เปิดตัว Wharfedale Super Denton ลำโพงสามทางขนาดเล็กดีไซน์เรโทร
Wharfedale หนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตลำโพงชื่อดังของสหราชอาณาจักรซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานมาตั้งแต่ปี 1932 ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Heritage ที่งาน The Bristol HiFi Show 2024 นั่นคือลำโพงสามทางขนาดเล็กดีไซน์เรโทรอย่าง Wharfedale Super Denton
ลำโพงซีรีส์ Heritage ของ Wharfedale เป็นลำโพงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลำโพงสเตอริโอรุ่นคลาสสิกที่อยู่ในช่วงปี 1960 และ 1970 ทว่าได้รับการปรับปรุงทางวิศวกรรมใหม่เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้รักเสียงเพลงในยุคนี้
Wharfedale Super Denton เป็นส่วนหนึ่งของลำโพงในซีรีส์ Heritage นี้ ซึ่งรวมถึงรุ่น Denton 80, Denton 85, Linton และ Dovedale ซึ่งทั้งหมดมีการผสมผสานระหว่างสุนทรียศาสตร์แบบวินเทจและประสิทธิภาพแบบร่วมสมัย โดยรุ่นล่าสุดนี้ย้อนกลับไปสู่รุ่น Denton ดั้งเดิมที่เปิดตัวมาตั้งแต่ในปี 1967
Super Denton ออกแบบเป็นลำโพงสามทางที่มีขนาดกะทัดรัด ตัวลำโพงมีหน่วยเสียงกลางและเสียงแหลมทรงโดม พร้อมด้วยตัวขับเสียงทุ้มขนาด 165mm ที่มีไดอะแฟรมขึ้นรูปจากเคฟล่าร์ถักสาน สามารถตอบสนองความถี่ต่ำลงได้ลึกถึง 40Hz (-6dB)
สำหรับวงจรครอสโอเวอร์ตัดแบ่งความถี่ระหว่างไดรเวอร์ได้รับการออกแบบด้วยขดลวดเหนี่ยวนำแกนอากาศและตัวเก็บประจุโพลีโพรพีลีนที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยม
ในส่วนของตัวขับเสียงกลางและเสียงแหลม ได้รับการออกแบบให้ลดความผิดเพี้ยนจากการสะท้อนของคลื่นเสียง ในขณะที่เสียงสะท้อนของตู้ควบคุมด้วยวัสดุค้ำยันภายในและวัสดุแดมปิ้ง ตัวตู้ลำโพงปิดด้วยผิวไม้แท้วอลนัท มะฮอกกานี หรือสีดำให้รูปลักษณ์ภายนอกที่มีเสน่ห์แบบวินเทจ พร้อมตะแกรงหน้ากากแบบยึดด้วยแรงแม่เหล็ก
สำหรับข้อมูลในเชิงเทคนิค Wharfedale Super Denton เป็นลำโพงสามทาง ระบบตู้เปิด ขนาดกะทัดรัด (360x246x275mm) ตัวขับเสียงแหลมแบบโดมผ้าขนาด 25mm ตัวขับเสียงกลางแบบโดมผ้าขนาด 50mm และตัวขับเสียงทุ้มกรวยเคฟลาร์สานขนาด 165mm โดยมีจุดตัดแบ่งความถี่เสียงอยู่ที่ 940Hz และ 4.6kHz ตอบสนองความถี่เสียงตั้งแต่ 52Hz-20kHz (+/-3dB)
ตัวลำโพงมีอิมพิแดนซ์เฉลี่ยอยู่ที่ 6 โอห์ม มีความไวอยู่ที่ 87dB (2.8V @ 1m) แนะนำให้ใช้งานร่วมกับแอมป์ที่มีกำลังขับในช่วง 25-120W
Wharfedale Super Denton วางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมนี้ โดยมีให้เลือกระหว่างผิวลายไม้วอลนัท ผิวลายไม้มะฮอกกานี และผิวลายไม้วีเนียร์สีดำ วางจำหน่ายในราคาคู่ละ 999 ปอนด์หรือประมาณ 46,000 บาท
ที่มา: hifipig