รีวิว HUAWEI : Band 6 “สมาร์ทแบนด์สุดเฮลตี้ ใช้ดูแลสุขภาพก็ได้ ออกกำลังกายก็ดี”
HUAWEI Band 6 เป็นอุปกรณ์สมาร์ทแบนด์ (smartband) หรือสายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นล่าสุดจากแบรนด์หัวเว่ย ชูจุดเด่นหน้าจอขนาดใหญ่ แบตอึด และฟีเจอร์แบบจัดเต็มเทียบเท่าสมาร์ทวอทช์ชั้นดี ในราคาเพียง 1,899 บาท
คุณสมบัติและการออกแบบ
HUAWEI Band 6 ออกแบบเป็นอุปกรณ์สายรัดข้อมืออัจฉริยะ มีคุณสมบัติแบบจัดเต็มทั้งในส่วนของการติดตามการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ ภายใต้ตัวเครื่องที่ยังคงมีขนาดเล็กกะทัดรัดและเบาเพียง 18 กรัม (ไม่รวมสายนาฬิกา) ให้สวมใส่ในไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟได้อย่างคล่องตัว
สมาร์ทแบนด์ HUAWEI Band 6 มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบทัชสกรีนที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทแบนด์รุ่นก่อนหน้า ใหญ่ขึ้น 148% เมื่อเทียบกับสมาร์ทแบนด์ทั่วไป เป็นจอ AMOLED FullView display ขนาด 1.47 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 194 x 368 พิกเซล ความหนาแน่นของพิกเซล 282ppi หน้าจอและขอบมุมต่าง ๆ ออกแบบให้มีความโค้งมน พร้อมปุ่มกดมัลติฟังก์ชันที่ด้านข้างตัวเครื่อง
ตัวกรอบนาฬิกาเป็นวัสดุโพลิเมอร์ ขนาด 43 x 25.4 x 10.99mm สำหรับสายรัดข้อมือเป็นวัสดุยางซิลิโคน กว้างประมาณ 16mm ความยาวประมาณ 124mm สำหรับสายแบบยาว ขณะที่สายแบบสั้นยาวประมาณ 82mm ตัวเรือนออกแบบให้สามารถกันน้ำได้ในระดับ 5ATM สามารถลงน้ำได้ลึก 50 เมตร (ใส่ตอนฝนตก ใส่ล้างมือ อาบน้ำ หรือว่ายน้ำได้)
HUAWEI Band 6 มาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่มีความสามารถเกือบจะเทียบเท่าอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทวอทช์ ตั้งแต่การวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยเทคโนโลยี TruSeen 4.0 โดยสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกายได้ด้วย
ขณะเดียวกันยังสามารถวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดหรือค่า SpO2 ได้ทั้งในขณะพักผ่อนหรือระหว่างออกกำลังกาย มีโหมดวัดความเครียด ฝึกการหายใจ ตลอดจนโหมดมอนิเตอร์การนอน
ขณะที่โหมดมอนิเตอร์หรือตรวจจับค่าต่าง ๆ ในระหว่างการออกกำลังกายก็มีมาให้เลือกถึง 96 โหมด เท่ากับสมาร์ทวอทช์จากยี่ห้อเดียวกัน โดยมีโหมดใหม่ ๆ ที่กำลังอยู่ในความนิยมอย่าง สเก็ตบอร์ด และกระโดดเชือก รวมอยู่ด้วย นอกจากนั้นสำหรับสุภาพสตรี HUAWEI Band 6 มาพร้อมฟังก์ชันบันทึกรอบประจำเดือน ซึ่งจะช่วยเตือนในช่วงเวลาที่รอบเดือนมาถึง
ด้วยแบตเตอรี่ขนาดความจุ 180 mAh ใน HUAWEI Band 6 สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 14 วัน นอกจากนั้นยังรองรับระบบชาร์จเร็ว ซึ่งใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาทีสามารถใช้งานได้ถึง 2 วัน และสามารถชาร์จจนเต็มได้ในเวลา 65 นาที (ค่าโดยประมาณ)
รองรับการใช้งานร่วมกับแอปฯ HUAWEI Health ทั้งสมาร์ทโฟน Android และ iOS โดยสนับสนุนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 หรือใหม่กว่า และ iOS 9.0 หรือใหม่กว่า
HUAWEI Band 6 พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยกัน 3 สี คือ สีดำ Graphite Black, สีเขียว Forest Green และสีชมพู Sakura Pink
ลองใช้งาน
