MQA ถูกยื่นล้มละลายภายใต้เงื่อนไข Chapter 11 เพื่อขอฟื้นฟูกิจการ
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัท MQA ได้ยื่นเอกสารต่อศาลแห่งสหราชอาณาจักรเพื่อขอแต่งตั้งผู้บริหาร นี่เทียบเท่ากับการยื่นขอความคุ้มครองการล้มละลายภายใต้เงื่อนไข Chapter 11 (คำอธิบายเพิ่มเติม) ตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดีมีการคาดการณ์ว่า MQA น่าจะสามารถอยู่รอดและกลับมาฟื้นฟูกิจการได้ใหม่ แต่อาจจะต้องขายเทคโนโลยี SCL6 (เดิมเคยถูกเรียกว่า MQAir) ออกไป
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีเหตุการณ์หลายอย่างที่น่าจะอธิบายได้ว่าทำไม MQA จึงถูกยื่นล้มละลาย ประการแรก คือพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการผลักดันให้ Codec MQAir ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐาน Bluetooth
เพราะถ้าหากทำสำเร็จ จะทำให้พวกเขาได้เปรียบ Codec คู่แข่งอื่น ๆ เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะเข้ากันได้กว้างกว่า Codec อื่น ๆ ในปัจจุบันไม่ว่า aptX, LDAC, LHDC และอื่น ๆ หลังจากล้มเหลวในความพยายามดังกล่าว MQAir ก็ต้องพบกับหนทางในการแข่งขันที่มีความยากลำบากมากขึ้น
ประการที่สอง MQA ได้เปลี่ยนชื่อจาก MQAir มาเป็น SCL6 ความเคลื่อนไหวนี้ดูเหมือนเป็นความตั้งใจในการทำให้ชื่อของผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างจากชื่อ MQA และทำให้มันพร้อมถูกจำหน่ายออกมาไปมากขึ้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำเช่นนั้น
ประการที่สาม นาย Anthony Edward Rupert ตัวแทนของ Richemont (ปัจจุบันคือ Reinet) ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ MQA ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว ในเวลาเดียวกันตามเอกสารที่ยื่นต่อศาลก็พบว่ามีการปรับโครงสร้างหนี้ที่วุ่นวายเอาการ
ปัจจุบัน Richemont ถือหุ้นประมาณ 24% ใน MQA และอาจเป็นผู้ถือหุ้นที่ต้องการขาย สืบเนื่องจากการออกจากตำแหน่งล่าสุดของ Rupert
เหตุใด MQA จึงเข้าสู่สถานการณ์นี้ในเมื่อยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะขายเทคโนโลยีตัวแปลงสัญญาณ SCL6 และกลับสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้น นั่นคือจุดที่น่าสนใจ เพราะว่าในการขายส่วนหนึ่งของ MQA ภายใต้กฎหมายของอังกฤษนั้น จำเป็นต้องมีผู้บริหารเข้ามาเพื่อให้แน่ใจว่าการแบ่งผลประโยขน์นั้นมีความเท่าเทียมกันกับนักลงทุนที่ยังถือหุ้นอยู่
โดยสรุปแล้ว MQA จะต้องถูกซื้อในฐานะนิติบุคคลหากพวกเขาเลือกที่จะดำเนินการขายด้วยตนเอง แต่ภายใต้การบริหารงาน บางส่วนของ MQA สามารถขายได้โดยที่ผู้ซื้อไม่ต้องรับภาระหนี้สินที่พวกเขาไม่สนใจ
สิ่งนี้น่าจะหมายความว่าสำหรับ MQA นั้นมีคนที่สนใจเทคโนโลยี SCL6 แต่ผู้ที่จะเข้ามาซื้อเทคโนโลยีมองว่าพวกเขาไม่น่าจะมีส่วนได้เสียในการเป็นเจ้าของ MQA ส่วนที่เหลือ ข้อดีคือ MQA อาจได้รับเงินสดจากการขาย SCL6
