fbpx
NEWS

Apple เปิดตัว iPhone 11 ยกระดับจาก iPhone XR พร้อมกล้องคู่ ชิปประมวลผลระดับเรือธง ราคาเริ่มต้น 24,900 บาท

คูเปอร์ติโน, แคลิฟอร์เนีย — 10 กันยายน 2562 – วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัว iPhone 11 รุ่นพื้นฐานที่มาพร้อมกับการยกระดับนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ล้ำกว่า iPhone XR  ควบคู่กับการปรับปรุงคุณสมบัติต่าง ๆ 

iPhone 11 มาพร้อมกับดีไซน์ด้านหลังที่ขึ้นรูปด้วยความแม่นยำจากกระจกเพียงชิ้นเดียว กระจกที่ใช้ใน iPhone 11 เป็นกระจกที่มีความแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ตัวเครื่องมีคุณสมบัติกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP68 

จอภาพ Liquid Retina ขนาด 6.1 นิ้ว รองรับขอบเขตสีกว้าง และสี True Tone เพื่อประสบการณ์การรับชมที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น

iPhone 11 ได้ผสานรวมการแตะค้างแบบสั่นไว้กับทุกส่วนของระบบปฏิบัติการ iOS 13 เพื่อสร้างทางลัดของแอปฯ ไปสู่งานที่ทำเป็นประจำได้จากหน้าจอโฮม ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพเซลฟี่จากแอปฯ กล้อง การตรวจเช็คนัดหมายในแอปฯ ปฏิทิน หรือการแสดงตัวอย่างอีเมลภายในแอปฯ เมล์ได้ด้วยการกดเพียงหนึ่งครั้ง

ไอโฟนรุ่นนี้มาพร้อมกับ A13 Bionic เป็นชิปที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน มี CPU และ GPU ที่เร็วกว่า A12 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

ทั้งยังมี Neural Engine ที่เร็วขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ภาพถ่ายและวิดีโอแบบเรียลไทม์ นอกเหนือจาก Machine Learning Accelerators แบบใหม่เพื่อให้ CPU ทำงานได้มากกว่า 1 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที เมื่อทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ iOS 13 ยังช่วยให้แบตเตอรี่ถูกใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

iPhone 11 เปิดตัวพร้อมกับระบบกล้องคู่ ประกอบด้วยกล้องอัลตร้าไวด์และไวด์แบบใหม่หมด เพื่อการถ่ายทำวิดีโอคุณภาพสูงสุดในสมาร์ทโฟน เนื่องจากกล้องทั้งแบบอัลตร้าไวด์และไวด์รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ที่มีช่วงไดนามิกที่ขยายกว้างขึ้น

ระบบกล้องคู่จะช่วยให้ผู้ใช้ซูมระหว่างกล้องแต่ละตัวได้ง่าย ขณะที่โหมด Audio Zoom จะจับคู่เสียงเข้ากับการจัดเฟรมของวิดีโอเพื่อให้เสียงแบบไดนามิกยิ่งขึ้น

ในส่วนของเครื่องมือตัดต่อวิดีโออันทรงพลังซึ่งเมื่อใช้กับระบบปฏิบัติการ iOS 13 แล้ว ก็จะช่วยให้ทุกคนเข้าถึงได้ พร้อมความสามารถในการหมุน ครอบตัด เพิ่มการเปิดรับแสงและนำฟิลเตอร์ต่าง ๆ มาใช้กับวิดีโอได้ทันที โดยทั้งหมดนี้ทำได้จากภายในอินเทอร์เฟซของแอปฯ กล้องแบบใหม่ที่ใช้งานได้ง่าย

กล้องอัลตร้าไวด์แบบใหม่หมดใน iPhone 11 จะเปลี่ยนประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยการจับภาพฉากต่าง ๆ ได้มากขึ้นถึง 4 เท่า เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ถ่ายภาพทิวทัศน์หรือถ่ายภาพสถาปัตยกรรม การถ่ายภาพระยะใกล้ และอื่น ๆ

ตัวเซ็นเซอร์ Wide แบบใหม่ที่มาพร้อม Focus Pixels แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ รองรับการถ่ายภาพในโหมดกลางคืน ภาพที่ได้จึงสว่างขึ้น มีสีสันที่เป็นธรรมชาติและ noise ลดลง

ระบบกล้องในไอโฟนรุ่นใหม่มาพร้อมกับฟีเจอร์ HDR อัจฉริยะเจเนอเรชั่นใหม่ และ Deep Fusion ซึ่งเป็นระบบประมวลผลภาพแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Neural Engine ของ A13 Bionic ทำให้ภาพดูเป็นธรรมชาติและเผยให้เห็นรายละเอียดมากยิ่งขึ้น

มาพร้อมกับระบบอินเทอร์เฟซกล้องที่ออกแบบใหม่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่เต็มอิ่มมากขึ้น โดยจะทำงานร่วมกับระบบกล้องคู่และจอภาพแบบหน้าจอทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้มองเห็นและบันทึกภาพที่อยู่นอกเฟรมได้ และยังถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้จะสามารถบันทึกวิดีโอได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องออกจากโหมดรูปถ่ายผ่านทาง QuickTake โดยแค่กดที่ปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้เพื่อเริ่มบันทึกวิดีโอ

สำหรับกล้องหน้าหรือกล้อง TrueDepth ใหม่ใช้กล้องความละเอียด 12MP ที่มีมุมมองภาพกว้างขึ้นสำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ ทั้งยังมี HDR อัจฉริยะเจเนอเรชั่นใหม่ที่จะทำให้ภาพดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ที่ 60 fps และการบันทึกวิดีโอสโลว์โมชั่นที่ 120 fps

ไอโฟนรุ่นใหม่ยังมาพร้อมกับชิป U1 ที่ออกแบบโดย Apple ใช้เทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์สำหรับการรับรู้ตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในสมาร์ทโฟน และเมื่อ iOS 13.1 เปิดให้ใช้งานในวันที่ 30 กันยายนนี้ ฟังก์ชัน AirDrop ก็จะทำงานได้ดียิ่งขึ้น เพราะสามารถรับรู้ทิศทางการหันเครื่อง และแนะนำเครื่องที่จะแชร์ไฟล์ด้วยได้

iPhone 11 มาพร้อมกับลำโพงที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้เสียงทรงพลังเต็มอารมณ์ด้วยมุมกระจายเสียงที่โอบล้อมกว้างขึ้น

ในด้านการเชื่อมต่อ iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max สามารถเชื่อมต่อสัญญาณ LTE ระดับ Gigabit สูงสุด 1.6Gbps และ Wi-Fi 6 ช่วยให้ดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น

ราคาและการวางจำหน่าย
iPhone 11 มีให้เลือกระหว่างรุ่นความจุ 64GB, 128GB และ 256GB ในรุ่นสีม่วง สีเขียว สีเหลือง สีดำ สีขาวและสีแดง PRODUCT(RED) โดยเริ่มต้นที่ราคา 24,900 บาท

เริ่มเปิดให้สั่งจองในต่างประเทศตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 กันยายนนี้ และเริ่มวางจำหน่ายในต่างประเทศตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน เป็นต้นไป

สำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทย สามารถติตตามได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple 

 

กองบรรณาธิการ AV Tech Guide

สื่อออนไลน์ที่มีเนื้อหาครอบคลุมเกี่ยวกับเทคโนโลยีนวัตกรรมในกลุ่มสินค้าเครื่องเสียงไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ไอทีมัลติมีเดีย ตลอดจนสินค้านวัตกรรมอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ดำเนินงานโดยทีมงานมืออาชีพ