HUAWEI Band 6 มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานประกอบไปด้วยสายนาฬิกาแบบถอดเปลี่ยนได้ ตัวสายกับตัวเรือนยึดไว้ด้วยสลักพลาสติกตัวเล็ก ๆ แต่ก็มีความแน่นหนาดีมั่นใจว่าไม่หลุดง่าย ๆ แน่นอน สายชาร์จ USB (USB-A) แบบ Magnetic Charging แปะติดเวลาชาร์จด้วยแม่เหล็ก ซึ่งเป็นดีไซน์ที่เหมือนกับใน HUAWEI Watch Fit
เบื้องต้นสำหรับการสวมใส่ใช้งานถือว่าใส่สบายจริงและน้ำหนักเบามาก ตินิดเดียวตรงที่ตัวเรือนหนาไปนิดทำให้ต้องคลายสายให้หลวมนิดหน่อยเพื่อให้ใส่นาน ๆ ได้สบายมากขึ้น ส่วนเรื่องความกระชับนั้นถือว่าหายห่วง ปุ่มกดด้านข้างนั้นออกแบบให้กดง่ายกว่าปุ่มระบบสัมผัสของ Fitbit Versa 3 ขณะที่ยังคงกันน้ำได้ในระดับ 5ATM เหมือนกัน
ชัดเจนว่าสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้มีหน้าจอที่กว้างจริง ใหญ่จริง ใช้พื้นที่บนหน้าจอได้คุ้มค่า มีความสว่างเพียงพอกับการใช้งานภายนอกอาคาร หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนี้นอกจากทำให้การมองเห็นข้อมูลต่าง ๆ บนหน้าจอชัดเจนและสะดวกมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้การสัมผัสสั่งงานบนหน้าจอทำได้ง่ายขึ้นด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการปัดขึ้น-ลง หรือซ้าย-ขวา ก็ทำได้ง่ายเหมือนกำลังใช้งานสมาร์ทวอทช์ ในส่วนของการแสดงผลและการแจ้งเตือนต่าง ๆ ก็รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ซึ่งใน HUAWEI Band 6 การควบคุมด้วยการปัดขึ้น-ลง หรือซ้าย-ขวาก็มีรูปแบบที่คล้ายคลึงหรือเหมือนกับสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ๆ ของ HUAWEI เลยทีเดียว แถมยังตอบสนองได้ลื่นไหลฉับไวดี ไม่มีหน่วงช้าจนน่ารำคาญ เรียกว่าอารมณ์เดียวกับการใช้งานรุ่น Watch Fit เลยทีเดียว
เช่น การปัดขึ้นเพื่อดูการแจ้งเตือน การปัดลงเพื่อเลือกใช้งานเมนูลัดหลัก ๆ หรือการปัดซ้าย-ขวาแบบวน ๆ เพื่อเข้าถึงเมนูพื้นฐานต่าง ๆ เช่น การวัดคลื่นหัวใจ, ดูสถิติการบริการร่างกาย, โหมดวัดความเครียด, ดูพยากรณ์อากาศ หรือโหมดรีโมตคอนโทรลสำหรับสั่งเล่นเพลงในสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อด้วยกันอยู่ (ตัว HUAWEI Band 6 ไม่มีลำโพงในตัว)
ในโหมดหลังสุดนี้สามารถเลือกเปิดใช้ทำงานได้จากภายในแอปฯ HUAWEI Health โดย HUAWEI Band 6 สามารถสั่งเล่นเพลง หยุดเพลง ข้ามเพลง และปรับความดังเสียงได้ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเพลงที่อยู่ในเครื่องหรือการสตรีม
ซึ่งเท่าที่ได้ลองก็สามารถใช้งานได้ทั้งแอปฯ JOOX, Spotify, TIDAL หรือ USB Audio Player Pro การเชื่อมต่อและสั่งงานระหว่าง HUAWEI Band 6 กับสมาร์ทโฟนซึ่งใช้เทคโนโลยี Bluetooth 5.0 ก็ทำได้ราบรื่นและฉับไวดี เพียงแต่ HUAWEI Band 6 นั้นไม่มีลำโพง ไม่มีไมโครโฟน จึงใช้เล่นเพลงหรือสนทนาโดยตรงไม่ได้เหมือนกับสมาร์ทวอทช์บางรุ่น
สำหรับการปรับแต่งรูปแบบของหน้าปัด ก็ยังคงมีลักษณะคล้ายกับสมาร์ทวอทช์ของ HUAWEI เอง ตั้งแต่การกดค้างบนหน้าปัดเพื่อเปลี่ยนโดยตรง หรือการปรับเปลี่ยนผ่านแอปฯ HUAWEI Health ซึ่งแบบหน้าปัดหรือ Watch Faces นั้นทางหัวเว่ยเขายังได้ร่วมมือกับทีมดีไซน์เนอร์ชาวไทยในการออกแบบลวดลายหน้าปัดที่สื่อถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยให้เลือกใช้ได้ด้วย