ในขณะที่ข้อเสียคือ จุดขายเดียวของ SCL6 คือการเป็นผลิตภัณฑ์เดียวที่ทำงานได้กับ MQA ทว่าจุดขายอื่น ๆ ที่เหลืออยู่นั้นถูกมองว่ามีมูลค่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นจะเป็นอุปสรรค์ที่ยากสำหรับทีมการตลาดของ MQA ในการฟื้นฟูกิจการของบริษัท
ในระยะสั้น สิ่งที่เราในฐานะผู้บริโภคควรคาดหวังได้ คือไฟล์เสียงในรูปแบบ MQA จะยังคงมีอยู่และยังคงเข้าถึงใช้งานได้ เราไม่คิดว่า TIDAL จะเริ่มลบเนื้อหาที่เป้นไฟล์เสียง MQA ในเร็ว ๆ นี้ ทว่าเราน่าจะเห็นการชะลอตัวของคอนเทนต์ MQA ใหม่ ๆ รวมถึงอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่รองรับ MQA เนื่องจากศิลปินและผู้ผลิตเองต่างรอดูผลที่เกิดขึ้นหลังจากการดำเนินการในครั้งนี้
จากนี้ไปเราอาจเห็นคู่ค้าด้านฮาร์ดแวร์ของ MQA บางรายตัดสินใจแยกเทคโนโลยีออกจากผลิตภัณฑ์ใหม่จนกว่าเรื่องราวในการดำเนินธุรกิจของ MQA จะมีความกระจ่างชัดเจนมากกว่านี้
เราอาจเห็นบริษัทอย่าง TIDAL (ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของโดยบริษัท Block (ซึ่งก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อ Square) ของแจ็ค ดอร์ซี่ย์ อดีตเจ้าของทวิตเตอร์ เข้าซื้อองก์ประกอบอื่น ๆ ที่เหลือของ MQA หลังจากที่มีการประกาศขาย SCL6 ในราคาที่เหมาะสม และทำการรวมเทคโนโลยี MQA เข้ากับกลุ่มเทคโนโลยีของตนเอง นี่เป็นเพียงการคาดเดาในเบื้องต้นของสื่อที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้อยู่
มีโอกาสที่ดีที่ MQA จะอยู่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบลบชื่อของ MQA ออกไป แม้ว่าหนทางข้างหน้าของเทคโนโลยีนี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยก็ตาม
จากแถลงการณ์อย่างเป็นทางการล่าสุดของ MQA ชัดเจนว่าพวกเขายังไม่อยากเปิดเผยอะไรมากในเวลานี้:
“หลังจากได้รับการต้อนรับในเชิงบวกเมื่อเร็ว ๆ นี้ต่อเทคโนโลยีล่าสุดของ MQA (SCL6) มีความสนใจจากต่างประเทศในการซื้อบริษัท MQA Ltd เพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันผู้สนับสนุนทางการเงินหลักของ MQA ก็กำลังมองหาทางออก
เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดในการไล่ตามโอกาสทางการตลาดและเร่งรัดกระบวนการนี้ บริษัทได้ดำเนินการริเริ่มการปรับโครงสร้าง ซึ่งรวมถึงการเข้าสู่การบริหารซึ่งเทียบได้กับการยื่นขอความคุ้มครองการล้มละลายภายใต้เงื่อนไข Chapter 11 ตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา
ในระหว่างขั้นตอนนี้ MQA จะยังคงซื้อขายตามปกติร่วมกับพันธมิตร เราจะไม่แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในระหว่างที่มีการเจรจา”
เราอาจเรียนรู้เพิ่มเติมจากการเฝ้าดูพฤติกรรมของนักลงทุนรายอื่นใน MQA เนื่องจากพวกเขาพยายามหาสถานะทางการเงินที่ยั่งยืนที่สุด ท่ามกลางสัดส่วนที่ขายออกไปและสัดส่วนที่ยังคงไว้ ซึ่งเราสามารถดูรายชื่อผู้ถือหุ้นของ MQA ได้ที่นี่
ที่มา: ecoustics