Sony ถอยทัพสมาร์ทโฟนอีกครั้งหลังปรับลดกำลังผลิตลงเท่าตัว
ข้อมูลจาก Nikkei เผยโซนี่ลดจำนวนพนักงานในส่วนของการผลิตสมาร์ทโฟนลงครึ่งหนึ่ง เนื่องจากยอดขายลดลงอันสืบเนื่องมาจากการเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่รุนแรงทั่วโลก
การลดตำแหน่งงานเกิดขึ้นเนื่องจากอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนทั่วโลกประสบกับภาวะถดถอยที่รุนแรงที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลจาก IDC บริษัท วิจัยในสหรัฐฯ คาดการณ์ไว้ว่าในปีนี้ปริมาณการกระจายสินค้าไปทั่วโลกจะลดลงถึง 1.3 พันล้านหน่วย ซึ่งถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
ส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ทโฟน ของ Sony ลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา – โดยข้อมูลจากเว็บสำรวจข้อมูลการวิจัยอย่าง Statistica ได้แจ้งผลส่วนแบ่งทางการตลาดของทางโซนี่เมื่อปี 2010 มีสัดส่วนมากกว่า 3% แต่ในปัจจุบันส่วนแบ่งทางการตลาดน้อยกว่า 1% อันเป็นผลมาจากการชิงชัยกับผู้นำทางการตลาดสมาร์ทโฟน อย่าง Apple, Samsung Electronics และ Huawei Technologies ซึ่งกำลังแข่งกันพัฒนาอุปกรณ์ 5G รุ่นใหม่อยู่ในขณะนี้
การตัดสินใจปรับลดจำนวนพนักงานในส่วนของสมาร์ทโฟน มีจำนวนมากถึง 2,000 ตำแหน่ง จากตำแหน่งงานทั้งหมด 4,000 ตำแหน่งภายในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2020 อันเป็นส่วนหนึ่งของการปรับตัวเพื่อลดต้นทุนคงที่ในการดำเนินธุรกิจอีกทั้งยังเป็นการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ
พนักงานชาวญี่ปุ่นบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจในครั้งนี้ จะถูกโอนไปยังแผนกอื่น ๆ แต่สำหรับการดำเนินงานในยุโรปและจีน ทางโซนี่จะเสนอให้มีการเกษียณอายุก่อนโดยสมัครใจ
โซนี่จะจำกัดการขายสมาร์ทโฟนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และพื้นที่อื่นๆ เพื่อเน้นการจัดจำหน่ายไปยังยุโรปและเอเชียตะวันออก
ยอดขายสมาร์ทโฟนของทางโซนี่สำหรับปีงบประมาณที่ผ่านมา (2018) คาดการณ์ไว้ประมาณ 6.5 ล้านเครื่อง ซึ่งลดลงครึ่งหนึ่งจากปีก่อน (2017) และคิดเป็น 1 ใน 6 เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา
ในปีงบประมาณ 2014 โซนี่เริ่มปลดพนักงานถึง 1,000 ตำแหน่ง ออกจากการดำเนินงานในส่วนของสมาร์ทโฟน แต่ยอดขายลดลงเร็วกว่าที่คิด
ธุรกิจสมาร์ทโฟนของ Sony สร้างรายได้ปีละประมาณ 500 ล้านเยน แต่คาดว่าจะขาดทุนจากการดำเนินงานติดต่อกันเป็นปีที่ 3 นับจนถึงปีนี้ การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่ปีก่อนหวังว่าอาจทำให้ธุรกิจกลับฟื้นตัวมีกำไรเพิ่มขึ้นในปี 2020
Sony ได้เคยทำการปรับโครงสร้างการทำธุรกิจมาก่อนนี้ทั้งกับทีมขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ตลอดรวมถึงทำการตัดค่าใช้จ่ายในธุรกิจทีวี ซึ่งในขณะนี้ธุรกิจสมาร์ทโฟนเป็นส่วนที่ไม่ทำกำไรให้กับบริษัท