Huawei P30 Pro ในทัศนะของผม “Rewrite the Rules จริงเหรอ?”
การเปิดตัวสมาร์ทโฟน Huawei P30 Series ทั้งในตลาดโลกและในประเทศไทยเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งครั้งที่หัวเว่ยพยายามบอกกับโลกว่าพวกเขาจริงจังกับการพัฒนากล้องในสมาร์ทโฟนอย่างมาก
และการนำแบรนด์ที่ได้รับความศรัทธาในจักรวาลของคนรักการถ่ายรูปอย่างไลก้า ‘Leica’ มาช่วยพัฒนาสมาร์ทโฟนตั้งแต่ในรุ่น P9 Series นั้น นับว่าเป็นการเดินหมากตาสำคัญที่มีส่วนนำพาสมาร์ทโฟนหัวเว่ยออกมายืนยืดอกอยู่แถวหน้าในวันนี้
เซ็นเซอร์ใหม่ เลนส์ใหม่ มาไกลกว่าที่เคย
จากข้อมูลที่มีแพร่หลายทั่วไปตามข่าวสาร หรือรีวิวต่าง ๆ จะเห็นว่าการมาของ Huawei P30 Series โดยเฉพาะในรุ่นเรือธงอย่าง P30 Pro นั้นแสดงออกชัดเจนว่าเรื่องกล้องในมือถือพวกเขาไม่ยอมแพ้ใคร
อย่างเซ็นเซอร์ที่ใช้ก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ใหญ่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความละเอียดหรือจำนวนพิกเซล แต่เป็นเรื่องของ “ขนาดเซ็นเซอร์” ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่ากล้องถ่ายรูปแบบดิจิทัลนั้นขนาดเซ็นเซอร์มีส่วนสำคัญในการช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายได้จริง
นอกจากขนาดที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ยังได้มีการเปลี่ยนไปใช้เซนเซอร์แบบใหม่ ‘HUAWEI SuperSpectrum’ ที่ช่วยมันรองรับค่า ISO ได้สูงมากแบบเหลือเชื่อคือ ISO 409,600 ประกอบกับระบบกันสั่น (ทั้งออปติกและอิเล็กทรอนิกส์) ที่พัฒนาไปจากรุ่นเดิมอีก ทำให้ P30 Pro เก่งเรื่องการถ่ายใน “ที่แสงน้อย” หรือที่จริงต้องบอกว่า “ที่มืด” เลย มากยิ่งขึ้นไปอีก
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ความสามารถในการซูมภาพระยะไกลที่ก้าวข้ามคำว่าธรรมดาสามัญไปไกลแล้ว นั่นคือการซูมในระดับหวังผลได้ (hybrid zoom 10 เท่า) หรือการซูมในระดับอ้าปากค้าง (digital zoom 10-50 เท่า) โดยที่ไม่ต้องมีชิ้นเลนส์ขยับยื่นยาวออกมาเหมือนสมาร์ทโฟนบางรุ่นในอดีตที่ทำให้สามารถซูมภาพได้เยอะ ๆ
นอกจากนั้น P30 Pro ยังคงใส่กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษที่ปรับแต่งมาได้ดี รวมถึงกล้อง ToF ที่คุยว่าช่วยให้การถ่ายภาพแนว portrait มีความสมจริงมากขึ้น ในขณะที่ความสามารถในการถ่ายภาพระยะใกล้มากหรือมาโครที่เริ่มมีมาตั้งแต่ใน Huawei Mate 20 Pro ก็ยังคงบรรจุมาใน Huawei P30 Pro ด้วยเช่นกัน
ทัศนะเกี่ยวกับการลองใช้ถ่ายรูปในช่วงเวลาสั้น ๆ
ด้วยความฮอตของ Huawei P30 Pro เวลาในการลองใช้งานจึงค่อนข้างจำกัด ผมก็เลยเลือกลองเฉพาะส่วนที่เป็นไฮไลต์ของมันและสามารถทำได้โดยสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพด้วยการซูมระยะไกล การถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือการถ่ายมาโคร
ก่อนอื่นต้องบอกว่า เป็นความจริงที่ P30 Pro เป็นสมาร์ทโฟนกล้องดีที่สุดของหัวเว่ย มันดีขึ้นทุกด้านจริง ๆ ครับ โหมดถ่ายปกติผมสามารถได้ภาพที่ดีง่ายมาก ง่ายจนต้องบอกว่าแม้แต่ กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ + Lens Kit ระดับ entry level หากว่าผู้ถ่ายไม่ได้มีความรู้พื้นฐานแล้วที่ดีพอแล้ว ก็อาจจะไม่ได้ภาพที่มีคุณภาพดีกว่า P30 Pro ก็เป็นได้นะครับ
สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย P30 Pro ทำสิ่งที่ฝืนธรรมชาติได้ด้วยเทคนิคการใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ผสานกัน ถ้าดูจากคลิปวิดีโอพรีวิวจะเห็นว่าในสภาพที่มีแสงน้อยมาก สมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถฝืนธรรมชาติได้ในระดับที่เรียกว่าน่าทึ่งเลยทีเดียว คือภาพที่ถ่ายได้สว่างกว่าที่สายตาของเรามองเห็นเสียอีก โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่างขาตั้งกล้องเสมอไปเหมือนกล้องดิจิทัลปกติทั่วไปเวลาถ่ายในโหมดที่สปีดชัตเตอร์ต่ำ ๆ
