How to โมดิฟายโทนอาร์มเรก้า…อัปแอนด์ดาวน์ตามใจกับ VTAF
ผมไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นเรื่องนี้อย่างไรดี ทราบแต่เพียงว่าเรื่องราวที่ผมจะบอกเล่าต่อไปนี้สาวกเทิร์นเทเบิ้ลยี่ห้อ Rega ทราบแล้วจะต้องเกิดอาการ “คัน” หรืออย่างน้อยก็ครั่นเนื้อครั่นตัวอยากยกเครื่องเล่นแผ่นเสียงของตัวเองไปขึ้นเขียงบ้าง ผมมั่นใจเช่นนั้นเพราะว่านี่คือหนึ่งในแนวทางปลดแอกข้อจำกัดจุดใหญ่ที่ปรากฏในเครื่องเล่นแผ่นเสียงชื่อดังจากเกาะอังกฤษยี่ห้อนี้
เท้าความถึงที่มาที่ไปเกี่ยวกับตัวเอกของเราสักนิด เทิร์นเทเบิ้ลเรก้าของนาย Roy Gandy นั้นมีต้นกำเนิดมาจากความเรียบง่าย เน้นให้ใช้งานแบบไม่ต้องหยุมหยิม ให้อรรถรสดนตรีได้เป็นที่น่าพึงพอใจ รุ่นที่โด่งดังมาก ๆ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันก็เช่นรุ่น Planar 2 และ Planar 3 ซึ่งภายหลังได้มีการปรับปรุงกันต่อ ๆ มาหลายเจเนอเรชั่น มีการปรับปรุงเปลี่ยนทั้งตัวงานดีไซน์และวัสดุที่ใช้เป็นส่วนประกอบต่าง ๆ ของเครื่อง
แต่สิ่งหนึ่งที่ Roy Gandy ไม่เคยเปลี่ยนคือ “จุดยืน” และ “แนวทาง” ในการออกแบบ อาทิเช่นใช้ระบบหมุนแผ่นแบบขับด้วยสายพาน (belt drive) แท่นเครื่องที่ใช้ระบบรองรับ (suspensioin) แบบง่าย ๆ เป็นขายางรูปถ้วยยืดหยุ่นได้พอประมาณ ตลอดจนโทนอาร์มตระกูล RB ทั้งหลายที่ทำโลหะอัลลอยหล่อขึ้นเป็นชิ้นเดียวไม่มีรอยต่อให้คุณภาพไร้เทียมทานเป็นที่เชื่อถือของผู้ผลิตเทิร์นเทเบิ้ลจำนวนไม่น้อย (เรก้าผลิตให้ในลักษณะ OEM)
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจะแกล้งทำลืมเสียมิได้และเกี่ยวข้องกับที่มาของบทความนี้โดยตรงนั่นก็คือ เทิร์นเทเบิ้ลทุกรุ่นของเรก้าไม่สามารถปรับ VTA (Vertical Tracking Angle) หรือการปรับมุมองศาในแนวดิ่งของโทนอาร์มเพื่อให้มีผลกับการทำมุมของปลายหัวเข็มที่วิ่งอยู่ในร่องแผ่นเสียง
เนื่องจากตัวโทนอาร์มถูกออกแบบให้ยึดกับแท่นเครื่องแบบตายตัวด้วยแหวนหกเหลี่ยมที่ขันแน่นกับเกลียวของขาโทนอาร์มสอดลงไปใต้แท่นเครื่อง ทำให้ดีไซน์ของเรก้าไม่สามารถปรับระดับความสูงของจุดยึดโทนอาร์มได้อย่างเทิร์นเทเบิ้ลทั่วไป การปรับมุม VTA ในเทิร์นเทเบิ้ลของเรก้าจึงเจอทางตันมาตั้งแต่ต้น
