้ล้นออกมาจากตัวดอกลำโพงข้างละไม่ถึง 2 cm
ตัวทวิตเตอร์ที่อยู่ด้านบนก็เป็นโดมผ้าอาบน้ำยาในแบบที่ลำโพงมาตรฐานส่วนใหญ่ใช้ ถ้าหากใครไม่อยากโชว์ให้เห็นหน้าตาของตัวดอกลำโพง มันก็มีหน้ากากผ้าสีดำความสูงเท่ากับลำโพงมาปิดบังป้องกันความเสียหายไปด้วยในตัว โดยไม่ว่าคุณจะปิดหน้ากากหรือเปิดหน้ากากก็จะมีโลโก้คำว่า MRZ โชว์ให้เห็นด้านล่างอยู่ดี
ด้านหลังของลำโพงคู่นี้เป็นขั้วต่อลำโพงในแบบไบไวร์ขนาดมาตรฐานทั่วไป ที่ใช้ได้ทั้ง banana jack และแบบขันแยงรู โดยมีจัมเปอร์เป็นแผ่นโลหะชุบทองบาง ๆ บอกตรง ๆว่าดูแล้วก็ไม่อยากพึ่งพามันสักเท่าไหร่ ตัวตู้แปะด้วยผิวไวนิลสีเชอรี่ เนื้องานก็ประมาณงานเฟอร์นิเจอร์บ้านเรา เรียบร้อยพอสมควร ดูเนื้องานมันก็ไม่ได้อวดเบ่งว่าเป็นลำโพงราคาแพงมากมายอะไร
ส่วนอีกกล่องนึงก็จะบรรจุด้วยลำโพงเซอร์ราวด์ และลำโพงเซ็นเตอร์แพ็คมาอยู่ในกล่องเดียวกัน โดยเฉพาะลำโพงเซอร์ราวด์จัดว่าเป็นลำโพงไซส์ที่น่ารักทีเดียว ประกอบด้วยลำโพงวูฟเฟอร์ขนาดเล็กลงไปอีกนิดเหลือประมาณ 4 นิ้ว แถมยังเจียขอบส่วนโค้งซ้ายขวาให้เหลือพื้นที่เล็กที่สุด ทำให้ได้ตัวตู้ที่มีหน้าแคบมากที่สุด กว้างประมาณ 4.6 นิ้ว เท่านั้น
ในส่วนของลำโพงทวิสเตอร์ก็ใช้ตัวเดียวกับลำโพงคู่หน้าซึ่งก็เหมือนกันหมดทุก channel ในซีรีย์นี้แน่นอนว่ามันจะเป็นลำโพงตู้เปิดที่มีท่อระบายเบสออกด้านหลัง แต่สำหรับลำโพงเซอร์ราวด์ ตัวเล็กตัวนี้ให้จุดแขวนลำโพงด้านหลังมาด้วยซึ่งสามารถนำไปแขวนกับน๊อตเกลียวปล่อยตัวเดียวได้สบาย ๆ เพราะน้ำหนักของมันไม่มากมายอะไรน่าจะประมาณกิโลนิด ๆ เท่านั้น