fbpx

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

รีวิว Polk Audio : Signa Solo SoundBar

อะไรที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของโทรทัศน์สมัยนี้?

ภาพนะเหรอ? หรือว่าการออกแบบ? แล้วพวกฟังก์ชั่นต่าง ๆ ล่ะเป็นไง? ไม่ใช่เลยแม้แต่น้อยผมว่าของพวกนั้นมันสามารถพัฒนาให้ลงตัวได้อย่างไม่มีปัญหา

แล้วเรื่องเสียงของทีวีล่ะ?

จริง ๆแล้วผู้ผลิตทีวีก็คงมีความพยายามที่จะใส่ระบบเสียงที่มีคุณภาพลงไปในทีวี แต่เมื่อมันล่วงเลยมาถึงปัจจุบันนี้การออกแบบที่แข่งกันเรื่องความบางของทีวีก็ยังไม่ยุติ ตราบใดที่ความบางของทีวีมันทำให้ทีวีขายได้เรื่องคุณภาพเสียงของมันจึงเป็นสิ่งที่สวนทางกับรูปลักษณ์ของทีวีที่บางลง บางลง

แน่นอนว่าถ้าเอาคำว่า “ดี” สำหรับเสียงของทีวีมาตัดสินคุณภาพเสียงทั้งหมด เราคงไม่ได้เห็นการอัพเกรดระบบเสียงของทีวีกันทั่วบ้านทั่วเมือง เพราะคำว่า “ดี” ของทีวีนั้นมันเป็นแค่คำพูดปลอบใจสำหรับแม่บ้านแค่นั้น

เรามาหาวิธีอัพเกรดระบบเสียงของทีวีของเราให้ได้มากกว่าคำว่า “ดี” ตรงนั้นจะดีกว่า โชคดีที่ปัจจุบันนี้เราสามารถหาสินค้าที่ใช้สำหรับอัพเกรดระบบเสียงในทีวีได้อย่างง่าย ๆ ทุกหนทุกแห่ง

ทุกคนรู้ว่ากับคนที่กำลังจ่ายตังค์ซื้อทีวีถ้าจะเชียร์ให้ซื้ออะไรเพิ่มอีกสักชิ้นหนึ่งก็คงเป็นลำโพงซาวด์บาร์นี่แหละครับ ขายกันอยู่ทั่วหัวระแหงจริง ๆ แต่วันนี้ผมจะมาแนะนำลำโพงซาวด์บาร์รุ่นใหม่ล่าสุดสัญชาติอเมริกันอีกสักตัวหนึ่ง จาก Polk Audio แต่สิ่งที่ผมกระวนกระวายอยากเอาลำโพงรุ่นนี้มานำเสนอก็เพราะว่า

– มันเป็นลำโพงที่ทำให้เสียงของทีวีออกมาดีพอ..ตามหลักการของคนที่ชอบดูหนังฟังเพลง

– มันเป็นลำโพงที่ทำขึ้นมาจากคนทำลำโพงจริง ๆที่มีประสบการณ์การออกแบบลำโพงฟังเพลง และระบบเสียงเซอร์ราวด์มายาวนาน

– มันเป็นลำโพงที่ถ้าคุณรู้ราคาแล้ว แทบไม่ต้องเปิดเน็ตเช็คราคากันอีกรอบ เพราะมันเป็นราคาที่เซ็ตออกมาแบบปูพรมให้มันสามารถเข้าไปอยู่ในแทบทุกบ้านได้

มันคือ Polk Signal Solo ลำโพงซาวด์บาร์รุ่นเล็กสุดในซีรีย์ใหม่ของ Polk ที่เราจะมาพูดถึงกันในคราวนี้ครับ

จุดประสงค์หลักของมันคือการทำให้เสียของทีวีมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างประหยัด Polk Signal Solo จึงเป็นลำโพงซาวด์บาร์ที่ไม่ได้มาพร้อมกับซับวูฟเฟอร์ให้มันเกะกะ เรียกว่าตัวเดียวครบตลอดทุกย่านความถี่ และการเชื่อมต่อก็ทำแบบง่าย ๆ โดยผ่านสาย Optical ที่ต่อออกมาจากทีวี โดย Polk Signal Solo ก็มีเตรียมมาให้ไว้เรียบร้อยในกล่อง