ถามว่าการปรับมุม VTA ไม่ได้มีผลอะไรมั๊ย ? Roy Gandy บอกว่าถ้าคุณใช้หัวเข็มของเรก้าเอง คุณไม่จำเป็นต้องยุ่งกับมุม VTA เพราะความสูงของโทนอาร์มมันจะแมทช์กับความสูงของหัวเข็มได้อย่างพอดิบพอดี คุณจะได้ระดับอาร์มทูบที่วางตัวลอยขนานแผ่นเสียงแบบไม่ต้องคิดมาก อีกทั้งการออกแบบให้โทนอาร์มยึดตายกับแท่นเครื่องเช่นนี้ยังมีผลดีในเชิงแมคคานิกเพราะสามารถยึดได้แน่นหนา
แล้วถ้าไม่ได้ใช้หัวเข็มของเรก้าล่ะ ? Roy Gandy บอกว่าถ้าคุณใช้หัวเข็มยี่ห้ออื่นที่มีความสูงไม่เท่าหัวเข็มของเรก้า มุม VTA อาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่มีปัญหากับการฟังเพลงมากนักหรอก…
อ้าว ตารอย! พูดอย่างนี้ก็หมายความว่าให้ทำใจรับ ๆ ข้อเสียไปบ้างอย่างนั้นรึ ก็หัวเข็มของเรก้าน่ะมันออกจะเตี้ยเมื่อเทียบกับหัวเข็มยี่ห้อยอดนิยมทั่วไปเช่น Benz Micro, Grado หรือ Sumiko ถ้าเซ็ตอัปแล้วไม่ปรับ VTA เลยโทนอาร์มมันจะเกิดอาการ “หน้าเชิด” นอกจากทำให้ดูไม่งามไม่เก๋าแล้วยังคาใจในเรื่อง “คุณภาพเสียง” อีกต่างหาก !
<Note: โดยทั่วไปการปรับให้มุม VTA เป็นบวกมากขึ้น (ยกท้ายอาร์มขึ้นปลายอาร์มที่ติดหัวเข็มงุ้มลง) เสียงจะมีสมดุลโอนเอนไปทางด้านกลางแหลมและแหลมมากขึ้น เนื้อเสียงโปร่งใสขึ้น แปรผกผันกับเบสที่กระชับและเบาบางไปตามสัดส่วน ในทางกลับกัน ถ้าปรับให้มุม VTA เป็นบวกลบขึ้น (กดท้ายอาร์มลงปลายอาร์มที่ติดหัวเข็มเชิดขึ้น) เสียงจะมีสมดุลโอนเอนไปทางด้านทุ้ม ความโปร่งใสในเนื้อเสียงและปริมาณเสียงกลางแหลมและแหลมจะลดลงไปตามสัดส่วน>
เมื่อเป็นเช่นนั้นหลายคนจึงพยายามปลุกปั้นให้เทิร์นฯของเรก้าสามารถปรับระดับ VTA ได้เพื่อให้มันมีความคล่องตัวในการเล่นกับหัวเข็มได้หลากหลายขึ้น เริ่มจากวิธีง่าย ๆ ด้วยการเสริมแผ่นชิมหรือแหวนบาง ๆ ซ้อนเข้าไปที่ใต้ฐานโทนอาร์มเพื่อหนุนให้มันสูงขึ้นจนได้ระดับ ดูง่าย ๆ จากอาร์มทูบหรือก้านอาร์มวางตัวขนานกับแผ่นเสียง
ทว่าการปรับ VTA ด้วยการรองด้วยแผ่นชิมก็ยังไม่ใช่ทางออกที่สดใสนักเพราะต้องรื้อโทนอาร์มออกมาเพื่อใส่หรือถอดแผ่นชิมเข้า ๆ ออก ๆ จะปรับแบบละเอียดก็ไม่ได้เพราะแผ่นชิมแต่ละแผ่นนั้นมีความหนาตายตัว ยิ่งเป็นเรื่องการ fine-tune มุม VTA ตามความหนาของแผ่นเสียงอย่างที่เซียนไวนิลเก๋า ๆ ชอบเล่นกันนั้นก็เลิกคิดได้เลย
