Western Digital (WD) ประกาศปิดโรงงานผลิตฮาร์ดดิสก์ในมาเลเซีย
สืบเนื่องจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของอุปกรณ์เก็บข้อมูลอย่าง SSD (Solid State Drive) และ NAND flash memory หรืออาจนับรวมไปถึงการใช้บริการ Cloud Storage ทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ประเภทฮาร์ดดิสก์ชื่อดังอย่าง เวสเทิร์น ดิจิทัล ถึงคราวต้องตัดสินใจปิดโรงงานผลิต HDD (hard disk drive) ที่เปตาลิงจายา ประเทศมาเลเซีย ในช่วงปลายปี 2019 เสียแล้ว อ้างอิงตามรายงานของสำนักข่าว The Register จากประเทศอังกฤษ
เวสเทิร์น ดิจิทัล ลงทุนตั้งโรงงานแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1973 บนพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางฟุตของโรงงานแห่งนี้เป็นพื้นที่สำหรับผลิตอุปกรณ์ประเภทเซมิคอนดักเตอร์ ต่อมาจึงได้เปลี่ยนไปผลิตฮาร์ดไดร์ฟสำหรับขายให้ลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กร ต่อมาได้มีการขยายส่วนของ R&D เพิ่มขึ้นด้วยเงินลงทุนถึงหนึ่งพันสองร้อยล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดีในช่วงสองสามปีที่ผ่านยอดขายของบริษัทกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
2 ปีก่อนหน้านี้ HGST Technologies Malaysia บริษัทในเครือของเวสเทิร์น ดิจิทัล ได้ประกาศปิดตัวโรงงานที่ บายัน เลปาส (มาเลเซีย) ไปแล้ว เมื่อถึงคราวที่โรงงานในเปตาลิงจายา ต้องปิดตัวลง ทางเวสเทิร์น ดิจิทัลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการถ่ายโอนงานที่เหลือไปยังโรงงานอื่น ๆ ที่ยังเปิดอยู่ โดยเฉพาะโรงงานที่ประเทศไทยอย่างเช่น โรงงานขนาดใหญ่ที่สุด (1.7 ล้านตารางฟุต) ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอีกโรงงานขนาดเจ็ดแสนสามหมื่นตารางฟุตในจังหวัดปราจีนบุรี
ปัจจุบันเวสเทิร์น ดิจิทัล ยังมีโรงงานเหลืออยู่ที่มาเลเซีย เป็นโรงงานผลิตซับสเตรทของฮาร์ดไดร์ฟอยู่ที่ยะโฮร์และกูชิง มีโรงงานประกอบและวิจัย SSD อยู่ที่ปีนัง และกำลังมีแผนจะเปิดโรงงานผลิต SSD แห่งใหม่ที่ปีนังด้วย ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากการทำกิจการร่วมค้ากับ Toshiba ในปี 2017 ที่ผ่านมา นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเจ้าพ่อวงการฮาร์ดไดร์ฟรายนี้กำลังค่อย ๆ ผันตัวไปสู่อุตสาหกรรมผลิตโซลิดสเตทไดร์ฟเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เริ่มจะต้องการอุปกรณ์ประเภทฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ
