รีวิว HUAWEI : Band 8 “บางเบากว่าเดิม เพิ่มเติมคืออัจฉริยะมากขึ้น พร้อมประสิทธิภาพที่ล้ำกว่าในราคาเท่าเดิม”
ในฐานะผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มไอทีและเทคโนโลยี HUAWEI คืออีกแบรนด์หนึ่งที่ได้พัฒนาอุปกรณ์สมาร์ทแบนด์มาอย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์สมาร์ทแบนด์คือการย่อส่วนสมาร์ทวอทช์มาให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่มักจะมีน้ำหนักเบาและมีขนาดที่กะทัดรัด
หลังจากที่ได้ส่ง Band 6 และ Band 7 ออกมาในปีก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุด HUAWEI ได้เปิดตัว Band 8 (หัวเว่ยแบนด์แปด) สมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับขนาดที่กะทัดรัดมากขึ้นไปอีก ขณะที่คุณสมบัติต่าง ๆ นอกจากจะตามมาอย่างครบถ้วนเหมือนเช่นเคยแล้ว ยังได้มีการเพิ่มเติมในหลายจุดให้น่าใช้มากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ราคาเปิดตัวยังคงเท่าเดิมคือที่ 1,899 บาท
คุณสมบัติและการออกแบบ
HUAWEI Band 8 สมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ยังคงมาพร้อมกับคุณสมบัติแบบอัดแน่นมาในตัว โดดเด่นสะดุดตาด้วยหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 1.47 นิ้ว แสดงผลคมชัดสวยงามด้วยจอ AMOLED ความละเอียด 194×368 พิกเซล
ตัวเรือนมาพร้อมกับดีไซน์แบบ Ultra Thin Design บางลงกว่าเดิมโดยหนาเพียง 8.99mm และน้ำหนักเบาเพียงแค่ 14 กรัม เพื่อให้ผู้ใช้งานสวมใส่ได้กระชับพอดีและสบายมากขึ้นเมื่อต้องส่วมใส่ใช้งานเป็นเวลานาน
HUAWEI Band 8 ยังคงมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านการดูแลสุขภาพแบบจุใจระดับน้อง ๆ สมาร์ทวอทช์ สามารถใช้ดูเวลา ดูการแจ้งเตือนต่าง ๆ ดูสภาพอากาศ และยังสามารถดูข้อมูลการออกกำลังกายหรือการตรวจสอบข้อมูลด้านสุขภาพอย่างแม่นยำมากกว่าเดิม ซึ่งในส่วนนี้ยังสามารถเฝ้าดู (มอนิเตอร์) ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวันด้วยต่างหาก
โดยสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้รองรับโหมดออกกำลังกายต่าง ๆ รวมแล้วกว่า 100 โหมด ในจำนวนนั้นเป็น 4 โหมดใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้ นั่นคือ ฟุตบอล, บาสเกตบอล เทนนิสในร่ม และกีฬา eSports
ด้านความสามารถในการดูแลสุขภาพ HUAWEI Band 8 มาพร้อมกับเทคโนโลยี HUAWEI TruSleep 3.0 ที่สามารถติดตามการนอนหลับได้อย่างแม่นยำมากขึ้นถึง 10% สามารถแยกแยะระหว่างการนอนหลับตามปกติกับการนอนหลับแบบมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย อย่างเช่น การนอนหลับในระหว่างที่กำลังโดยสารบนเครื่องบิน
โดย HUAWEI Band 8 ยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์มาตรความเร่ง, เซ็นเซอร์ไจโรสโคป, เข็มทิศ และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัล สามารถวัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง วัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการออกกำลังกายหรือแม้กระทั่งเวลานอนได้ด้วยเทคโนโลยี HUAWEI TruSeen 5.0 ซึ่งมีความแม่นยำมากขึ้นกว่าในรุ่นก่อนหน้า