นอกจากวิธีรองด้วยแผ่นชิม ยังมีอีกหลายวิธีที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อเอาชนะข้อจำกัดในเรื่องการปรับมุม VTA ในเทิร์นฯของเรก้า หนึ่งในจำนวนนั้นคือการใส่ปลอกเกลียวที่ทำจากโลหะบาง ๆ ลงไปในรูที่เจาะสำหรับใส่โทนอาร์ม ด้วยความบางของปลอกนี้ประกอบกับรูเดิมซึ่งเจาะไว้แบบหลวม ๆ นิดหน่อย แค่ตอกเบา ๆ ปลอกที่ว่านี่ก็เข้าไปอัดแน่นอยู่ในรูได้อย่างไม่ยากเย็น
ในบางแท่นเครื่องถ้ามันฟิตมากก็อาจจะต้องถูรูเดิมด้วยกระดาษทรายเล็กน้อยเพื่อขยายความกว้างของรู แต่ต้องไม่ทำให้ใส่ลงไปแล้วหลวมมาก
ผนังด้านในของปลอกโลหะที่ว่านี้จะเป็นเกลียวที่ทำขึ้นเพื่อรับกับเกลียวของโทนอาร์มเรก้าพอดิบพอดี เมื่อใส่โทนอาร์มลงไปในปลอกโลหะที่ว่านี้ (หมุนตามเกลียว) แล้วให้ล็อคตัวโทนอาร์มด้วยแหวนหกเหลี่ยมตัวเดิมที่ใต้แท่นเครื่องก็เป็นอันเสร็จพิธี จะยกโทนอาร์มสูงขึ้นก็แค่คลายแหวนหกเหลี่ยมใต้แท่นเครื่องแล้วหมุนโทนอาร์มทวนเข็มนาฬิกา ถ้าจะลดระดับก็แค่ทำตรงกันข้ามคือหมุนตามเข็มนาฬิกา พอได้ระดับหรือมุม VTA ที่ต้องการก็ล็อคแหวนหกเลี่ยมที่ใต้แท่นเครื่องให้เรียบร้อย
เมื่อเทียบกับวิธีการรองด้วยแผ่นชิม วิธีนี้มีข้อดีเหนือกว่าในแง่ของการปรับสูง-ต่ำได้ละเอียดกว่า (ตามระดับของเกลียว) แต่ก็ยังไม่สะดวกที่จะปรับบ่อย ๆ อยู่ดี เรื่อง fine-tune VTA ระหว่างเล่นก็หมดสิทธิเช่นกัน แต่ทั้งสองวิธีมีข้อดีที่ไม่ต้องไปทำอะไรกับตัวแท่นเครื่องเดิม ๆ เรียกว่าตัวเทิร์นฯ แทบไม่ช้ำเลย ผู้ใช้สามารถทำเองได้เพราะมันง่ายและไม่ต้องอาศัยเครื่องมือพิเศษ อีกทั้งอยากจะรื้อให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมเหมือนตอนออกจากโรงงานเมื่อไรก็ทำได้
การขุนให้เทิร์นฯของเรก้าสามารถเล่นกับ VTA ได้ ยังมีอีกหนึ่งวิธีนั่นคือการใส่ปลอก 2 ชั้น ปลอกชั้นในทำหน้าที่ยึดกับโทนอาร์ม ก่อนจะสวมลงในแกนกลางของปลอกชั้นนอกซึ่งยึดติดอยู่กับแท่นเครื่อง ปลอกทั้ง 2 ส่วนนี้จะเป็นอิสระจากกันสามารถเลื่อนขึ้น-ลงได้เมื่อได้ระดับที่ต้องการก็ขันสกรูล็อคให้ปลอกทั้ง 2 ชั้นไม่เคลื่อนจากกัน
