Polk Audio เปิดตัวลำโพง Reserve Series ลำโพงไฮเอนด์ราคาจับต้องได้ รองรับ Hi-Res Audio
Polk Audio ผู้ผลิตลำโพงจากสหรัฐอเมริกาเปิดตัวไลน์อัปลำโพงรุ่นใหม่ล่าสุด Reserve Series ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหลากหลายรูปแบบ โดยนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาจากลำโพงรุ่นไฮเอนด์ พร้อมนำเสนอในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า
ลำโพง Polk Audio Reserve Series ประกอบไปด้วยลำโพงทั้งหมด 9 รุ่น ได้รับแนวทางการออกแบบมาจากลำโพง Legend Series ซึ่งเป็นลำโพงรุ่นเรือธง ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทำให้ตัวลำโพงได้รับการรับรองมาตรฐาน IMAX Enhanced และ Hi-Res Audio
รวมทั้งยังพร้อมรองรับรูปแบบเสียงรอบทิศทางยุคใหม่อย่าง Dolby Atmos และ DTS:X เพื่อตอบสนองการใช้งานทั้งในรูปแบบของการฟังเพลง, การชมภาพยนตร์ รวมทั้งการเล่นเกมสมัยใหม่
Polk Audio Reserve Series รุ่น R100 และ R200 ออกแบบเป็นลำโพงวางขาตั้ง สำหรับรุ่น R500, R600 และ R700 ออกแบบเป็นลำโพงตั้งพื้น
มีลำโพงเซ็นเตอร์อีก 3 รุ่น ได้แก่ R300 ที่ออกแบบมาสำหรับระบบเสียงรอบทิศทางทั่วไป รุ่น R350 ที่ออกแบบเป็นรูปทรงเพรียวบางสำหรับแขวนผนัง และรุ่น R400 ซึ่งเป็นลำโพงเซ็นเตอร์ขนาดฟูลไซส์
สำหรับลำโพงอีกหนึ่งรุ่นคือ R900 ออกแบบเป็นลำโพงยิงเสียงขึ้นด้านบนเพื่อใช้งานในระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งนี่คือลำโพงรุ่นแรกของ Polk Audio ที่ออกแบบมาใช้งานในลักษณะนี้ สามารถติดตั้งได้ทั้งการวางบนลำโพงตั้งพื้น หรือติดตั้งแบบแขวนผนัง โดยมีสวิตช์เลือกเพื่อปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับการติดตั้งในแต่ละรูปแบบ
ลำโพง Reserve Series ทุกรุ่นเลือกใช้ตัวขับเสียงที่แมตช์กันทั้งหมดเพื่อให้ลำโพงทั้งระบบให้เสียงกลมกลืนผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะนำไปใช้งานในรูปแบบใด
Reserve Series คือความพยายามในการออกแบบลำโพงที่ให้คุณภาพเสียงเทียบเท่าลำโพงในระดับเรือธง ขณะที่จำหน่ายในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น
วิศวกรของโพล์คได้นำเทคโนโลยีตัวขับเสียง Pinnacle Tweeter และตัวขับเสียงกลาง Turbine Cone Midrange จากลำโพงรุ่นเรือธงอย่าง Legend Series ตลอดจนเทคโนโลยีการควบคุมเรโซแนนซ์และการจัดการคลื่นความถี่ต่ำ PowerPort และ X-Port มาใช้งานในลำโพงรุ่นนี้ รวมทั้งแนวทางการออกแบบตู้ลำโพงใหม่ที่แข็งแกร่งมากขึ้นจากวิธีการคาดดามโครงสร้างภายในแบบใหม่
ตัวขับเสียงแหลม Pinnacle Ring Radiator Tweeter ขนาด 1 นิ้วนั้น เป็นตัวขับเสียงที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Hi-Res Audio เป็นผลผลิตมาจากการวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี
มาพร้อมกับเวฟไกด์ที่ได้รับการปรับแต่งอย่างพิถีพิถัน ห้องอากาศด้านหลังโดมมีไว้เพื่อสลายเรโซแนนซ์ส่วนเกิน ทำให้ตัวลำโพงสามารถถ่ายทอดเสียงความถี่สูงได้อย่างชัดเจน สดใส และเป็นธรรมชาติ โดยปราศจากสีสันหรือความเพี้ยน
สำหรับตัวขับเสียงกลาง Turbine Cone Midrange เป็นการผสานเทคโนโลยีตัวขับเสียงที่ไดอะแฟรมมีแกนกลางเป็นเนื้อโฟมพิเศษของ Polk ร่วมกับการขึ้นรูปเป็นแบบกังหัน Turbine เพื่อเพิ่มความแกร่งและคุณสมบัติในการยั้งตัว โดยไม่เพิ่มมวลให้กับตัวไดอะแฟรม เป็นผลให้ได้ตัวขับเสียงที่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดเสียงกลางตลอดย่านความถี่ได้อย่างราบรื่น
นอกจากเทคโนโลยีนวัตกรรมที่ได้รับมาจาก Legend Series แล้ว ลำโพง Reserve Series ยังเป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีสิทธิบัตรอย่าง X-Port มาใช้งานกับลำโพงทุกรุ่นที่เป็นระบบตู้เปิด มีการปรับแต่งวัสดุซับเสียงอย่างละเอียดเพื่อสลายพลังงานส่วนเกินจากตัวตู้และท่อเปิด เป็นผลทำให้ได้สมดุลเสียงที่ดี ถ่ายทอดรายละเอียดเสียงกลางทุ้มได้สะอาดและตอบสนองต่อไดนามิกเสียงได้ดี
ขณะที่ลำโพงรุ่นตั้งพื้นทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับ Power Port 2.0 ที่ได้รับการพัมนาขึ้นล่าสุด เป็นเทคโนโลยีการออกแบบท่อเปิดที่เป็นสิทธิบัตรของทางแบรนด์อีกเช่นกัน เมื่อ Power Port 2.0 ทำงานผสานกับ X-Port และ Enhanced Power Port เป็นผลให้การตอบสนองความถี่ต่ำสามารถลงได้ลึกมากขึ้น ถ่ายทอดพลังเสียงได้มากกว่าท่อเปิดที่เป็นดีไซน์แบบเดิม ๆ
สำหรับลำโพงตั้งพื้นรุ่นใหญ่สุดอย่าง R700 ยังมาพร้อมกับการเสริมโครงด้านในผนังตู้ลำโพงแบบ Cabinet Resonance Control (CRC) เพื่อขจัดการสั่นสะเทือนส่วนบริเวณผนังตู้ ทำให้ได้เสียงที่มีรายละเอียดและความกระจ่างชัดดีขึ้น
ลำโพง Reserve Series มีตัวตู้ลำโพงเป็นสีดำด้านและสีขาวด้าน (เฉพาะรุ่น R100, R200, R350, R500, R600, R900) โดยวางจำหน่ายในราคาดังนี้
R100 Bookshelf ราคา $599 ต่อคู่
R200 Bookshelf ราคา $699 ต่อคู่
R300 Centre Channel ราคา $399 ต่อตัว
R350 Slim Centre Channel ราคา $549 ต่อตัว
R400 Centre Channel ราคา $599 ต่อตัว
R500 Tower ราคา $599 ต่อคู่
R600 Tower ราคา $799 ต่อคู่
R700 Tower ราคา $999 ต่อคู่
R900 Height Module ราคา $499 ต่อคู่
ที่มา: PolkAudio.com