และก็เช่นเดียวกับสมาร์ทแบนด์รุ่นอื่น ๆ ของหัวเว่ย HUAWEI Band 8 สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 2 สัปดาห์จากการชาร์จเพียงแค่ครั้งเดียว รองรับการชาร์จเร็วโดยใช้ชาร์จเพียงแค่ 5 นาทีก็สามารถใช้งานได้ถึง 2 วัน และสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ภายใน 45 นาทีเท่านั้น (เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าซึ่งใช้เวลาชาร์จนานถึง 65 นาที)
HUAWEI Band 8 วางจำหน่ายในประเทศไทยราคา 1,899 บาท สามารถกันน้ำได้ในระดับ 5 ATM (ใส่ว่ายน้ำหรืออาบน้ำได้) มาในตัวเลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ Mid-night Black , สีชมพู Sakura Pink, สีเขียว Emerald Green รวมถึงสีส้ม Vibrant Orange (ซึ่งจะพร้อมวางจำหน่ายภายหลังในเร็ว ๆ นี้)
การเชื่อมต่อและการใช้งาน
เช่นเดียวกับการใช้งานสมาร์ทแบนด์หรือสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่น ๆ ของหัวเว่ย การเริ่มใช้งาน HUAWEI Band 8 นั้นเริ่มต้นจากการจับคู่เชื่อมต่อบลูทูธ (Bluetooh 5.0) ตัวอุปกรณ์ให้รู้จักกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชัน HUAWEI Health แล้ว
ซึ่งแอปฯ HUAWEI Health นี้ก็รองรับการใช้งานทั้งบนสมาร์ทโฟน Android, Harmony OS และ iOS โดยรองรับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 หรือใหม่กว่า และ iOS 9.0 หรือใหม่กว่า
HUAWEI Band 8 มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานในกล่องบรรจุภัณฑ์ซึ่งประกอบไปด้วยสายชาร์จสั้น ๆ ที่ด้านหนึ่งเป็นพอร์ต USB-A อีกด้านหนึ่งเป็นขั้วต่อชาร์จแบบที่ยึดด้วยแรงแม่เหล็ก (Magnetic Charging) เหมือนที่อยู่ใน HUAWEI WATCH FIT 2, HUAWEI Band 6 และ HUAWEI Band 7
ความแตกต่างของสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง HUAWEI Band 6 และ HUAWEI Band 7 คือตัวเรือนที่มีขนาดกะทัดรัดกว่าและน้ำหนักเบากว่าลงไปอีก อย่าง HUAWEI Band 6 นั้นมีขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 43 x 25.4 x 10.99 mm น้ำหนัก 18 กรัม ขณะที่ HUAWEI Band 7 มีขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 44.35 x 26 x 9.99 mm น้ำหนัก 16 กรัม
พอมาในรุ่นนี้ HUAWEI Band 8 มีขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 43.45 × 24.54 × 8.99 น้ำหนัก 14 กรัม เท่านั้น นั่นหมายความว่าทีมออกแบบของหัวเว่ยสามารถทำให้สมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่นี้มีความเบาและบางลง แต่ว่ากลับมีคุณสมบัติที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า
มีข้อสังเกตว่าตัวสายนาฬิกาที่เป็นสายซิลิโคนความกว้างประมาณ 16mm สังเกตว่าในรุ่นนี้ตัวสายได้รับการออกแบบให้ถอดเปลี่ยนสายได้ด้วยสลักยึดแบบใหม่ให้ใส่และถอดได้สะดวกมากขึ้น (ลักษณะเดียวกับ HUAWEI Fit 2) นอกจากนั้นในภาพรวมแล้ว HUAWEI Band 8 เป็นสมาร์ทแบนด์ที่อาจดูเฉย ๆ เวลาวางบนโต๊ะ แต่ดูดีเลยทีเดียวเวลาขึ้นไปอยู่บนข้อมือ