วิธีนี้เป็นแนวทางเดียวกับเทิร์นเทเบิ้ลยี่ห้ออื่น ๆ ที่ใช้โทนอาร์มของเรก้า และมีโครงสร้างคล้ายคลึงกับกลไกการปรับ VTA ของเทิร์นเทเบิ้ล+โทนอาร์มทั่วไป ถ้าผมจำไม่ผิด VPI จะเป็นต้นคิดในการทำออกมาให้สาวกเรก้าได้ซื้อไปโมดิฟายกัน ต่อมาจึงมีหลายเจ้าก้อปปี้ออกมาขายบ้างเพราะไม่ได้ทำยากเย็นอะไรแค่โลหะกลึงเป็นปลอกเท่านั้นเอง ของไทยประดิษฐ์กันเองก็มีครับ วัสดุที่นำมากลึงเป็นปลอกก็มีตั้งแต่ทองเหลืองและอะลูมิเนียม
วิธีนี้มีข้อดีที่สามารถปรับมุม VTA ได้ละเอียดและสะดวกไม่ต่างจากกลไกการปรับ VTA ในเทิร์นเทเบิ้ลทั่วไป แต่ก็ยังไม่สามารถปรับในระหว่างการ playback หรือในขณะที่กำลังลากหัวเข็มวิ่งไปตามร่องเสียง ข้อเสียที่ชัดเจนที่สุดคือ มันต้อง “ทะลวง” รูของโทนอาร์มมาตรฐานเดิม ๆ ให้กว้างขึ้นเพื่อให้สามารถติดตั้งปลอกชั้นนอกซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางค่อนข้างใหญ่ลงไปได้
ซึ่งการทะลวงขยายรูเพื่อการดังกล่าวนั้นแม้จะไม่ใช่เรื่องสาหัสแต่บรรดาเซียนตัวจริงท่านก็ว่าไม่ใช่เรื่องหมู ๆ เช่นกัน เพราะจำเป็นจะต้องรักษาตำแหน่งจุดศูนย์กลางของรูเดิมเอาไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นตำแหน่งติดตั้งโทนอาร์มก็จะผิดเพี้ยนไป ทีนี้ถ้าผิดแล้วมันถอยกลับยากซะด้วยสิ มันกด undo เหมือนคอมพิวเตอร์ไม่ได้ ผิดแล้วผิดเลย เป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต ใครเจอเข้าไปก็ฮาไม่ออกครับพี่น้อง !
มีวิธีไหนที่น่าสนใจกว่านี้อีกมั๊ย ?
เปลี่ยนเทิร์นฯ ใหม่สิ … โอว ผมไม่กล้าแนะนำอย่างนั้นหรอกครับ แม้ว่ามันจะเป็นวิธีที่ไม่เลวก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าบรรดาสาวกเรก้าคงยังไม่อยากได้ยินแน่ ๆ มันดูง่ายไปและเหมือนไม่ได้ใช้ความพยายามเอาเสียเลย
กลับมาเข้าเรื่องครับ ล่าสุดผมทราบข่าวจากทางบก.ธานีว่ามีพวกอยู่ไม่สุขทำชุดแต่งออกมาเอาชนะข้อจำกัดเรื่อง VTA ของเรก้าอีกแล้ว แถมคราวนี้มาแบบไม่เหมือนใครคือใส่ชุดแต่งของเขาเข้าไปแล้วเทิร์นเทเบิ้ลเรก้าของคุณยังสามารถปรับ VTA แบบ on fly หรือในขณะที่เล่นแผ่นอยู่ได้อีกด้วย แบบที่โทนอาร์มรุ่นเจ๋ง ๆ ของ SME ทำได้เลย… Wow Wow Wow !