ส่วนถ้าทีวีของใครที่ไม่มีช่อง output แบบ Optical ก็ไม่ต้องกลัว เพราะว่ายังมีช่องอินพุตที่เป็นอนาล็อกเผื่อไว้ให้ผ่านแจ๊ค 3.5 mm ลักษณะรูปทรงของมันดูเหมือนว่ามันจะไม่มีความพิเศษอะไรไม่ต่างอะไรจากซาวด์บาร์ที่เราเห็นกันอยู่จนคุ้นตา

Design
Signa Solo ก็มีลักษณะคล้าย soundbar ทั่ว ๆ ไป มันยาวเกือบเมตรเลือกที่จะติดตั้งบนผนังได้แค่ยึดน๊อตเพียง 2 ตัวมีกระดาษตัวแบบสำหรับหาตำแหน่งเพื่อติดผนังที่ให้มาด้วย เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่มีพื้นที่ที่จะวางไว้ด้านหน้าของทีวี

ถ้าจะแขวนก็แสนง่ายไม่ต้องหาอุปกรณ์พิเศษที่ไหน
เพียงน๊อต 2 ตัว กับผนังที่แข็งแรงหน่อย

ด้านหน้าจะถูกบดบังด้วยผ้าฉลุหุ้มสีเทาดำหุ้มห่อเอาไว้ โดยมีโลโก้ Polk เป็นสัญลักษณ์อยู่ริมทางขวา จากเนื้องานของซาวด์บาร์ตัวนี้ถือว่าสมราคา ตัวบอดี้เป็นพลาสติกเนื้อแข็งงานเนี๊ยบตามแบบฉบับของ Polk

โลโก้ที่ทำให้อุ่นใจได้ว่าราคาไม่ได้เป็นอุปสรรคกับคุณภาพ
ปุ่มที่มีมาให้อุ่นใจ ซึ่งแทบจะไม่ได้ใช้เพราะรีโมทสะดวกกว่า
ขั้วต่ออยู่ด้านหลังมีให้มาอย่างพอเพียง กับบลูทูธไร้สายสำหรับต่อผ่านสมาร์ทโฟน
ราคานี้ยังมีสายออปติคัลมาให้เรียบร้อย

มันเป็นคุณลักษณะที่มีแนวโน้มว่าจะจับคู่กับทีวีได้ตั้งแต่สี่สิบกว่านิ้วขึ้นไป หลัก ๆ ของการควบคุมการเชื่อมต่อก็ทำได้จากปุ่มด้านบน 5 ปุ่ม มีการเชื่อมต่อกับบลูทูธมาให้ ปุ่มกดเพื่อสลับไปมาระหว่างแหล่งสัญญาณต้นทาง และการเพิ่ม-ลดระดับเสียง ในขณะที่ด้านหลังเป็นขั้วต่อสำหรับ Optical SPDIF และอินพุต Aux พร้อมกับแหล่งจ่ายไฟจากอะแดปเตอร์เป็นหลัก

ดูจะบาง ๆ แต่ฟังก์ชั่นครบ

รีโมทเป็นแบบคาร์ดรีโมท ที่ควบคุมฟังก์ชันพื้นฐาน หมายถึงการแยกวอลลุ่มสำหรับเพิ่มลดเสียงของเสียงสนทนา และเสียงความถี่ต่ำออกมาต่างหาก และยังมีโหมดพรีเซตให้เลือกใช้ 3 หมวดหลัก ๆไล่ไปตั้งแต่ Movie/ Game และ Music และโหมดค่ำคืนเพื่อลดความเสียงถี่ต่ำ ๆ ลงไม่ไปรบกวนข้างห้อง หลัก ๆ ก็มีอยู่แค่นี้หน้าตาถือว่าสอบผ่านทีเดียวขนาด และน้ำหนักแสดงตัวให้อยากต่อฟังเสียงของมันเร็ว ๆ เลย