อันที่จริงความสามารถตรงนี้มันเริ่มมาตั้งแต่รุ่น P20 Pro แล้ว แต่ P30 Pro ก็ทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งคุณสมบัตินี้ต้องยอมยกให้เขามีดีเหนือสมาร์ทโฟนคู่แข่งในระดับเดียวกันจริง ๆ
อย่างไรก็ดี ภาพที่ได้จากการถ่ายในที่แสงน้อยก็พบว่ามันจะมีรายละเอียดที่ลดทอนไปบ้างตามสภาพ เนื่องจากในโหมดที่ต้องใช้ ISO สูง ๆ มันก็จะมีการลดน้อยส์ (noise reduction) ในปริมาณมากด้วยเช่นกัน หรือในกรณีที่บริเวณนั้นไม่มีแสงเลย หรือมีแสงสว่างในระดับต่ำเกินขีดจำกัดของมัน P30 Pro ก็ไม่อาจฝืนกฏเกณฑ์ของธรรมชาติไปได้ครับ เพราะระบบภาพประมวลผลไม่มีข้อมูลภาพหรือแสงมากพอที่จะมาใช้ process ให้ได้ภาพออกมา
ในโหมดซูมระยะไกล เท่าที่ได้ลองใช้งานมา ต้องบอกว่า P30 Pro ทำได้น่าทึ่งอย่างมากครับ ลองครั้งแรกตกใจเลยว่ามันซูมได้ขนาดนั้นเลยเหรอ!? ซูมไฮบริด 10 เท่าของ P30 Pro ที่ให้ภาพออกมาใช้งานได้เลย สามารถดึงภาพได้มากกว่าเลนส์กล้องดิจิทัลเซ็นเซอร์ APS-C ที่ติดเลนส์คิทระดับ 50-55mm แน่นอนครับ
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมพยายามเปรียบเทียบ P30 Pro กับกล้องดิจิทัลแท้ ๆ เพราะที่ผมพูดถึงเพียงแค่อยากเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้นเองครับ เพื่อให้เข้าใจว่า P30 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่พยายามเอาชนะข้อจำกัดหรือจุดบอดที่คนถ่ายรูปด้วยกล้องสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพให้ดีในที่แสงน้อย หรือถ่ายภาพในระยะต่าง ๆ ตั้งแต่มุมกว้างสุดไปจนถึงการซูมระยะไกล
เสมือนว่าเรามีกล้องดิจิทัลติดเลนส์ตัวเดียวที่รองรับการถ่ายภาพได้เกือบครบทุกสถานการณ์ ตั้งแต่การถ่ายสถาปัตกรรมด้วยภาพมุมกว้าง การถ่ายภาพแมลงหรือดอกไม้ด้วยระยะมาโคร ไปจนถึงการถ่ายภาพจากระยะไกล ไม่ต้องมาพกเลนส์หลาย ๆ ตัวหรือมาคอยสลับสับเปลี่ยนเลนส์ในระหว่างการถ่าย ดังนั้นหากพิจารณาในแง่ของความสะดวกคล่องตัวและอรรถประโยชน์ก็ต้องนับว่าครบเครื่องไร้ที่ติจริง ๆ ครับ
อย่างไรก็ดีการซูมภาพระยะไกลมาก ๆ ก็ต้องยอมรับว่ามันจะไวต่อการสั่นไหวมากขึ้น ซึ่งเป็นปกติของการซูมระยะไกล ยิ่งการซูมที่ระยะเกิน 10 เท่าขึ้นไป อาจต้องหาที่วางมือเหมาะ ๆ เพื่อให้มือนิ่ง หรือหาขาตั้งกล้องสำหรับสมาร์ทโฟนมาใช้งาน เพื่อให้ง่ายต่อการถ่ายและได้ภาพที่คมชัดเท่าที่จะเป็นไปได้
ด้านกล้องเซลฟี่มีมาให้กล้องเดียวแม้ว่าจะไม่ได้มีฟังก์ชันหวือหวาเหมือนกล้องหลัง แต่ก็จัดว่าเป็นกล้องเดี่ยวที่มีคุณภาพของภาพดีพอสมควรเลยล่ะครับ เก็บรายละเอียดดี สีสันไม่เพี้ยน แม้ว่าจะถ่ายในสภาพแสงที่ไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยมากนักก็ตามครับ
Rewrite the Rules จริงเหรอ?
Huawei พยายามโปรโมต P30 Pro ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มา “Rewrite the Rules” หรือมาสร้างนิยามให้กับการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน ก็ต้องยอมรับว่าในบางแง่มุมหัวเว่ยเขาทำได้ตามที่คุยไว้จริง ๆ ผมเชื่อว่าเจ้าของ P30 Pro น่าจะชอบการถ่ายภาพมากขึ้นแน่นอน ในเครื่องของคุณจะเต็มไปด้วยภาพถ่ายสวย ๆ หลากหลายรูปแบบ
คนที่ไม่ชอบถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนเพราะไม่พอใจภาพที่ได้ หากได้ลองถ่ายด้วย P30 Pro ก็อาจได้เวลาเปลี่ยนใจหันมาชอบถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนด้วยก็เป็นได้ และถ้าหากเราเปิดใจยอมรับสักหน่อยก็อาจพูดได้ว่ามันเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถทำหน้าที่แทนกล้องดิจิทัลคอมแพ็คระดับ entry level ได้แล้วด้วยซ้ำไปครับ