ชุดแต่งที่ว่าคือ Vertical Tracking Angle on the Fly หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “VTAF” จากสำนัก Pete Riggle Audio ในสหรัฐอเมริกา ทาง PRA (Pete Riggle Audio) อ้างว่า VTAF สามารถใช้งานได้กับโทนอาร์ม Rega ตั้งแต่รุ่น RB250, RB300 และ RB600 รวมถึงโทนอาร์มของ Rega รุ่นที่โมดิฟายโดยสำนัก Express Machining, Origin Live, Michell, Incognito และ Brit Audio หรือโทนอาร์มใด ๆ ที่มีจุดยึดลักษณะเดียวกันกับโทนอาร์มของเรก้า ส่วนเวอร์ชั่นสำหรับโทนอาร์มของ Nottingham ซึ่งมีพื้นฐานมาจากโทนอาร์มของเรก้าเช่นกันกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา
ราคาของชุดแต่ง VTAF ตั้งเอาไว้ที่ $149.99 หรือราว ๆ ห้าพันกว่าบาท (คิดที่ 35 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์) คุณสมบัติของมันเท่าที่ผู้ผลิตเขาโม้มาก็มีตั้งแต่
– ช่วยให้ได้เสียงดีขึ้นจากการปรับ VTA ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียด ไดนามิก … บลา บลา บลา
– เปิดโอกาสให้คุณสามารถยกโทนอาร์มเรก้าได้สูงที่สุดเท่าที่ความยาวเดือยของโทนอาร์มจะอำนวย
– สามารถปรับ VTA ได้สะดวกและง่ายดายในระหว่างการเล่นแผ่น และสามารถปรับได้แบบต่อเนื่องซะด้วย
– สามารถปรับ VTA ได้ละเอียดจากเกลียวของวงแหวนหมุนซึ่งละเอียดถึงระดับ 0.635 มิลลิเมตร
– หลังจากการติดตั้งคุณสามารถยกโทนอาร์มออกจากแท่นเครื่อง หรือใส่มันกลับเข้าไปในแท่นเครื่องได้อย่างง่ายดาย ทำให้การเคลื่อนย้ายตัวเครื่อง การดูแลทำความสะอาดหัวเข็มหรือแม้แต่การเปลี่ยนหัวเข็มทำได้โดยสะดวกสุด (หมายความว่ามันไม่ได้ยึดตาย แค่วางลงไปในแท่นเฉย ๆ อย่างนั้นหรือ ???)
– สุดท้าย ไอ้ที่ข้าพเจ้า (PRA) โม้มาทั้งหมดข้างบนน่ะ ยังไม่เห็นจะมีชุดแต่งตัวปรับ VTA หน้าไหนในโลกาสามารถทำได้ !
ไม่ค่อยจะโม้เลยนะเนี่ย…
ชุดแต่ง VTAF ประกอบไปด้วย ปลอกโลหะทรงกระบอกบาง ๆ ที่มีเกลียวทั้งด้านในและด้านนอกสำหรับใช้สวมเข้ากับเดือยของโทนอาร์มเรก้า (adjuster screw) วงแหวนปรับระดับ (adjuster wheel) แหวนล็อค adjuster screw กับโทนอาร์ม (capture nut) ปลอกโลหะขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกระดับสำหรับติดตั้งที่แท่นเครื่อง (armboard bushing) และตัวบังคับไม่ให้โทนอาร์มส่ายซ้าย-ขวา (vertical guide)
วิธีติดตั้งแบบคร่าว ๆ คือ สวมปลอก adjuster screw ให้พอดีกับเดือยของโทนอาร์มก่อนจะล็อคปลายเดือยด้วย capture nut จากนั้นก็หมุน adjuster wheel เข้าไปในส่วน adjuster screw จากนั้นนำโทนอาร์มที่ติดตั้ง adjuster screw, capture nut และ adjuster wheel เรียบร้อยแล้วไปหย่อนลงไปในรูของ armboard bushing ซึ่งติดตั้งกับแท่นเครื่องไว้แล้ว …ใช่แล้วครับหย่อนลงไปเฉย ๆ เข้าใจว่าน่าจะพอดีแบบตึง ๆ หน่อย