Setup
ในราคาที่เย้ายวนใจนี้ ถ้าเป็นคนอื่นก็แทบจะไม่ต้องเรียกหาเทคโนโลยีอะไรอีกแล้ว แต่ Polk: Signa Solo ก็ยังให้เทคโนโลยีที่เรียกว่า SDA digital surround ซึ่งเป็นสมบัติที่ตกทอดกันมาของบริษัทตั้งแต่สมัยที่ Polk ออกแบบลำโพงรุ่น SDA SRS ที่เป็นที่ฮือฮากันในสมัยนั้น

กับลำโพงที่มีมิดเร้นท์ 8 ตัว ทวิตเตอร์ 4 ตัว และมีพาสซีฟเรดิเอเตอร์อีก 2 ตัวอยู่ในลำโพงข้างเดียว โดยเรียกเทคโนโลยีนั้นว่า SDA (Stereo Dimension Aray) ทำให้เสียงของแต่ละไดร์เวอร์ไม่ขัดแย้งกันเองเมื่อเอามาฟังในแบบ 2 channel ใครจะคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปทฤษฎีต่าง ๆ มันก็กลายเป็นสมบัติล้ำค่าที่เอามาปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่

เดี๋ยวนี้มันต้องทำลำโพงน้อยตัวให้มีเสียงแบบมีไดร์เวอร์อยู่หลาย ๆ ตัว กลับทางกับสมัยก่อนเสียนี่ ก็เป็นเรื่องที่ Polk ไม่ต้องคิดอะไรเริ่มต้นใหม่เหมือนคนอื่นมีต้นทุนอยู่แล้วนำมาดัดแปลงให้กับลำโพงซาวด์บาร์ของเขา

ฟังก์ชันเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่มีมาให้สำหรับการเพิ่มอรรถรสของการดูหนังผ่านลำโพงประเภทนี้อย่าง VoiceAdjust ก็ยังมีมาให้ ช่วยให้ผู้ฟังสามารถปรับแต่งเสียงเบส และระดับ ‘เสียง’ ของการพูดคุยสนทนาที่ชัดเจนและกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น

เบส 10 เท่าของลำโพงในทีวี
ตัวเลขนึงที่น่าสนใจก็คือ Polk บอกว่าลำโพงตัวนี้จะมีเสียงเบสมากกว่าลำโพงที่ติดตั้งมาในทีวี 10 เท่า

คำถามก็คือตัวเลข 10 เท่าเนี่ย มันพอจริง ๆ เหรอ? แล้วทำไมมันไม่มีซับวูฟเฟอร์มาช่วย?

ตอบคำถามแรกก็คือได้ยินลำโพงในทีวีมันก็ไม่ได้มีเสียงเบสอะไรมากมายอยู่แล้วเพราะเสียงความถี่ต่ำมันก็ต้องการปริมาตรของตู้ หรือพื้นที่ด้านหลังลำโพงตัวนั้นมาช่วยทำให้เกิดเสียงความถี่ต่ำขึ้นมา มันขัดแย้งกับการออกแบบทีวีสมัยนี้

เพราะฉะนั้นถ้าทำลำโพงให้มีเสียงความถี่ต่ำมากกว่าเสียงจากทีวีปกติทั่วไปซัก 10 เท่า (ผมว่าอย่างเก่งประมาณ 10 dB นี่ก็เห็นหน้าเห็นหลังแล้ว) ซึ่งมันก็ไม่เป็นเรื่องที่ยากเกินไปนัก ต่อมาที่คำตอบที่ 2 ว่าแล้วทำไม Polk ชุดนี้ไม่มีซับวูฟเฟอร์มาช่วย