จากการทดลองใช้งานเราประทับใจตั้งแต่ในแง่ของคุณภาพจอที่คมชัดสีสันสดใสและใช้พื้นที่บนหน้าจอได้คุ้มค่า หรือความลื่นไหลในการปัดหน้าจอเพื่อเข้า-ออกเมนูต่าง ๆ ตลอดจนการแสดงผลที่สามารถแสดงภาษาไทย เช่น ในหน้าเมนู ในส่วนของข้อความสั้น หรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา
และเมื่อมีสายเรียกเข้าหรือข้อความเข้ามาเราก็สามารถตอบกลบได้อย่างรวดเร็วผ่านข้อความที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ใน Band 8 โดยสามารถตั้งค่าผ่านแอปฯ HUAWEI Health ในสมาร์ทโฟนได้โดยตรง เพียงแค่เข้าปีที่ Device เลือกที่ Band 8 แล้วเลื่อนลงมา เลือก Quick replies ก็สามารถเลือกข้อความสำหรับตอบกลับบน Band 8 ได้แล้ว
ส่วนของ user interface ที่อ่านง่ายและลื่นไหลทำให้ Band 8 แตกต่างจาก fitness tracker ราคาถูกทั่ว ๆ ไป การเข้าถึงเมนูใช้งานหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ก็ทำได้ง่ายโดยการปัดนิ้วบนหน้าปัดทั้งสี่ทิศทาง (ซ้าย, ขวา, ขึ้น, ลง) รวมทั้งการกดปุ่มที่ด้านข้างตัวเรือน ที่พิเศษคือในรุ่นนี้ยังออกแบบให้สามารถดูบันทึกการติดตามการนอนหลับได้บนหน้าจอสมาร์ทแบนด์บนข้อมือได้โดยตรง ไม่ต้องไปเปิดดูข้อมูลในสมาร์ทโฟนอีกที นอกจากนั้นความบางและเบาของ HUAWEI Band 8 ยังทำให้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสวมใส่ในเวลานอนหลับเพื่อที่จะติดตามคุณภาพของการนอนหลับ
นอกจากโหมดการตรวจจับพฤติกรรมในการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำได้ดีตามคาดแล้ว (แม่นยำกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควร) บางฟังก์ชันอย่างเช่น การใช้ HUAWEI Band 8 ควบคุมการเล่นเพลง เล่นคอนเทนต์ทั่วไป หรือใช้เป็นรีโมตชัตเตอร์ควบคุมการถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายวิดีโอ ในรุ่นนี้ยังไม่ได้ถูกจำกัดให้สามารถใช้งานได้เฉพาะกับระบบปฏิบัติการของหัวเว่ยเองแล้ว แต่มันสามารถใช้งานกับอุปกรณ์ iOS อย่างไอโฟนได้อย่างราบรื่นด้วย
ด้านอายุใช้งานแบตเตอรี่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งในอุปกรณ์สมาร์ทแบนด์หรือสมาร์ทวอทช์ของหัวเว่ย ก็ยังคงได้ประสบการณ์นี้จาก HUAWEI Band 8 ด้วยเช่นกัน จากการใช้งานจริงสามารถพูดได้ว่า ‘ชาร์จแล้วใช้ลืม’ อย่างน้อยก็เกินหนึ่งสัปดาห์ขึ้นไปแน่ ๆ ถ้าไม่ได้เปิด Always on Display หรือ AOD นะ
HUAWEI Band 8 เหมาะกับใคร ?
นี่คือสมาร์ทแบนด์เจเนอเรชันล่าสุดของหัวเว่ยที่พร้อมจะตอบโจทย์คนที่เคยผิดหวังกับสมาร์ทแบนด์ราคาถูก ๆ แต่ใช้งานแล้วไม่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างที่คาดหวัง เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มองหาสมาร์ทแบนด์ราคาย่อมเยาที่สามารถตรวจวัดข้อมูลที่สำคัญของร่างกาย แม้กระทั่งในยามนอนหลับ นอกจากนั้นยังมีดีไซน์ที่สวย บางเบา สวมใส่สบาย และใช้งานได้ยาวนาน
HUAWEI Band 8 เตรียมวางจำหน่ายในราคา 1,899 บาท สำหรับผู้ที่สั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2566 ถึง วันที่ 8 มิถุนายน 2566 รับสิทธิซื้อพร้อมส่วนลดราคาพิเศษเหลือเพียง 1,299 บาท โดยสั่งออนไลน์ทาง Lazada ได้ที่ https://bit.ly/43jpigq