ตัวโทนอาร์มยังสามารถยกขึ้น-ลงได้สะดวก โดยมี vertical guide ติดตั้งอยู่ข้างใต้ของกลไกปรับแอนตี้สเกตของโทนอาร์มพอดิบพอดี ถ้านึกภาพตามไม่ออกก็ดูรูปเอานะครับ (อ้าว…แล้วจะให้นึกตามทำไมล่ะครับพี่น้อง แหะ แหะ)
ทีนี้พอจะใช้งานก็ยกอาร์ม วางหัวเข็ม เล่นไปตามปกติ เวลาต้องการปรับ VTA ก็แค่หมุน adjuster wheel ตัวเดือยของโทนอาร์มซึ่งสวม adjuster screw แล้วก็จะสไลด์ขึ้น-ลงอยู่ภายใน armboard bushing สัมพันธ์กับการหมุน adjuster wheel ที่ทำจากวัสดุทองเหลือง (หมุนตามนาฬิกาเข็มยกโทนอาร์มสูงขึ้น หมุนทวนเข็มนาฬิกาลดระดับโทนอาร์มให้ต่ำลง) เส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอก 2 ¼ นิ้ว (56 มิลลิเมตร) หนา 1/10 นิ้ว (2.5 มิลลิเมตร) ขอบด้านนอกบากเป็นร่อง ๆ ให้หมุนด้วยถนัดด้วยปลายนิ้ว ขอบด้านในเป็นเกลียวละเอียดรับกันกับเกลียวของ adjuster screw
ละเอียดแค่ไหนถ้านึกไม่ออกจะบอกให้ครับ… ทุก ๆ 1 รอบการหมุน adjuster wheel ความสูงของโทนอาร์มจะเปลี่ยนไปเพียงแค่ 0.025 นิ้วหรือ 0.625 มิลลิเมตรเท่านั้น (ไม่ถึงมิลลิเมตร !) แล้วถ้าหมุนไม่ครบรอบก็จะปรับได้น้อยกว่านั้น เรียกว่าปรับได้ทีละนิด ๆ เลยว่าอย่างนั้นเถอะ … ว้าว เยี่ยมเลย
ชิ้นส่วน armboard bushing นั้นทำจากวัสดุประเภทบรอนซ์ รูตรงกลางออกแบบให้เดือยของโทนอาร์มเรก้า (สวม adjuster screw แล้ว) สอดลงไปได้พอดีโดยมีระยะ clearance เพียงแค่เศษส่วนพันของ 1 นิ้วเรียกว่าเกือบจะฟิตพอดี ๆ และสามารถเลื่อนขึ้น-ลงในแนวดิ่งได้อย่างอิสระ (ค้ำไว้ด้วย adjuster wheel) ไม่มีการล็อคโทนอาร์มกับแท่นเครื่องหรืออาร์มบอร์ดแบบตายตัว (tone arm pedestal is not fastened down to the arm board) การออกแบบในลักษณะเช่นนี้ทางผู้ผลิตคือ PRA คุยว่ายังส่งผลดีต่อคุณภาพเสียงอีกต่างหาก
และเพื่อให้ผู้ซื้อมั่นใจ หรืออีกนัยหนึ่งคือเพื่อให้ PRA ขายของได้เยอะขึ้น (อิอิ) ก็มีการการันตีสำทับเอาไว้ด้วยว่า VTAF สามารถใช้กับเทิร์นเทเบิ้ลได้ทั้งแบบที่ระบบรองรับไม่ค่อยให้ตัว (firmly suspension) อาทิ Garrard 301, Thorens TD124, Teres, Rega Planar, Clearaudio Evolution และ Bix (ยี่ห้อนี้เห็นแว้บ ๆ ว่าดังในยุโรป) และเทิร์นเทเบิ้ลแบบที่ระบบรองรับให้ตัวได้ (spring suspension) อาทิ Linn หรือ Thorens TD125, 150, 160
นั่นหมายถึงว่าเทิร์นเทเบิ้ลเหล่านั้นใช้โทนอาร์มของเรก้า แล้วอยากจะปรับ VTA ในระหว่างการเล่นนะครับ แต่ผมเชื่อว่าแฟนพันธุ์แท้ที่ใช้โทนอาร์มและเทิร์นเทเบิ้ลของเรก้าทั้งคู่ซึ่งเดิม ๆ นั้นไม่สามารถปรับตั้ง VTA ได้เลยน่าจะสนใจเจ้า VTAF ตัวนี้มากกว่า