ถ้าตอบง่าย ๆ แบบกำปั้นทุบดินก็คือถ้ามีซับวูฟเฟอร์ราคามันก็แพงกว่านี้ Polk อาจอยากจะมีซาวด์บาร์ระดับล่างเอาไว้ชนกับคู่แข่งชักรุ่นนึง การประหยัดต้นทุนอย่างรวดเร็วก็คือ ตัดซับวูฟเฟอร์ออกไปก่อน แต่เมื่อตัดออกมาแล้วก็ต้องคำนึงถึงคุณภาพที่ต้องไม่เสียหายมากนัก

การออกแบบลำโพงของ Polk: Signa Solo ชุดนี้จึงเน้นเรื่องความถี่ต่ำมาก ๆ มีทั้งเทคโนโลยี Four Drivers Array (ไดร์เวอร์แบบฟูลเร้นท์ ขนาด 63 มม. 4 ตัว) แล้วก็ bass port ที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับไดร์เวอร์ทั้งสี่ตัวนี้โดยเฉพาะเพื่อสร้างเสียงความถี่ต่ำให้ออกมาจากบอดี้ทรงแท่งยาว ๆ แบบนี้

ตัวเลขการตอบสนองความถี่ในทางทฤษฎีอยู่ที่ 50 – 20 kHz ซึ่งก็คงพอเหลือเฟือกับคนที่ไม่ได้หิวโหยเสียงความถี่ต่ำเป็นบ้าเป็นหลัง แบบที่ชอบฟังเพลงแดนซ์ หรือชอบดูหนังโหด ๆ เป็นประจำ

Sit & Listen
Signa Solo มันเริ่มต้นจากโจทย์ที่ต้องเป็นลำโพงซาวด์บาร์ที่สามารถใช้แก้ปัญหาระบบเสียงของทีวีในทุกระดับราคา จึงเหลือการเชื่อมต่อในแบบ Optical ที่เป็นดิจิทัล แต่แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเสียงจากทีวี

แต่สิ่งที่มันเตรียมมาเผื่อสำหรับคนที่ต้องการประสิทธิภาพเสียงจากการดูหนังจากพวก Streaming service ก็คือมันรองรับ Dolby Digital Audio ผ่านมาจากทีวีทางช่องนี้เท่านั้นสำหรับซาวด์บาร์ตัวนี้

แค่นี้ก็ทำให้เสียงของมันดียิ่งขึ้นอย่างง่าย ๆ เสียงที่เต็มขึ้น จากการออกแบบลำโพงที่รองรับความถี่ต่ำได้มากขึ้นทำให้เสียงสนทนา หรือเสียงเอฟเฟ็คมันมีมิติของความถี่ของเสียงที่เพิ่มขึ้น แยกย่อยลงไป

บางคนเขาเรียกลักษณะแบบนี้ว่าเสียงมันละเอียดมากขึ้น เริ่มต้นเปิดฉากของหนังสตรีมมิ่งเรื่องดังอย่าง “Bright” ของ NetFlix เพลงเปิดของ Logic & Rag’n’Bone Man : Broken People เป็นแร็พเปอร์ที่กำลังแรงไม่หยุดฉุดไม่ได้ตอนนี้

แน่นอนว่าซาวน์ดแทร็คเพลงนี้ถ้าฟังจากลำโพงทีวีธรรมดาคุณจะไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะเสียงความถี่ต่ำของเพลงมันด้วนหายไปหมด แต่แค่ Polk: Signa Solo มันกลับกันคนละเรื่อง เปิดตัวมาแบบอลังการ Logic ถึงแม้เป็นแร็พเปอร์แต่ผมว่าเขาทำเพลงได้ชัดเจน

สื่อออกมาตรง ๆ ผ่านซาวน์ดชัด ๆ เน้น ๆ ตรงไปตรงมา เพลงจึงเข้าถึงอารมณ์ได้ไม่ยากนัก จะบอกว่า Polk: Signa Solo ทำได้ดีพอสมควร ถึงจะไม่หนักหน่วงมาก แต่ก็สร้างสีสันได้เพิ่มขึ้น