สำหรับฟีเจอร์รีโมตชัตเตอร์เพื่อควบคุมการถ่ายภาพในสมาร์ทโฟน ทราบมาว่ารองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยเอง โดยรุ่นที่ใช้งานได้คือรุ่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI 8.1 หรือใหม่กว่า
โหมดออกกำลังกายและการตรวจวัด SpO2
โหมดมอนิเตอร์หรือตรวจจับค่าต่าง ๆ ในระหว่างการออกกำลังกายก็มีมาให้เลือกถึง 96 โหมด เท่ากับสมาร์ทวอทช์จากยี่ห้อเดียวกัน เท่าที่ได้ลองสำรวจดูพบว่าก็มีให้มาแบบครอบคลุมแทบทุกประเภทกีฬาและการออกกำลังกาย ทั้งแบบอินดอร์และเอาต์ดอร์ แต่ตัวสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้ไม่มี GPS ในตัว ดังนั้นการออกกำลังกายแบบเอาต์ดอร์จึงอาจต้องอาศัยการทำงานร่วมกับระบบ GPS ในสมาร์ทโฟนด้วย
ในการใช้งานเครื่องครั้งแรกโหมดออกกำลังกายนั้นมีให้มาเพียงแค่บางส่วน สามารถโหลดเพิ่มเติมได้โดยการเลื่อนไปที่ Widgets แล้วกดปุ่มบวก (+) เพื่อเลือกเพิ่มโหมดออกกำลังกายตามที่ต้องการ
โหมดออกกำลังกายที่ได้ลองอย่างเช่น โหมด Elliptical พบว่าตัวเลือกในการ track การออกกำลังกาย เขามีให้ค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับอุปกรณ์สมาร์ทแบนด์ทั่วไป
เช่น นอกจากการตั้งเวลาเป้าหมายแล้ว ยังตั้งค่าให้แจ้งเตือนได้ตั้งแต่ ช่วงเวลา, อัตราการเต้นของหัวใจที่เลือกเตือนได้ทั้งสูงเกินไปและต่ำเกินไป รวมทั้งการเลือกเป็นโซน หรือแจ้งเตือนความเข้มข้นในการออกกำลังกาย (Training Stress)
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ การตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) ซึ่ง HUAWEI Band 6 สามารถทำได้ตั้งแต่การวัดค่าตามปกติ หรือเปิดใช้งานในส่วนของ Health monitoring ซึ่งสามารถวัดต่อเนื่องโดยอัตโนมัติและคอยมอนิเตอร์แจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติได้ด้วย โดยผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ได้จากตัวเลือกในแอปฯ HUAWEI Health
ซึ่งตรงนี้ถือว่ามีประโยชน์มากในช่วงที่เราอยู่ภายใต้สถานการณ์โรคระบาดอย่าง COVID-19 ในเวลานี้ เนื่องจากมีข้อมูลจากผลการศึกษาทางการแพทย์ระบุว่าการตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด สามารถช่วยเตือนได้ว่าในขณะนั้นสุขภาพของผู้ใช้งาน ตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือไม่
โดยปกติแล้วระดับออกซิเจนในเลือดของผู้ที่มีสุขภาพดีทั่วไปจะมีค่าเท่ากับ 100% หรือใกล้เคียง แต่ถ้าหากตัวเลขที่วัดได้ต่ำว่า 92-94% ก็เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าร่างกายเกิดความปกติอะไรบางอย่าง ซึ่งควรได้รับการตรวจหรือวินิจฉัยอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกที
HUAWEI Band 6 เหมาะกับใคร ?
ด้วยคุณสมบัติข้างต้นทั้งหมด ชัดเจนว่า HUAWEI Band 6 เป็นสมาร์ทแบนด์ที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ ผู้ที่รักการออกกำลังกาย หรือผู้ที่ใช้ชีวิตประจำวันแบบแอคทีฟ
และด้วยราคาที่ค่อนข้างเข้าถึงได้ง่ายของ HUAWEI Band 6 ทำให้เหมาะที่จะเป็นสมาร์ทแบนด์เครื่องแรกของทุกเพศทุกวัย หรืออาจเป็นทางเลือกใหม่ในราคาประหยัดสำหรับผู้ที่มีสมาร์ทวอทช์อยู่แล้วแต่อาจยังไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน
HUAWEI Band 6 วางจำหน่ายในประเทศไทยทางช่องทางออนไลน์เป็นหลัก และวางจำหน่ายในร้านค้าที่ Huawei Experience Store Siam Paragon ในราคา 1,899 บาท ซึ่งนับว่าเป็นสมาร์ทแบนด์ที่คุ้มค่าและน่าใช้มากเลยทีเดียว