และด้วยการออกแบบที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถยกโทนอาร์มออกจากตัวเทิร์นเทเบิ้ลได้ง่าย หลังจากที่ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว เผื่อว่าใครมีเทิร์นเทเบิ้ลหลายตัว แล้วอยากสลับโทนอาร์มเรก้าไปใช้กับเทิร์นเทเบิ้ลมากกว่า 1 ตัว ก็สามารถสั่งซื้อเฉพาะตัว armboard bushing และ vertical guide ไปใช้ก็ได้เขาคิดราคาชุดละ $49 ร่วมค่าขนส่ง
สำหรับการติดตั้ง adjuster screw, adjuster wheel และ capture nut คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรยุ่งยาก จะมีที่ต้องอาศัยเครื่องมือพิเศษและความระมัดระวังนิดหน่อยก็แค่การติดตั้ง armboard bushing และ vertical guide ถ้าหากอ่านจากคู่มือที่เขาแนบมาแล้วยังไม่เข้าใจก็เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.vtaf.com/vtaf_install.html
ในกรณีที่ใช้ VTAF ปรับระดับความสูงต่ำสุดแล้วโทนอาร์มยังสูงเกินไปหรือหัวเข็มที่ใช้มีบอดี้เตี้ยมาก ๆ ทางผู้ผลิตเขาก็แนะนำให้ใช้แหวนโลหะบาง ๆ (มีหลายความหนา) ที่ให้มาด้วยในชุดรองคั่นระหว่างหัวเข็มและเฮดเชลเพื่อเพิ่มระดับความสูงของหัวเข็มเพื่อชดเชยกันตามความเหมาะสม
สำหรับการใช้งานเบื้องต้นทางผู้ผลิตเขาแนะนำว่าให้เริ่มจากระดับที่หัวเข็มขนานกับแผ่นเสียง ตัว VTAF เองสามารถปรับระดับได้ในช่วงประมาณครึ่งนิ้ว ทุกรอบการหมุนของ adjuster wheel สามารถเปลี่ยนแปลงระดับความสูงได้ 0.025 นิ้ว ผู้ใช้สามารถมาร์คจุดที่ขอบ adjuster wheel เพื่อช่วยให้นับรอบได้สะดวกขึ้น ทำให้ทราบและจดจำความสูงที่เปลี่ยนไปได้
แต่ทว่าทางผู้ผลิตเขาแนะนำวิธีที่ง่ายกว่านั้นนั่นคือการใช้ไพ่พลาสติกรองคั่นระหว่าง adjuster wheel และฐานของโทนอาร์ม แล้วใช้วิธีการนับจำนวนไพ่ว่าแผ่นเสียงความหนาเท่านี้ เสียงดีที่ระดับไพ่จำนวนกี่ใบ จะได้ไม่ต้องมานั่งเล็งกันจนตาเหล่ทุกครั้งที่เปลี่ยนแผ่นที่มีความหนาแตกต่างกัน
ทางผู้ผลิต VTAF ยังเพิ่มความมั่นใจด้วยนโยบายรับคืนสินค้าภายใน 90 วัน ในกรณีที่ใช้แล้วไม่พอใจในคุณภาพ และผู้ซื้อจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนยกเว้นค่าขนส่ง
สาวกเรก้าท่านใดไปถอยมาแล้ว ลองใช้งานแล้วได้ผลอย่างไรอย่าลืมกระซิบบอกทีมงานของเรานะครับ ผมเองก็อยากทราบเหมือนกันว่ามันดีจริงอย่างที่เขาโม้หรือเปล่า แต่บังเอิญว่าตอนนี้ผมไม่ได้ใช้เทิร์นเทเบิ้ลหรือโทนอาร์มของเรก้าแล้วครับก็เลยหาโอกาสลองด้วยตัวเองยากหน่อย ต้องวานให้เป็นธุระของบรรดาแฟนพันธุ์แท้เรก้าแล้วล่ะครับ…