เสียงกว้างเลยลำโพงออกมาแบบเต็มห้องได้ง่าย ๆ ถึงว่าเป็นจุดขายของลำโพงตัวนี้เลย แต่ว่าในความกว้างนั้นก็เติมตรงกลางด้วยเสียงสนทนาที่เราสามารถปรับได้ Polk เรียกฟังก์ชั่นนี้ว่า “VoiceAdjust” ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วครับ ปรับได้ตามใจ

อยากจะให้เสียงมันเดินหน้าเข้าหาจุดที่นั่งฟัง ก็ปรับเพิ่มให้มันดังขึ้น ถ้าต้องการให้ถอยออกไป ก็ปรับให้เบาลง เรื่องเสียงสนทนานี่ชัดเลย กับลำโพงซาวด์บาร์ที่ตอบสนองความถี่ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะลงไปแตะที่ความถี่ต่ำได้ด้วยแล้ว โทนเสียงมันจะต่างกันไปเลย แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเสียงสนทนามากนัก กลับไปให้น้ำหนักของเสียงเอฟเฟ็กประเภทเร้าใจ ๆ มากว่า ก็ไม่แปลกครับ

แต่จะบอกว่าถ้าคุณประหยัดงบ หาลำโพงซาวด์บาร์แบบไม่มีซับฯ​ มาแทน เสียงพูดเสียงสนทนาที่ออกมายังต้องได้เรื่องอยู่ เพราะเอาเข้าจริงเสียงพูดแจ้ว ๆ ในหนัง มันก็เกี่ยวกับซับฯ น้อยอยู่แล้ว

ช่วงตั้งแต่เสียงกระสุนลูกแรกในหนังเรื่องนี้ช่วงนาทีที่ประมาณ 31 Polk: Signa Solo ดูจะค่อย ๆ ทดแทนมูลค่าของเงินที่คุณจ่ายออกไปที่ละนิด เสียงปืนที่มีไดนามิคเริ่มต้นขึ้นมาก่อน ตามด้วยเสียงสุนัขที่บรรเลงเห่าตามมาเหมือนจะบอกว่า

เฮ้ย..เอ็งไม่ได้อยู่ลำพังนะ มีฉันอยู่เป็นเพื่อนด้วย นับได้รอบ ๆ หลายตัวเลย ชัดดีแท้ หลังจากนี้จะเรียกว่านอนสต๊อบก็ว่าได้ฉากแอ็คชั่นว่ากันต่อเนื่อง ไม่ต้องห่วงครับหนังเรื่องนี้เป็นหน้าเป็นตาของ NetFlix เขาไม่ทำให้อายเด็กอยู่แล้ว ผมถือว่าผ่านนะ.. Polk Signa Solo กับการรับมือเสียงที่ต้องเอฟเฟ็กของภาพยนต์ระดับนี้ ช่วงฉากที่ไล่ล่ากันในซุปเปอร์มาเก็ตทีแรกนึกว่าจะออกแนวสับสนกลายเป็นว่า ดีแฮะ ยิงกันสนั่นแต่ความรู้สึกว่าเสียงไม่ได้ออกมาจากลำโพงอย่างเดียว จริง ๆมันก็เอามาจากลำโพงนั่นแหละ แต่มันไปสะท้อนโน่นสะท้อนนี่ ดีเข้าไปอีก

สำหรับคนที่ต้องการเสียงเบสให้ออกมาแบบกระแทกกระทั้นก็ต้องทำใจหน่อย อาจจะกับดีซะอีกสำหรับคนที่มีเวลาดูหนังพวกนี้เฉพาะตอนดึก ๆ กลางคืน เพราะช่วงเวลานั้นคงไม่มีใครอยากให้มีคนมาเคาะประตูตอนที่คุณดูหนังอยู่เป็นแน่ ซับวูฟเฟอร์ที่เป็นตัวการสำคัญที่เดียว แต่ถ้าจะรับประกันว่าปลอดภัยจริง ๆ ก็จะมีฟังชั่น “NightMode” โหมดให้กดเพื่อลด Dynamic ของเสียงลงได้อีก

ลำโพงตัวนี้ผมแนะนำครับ เอาคะแนนไปสัก B ถ้าวัดกันจากเสียงแบบ 5.1 แบบที่เป็นต่อด้วยลำโพงช่วยอีกหลายตัว แต่ถ้านับเรื่องการลงทุน และผลตอบแทนแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาเก็บเกี่ยวนานครับ ไม่ยุ่งยาก ลงทุนปั๊บวางบุ๊บ เก็บกิน (ฟังเสียง) ได้เลย

Conclusion
ผมคงไม่ได้ตื่นเต้นเพราะว่า Signa Solo เป็นซาวด์บาร์ราคาไม่แพงตัวนึง แต่ผมตื่นเต้นเพราะว่า Polk เล็งเข้าเป้าว่าซาวด์บาร์ตัวนี้ต้องถูกใจคนทุกคนที่ซื้อทีวี ทำให้ทุกคนเห็นว่าการลงทุนเรื่อง “เสียง” เริ่มสำคัญ มันตอบสนองให้กับคนที่ชอบดูหนังได้ ถึงแม้ว่ามีคนบอกว่าถ้าซาวด์บาร์ที่ไม่มีซับวูฟเฟอร์ด้วยมันจะขาด ๆ อะไรไปบางอย่าง

แต่มาปีนี้จะสังเกตดูว่าในซาวด์บาร์แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อที่ออกมาใหม่ จะมีอย่างน้อยหนึ่งรุ่นที่ไม่มีซับวูฟเฟอร์มาด้วย คือถ้าคุณคิดว่าซับวูฟเฟอร์มันจำเป็นก็ข้ามขึ้นไปเล่นรุ่นที่สูงกว่า ตรรกะมันก็เป็นแบบนี้

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงก็คือ หลายคนโดนฝังในสมองแล้วว่า “ซาวด์บาร์ต้องมีซับฯ” กลายเป็นว่าเห็นซาวด์บาร์ที่ขายพร้อมซับฯ ราคาถูก ๆ แล้วสรุปว่า “มันควรจะดีกว่า” อันนี้ก็คงต้องอธิบายเป็นคำพูดง่าย ๆ ว่า มันไม่เสมอไปครับ สิ่งที่ดีของ Polk: Signa Solo ก็คือ แทนที่จะให้สมองมันคิดว่า ถ้าต้องยอมอัพเกรดเสียงของทีวีแบบจ่ายแค่ไม่เกินแปดพัน คุณควรจะได้ต้องได้อะไรบ้าง?

เสียงที่ดีขึ้น ฟังเพลงเพราะขึ้น ดูหนังมันขึ้น ห้องหับดูสวยมีคุณประโยชน์ขึ้นแบบพอเพียง Polk: Signa Solo จัดให้ได้ในราคานี้ ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมที่เริ่มต้องเห็นความดีงาม และความสำคัญของเสียงจากทีวีได้แล้ว จะช้าอยู่ใยละครับ../

จุดเด่น
+ เป็นซาวด์บาร์ราคาย่อมเยากับแบรนด์ลำโพงที่คุ้นหู
+ มีภาคถอดรหัส Dolby Digital Audio มาให้ด้วยในตัว
+ ปรับแต่งเสียงได้เองจากรีโมท

ข้อสังเกต
– จะเริ่มรู้สึกได้ว่าเสียงเริ่มสับสน เมื่อเปิดดังเกินไป


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด
โทร. 0-2904-2120
ราคา 7,900 บาท

ธนภณ พูลเจริญ

Content Contributor ที่ปรารถนาจะถ่ายทอดประสบการณ์ในแวดวงโฮมเธียเตอร์ ทีวี และระบบเสียงมัลติรูมในแง่ของความคุ้มค่าของการใช้งาน เปิดมุมมองสู่ความต้องการที่ชัดเจนให้กับผู้บริโภคที่ชื่นชอบเทคโนโลยี