fbpx

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

มาทำความรู้จักระบบเสียง DTS:X คู่แข่ง Dolby Atmos

ในอดีต DTS และ Dolby ดูเหมือนจะเป็นคู่แข่งกันโดยตรงทั้งในโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ และในระบบโรงภาพยนตร์ย่อส่วนที่บ้าน หรือที่เราเรียกกันว่าระบบเสียงโฮมเธียเตอร์

ในเวลาต่อมา Dolby ซึ่งดูเหมือนจะประสบความสำเร็จในวงกว้างมากกว่า เป็นที่รู้จักแพร่หลายกว่า ก็เข้าครอบครองในธุรกิจทั้งสองอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง

ในขณะที่บางคนคิดว่า DTS นั้นยอมแพ้ไปแล้ว แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา DTS ก็ได้ฟื้นตัวและกลับมาลงสนามแข่งกับ Dolby ได้อีกครั้งด้วยระบบเสียง “DTS:X” ซึ่งถูกพัฒนาต่อมาจากระบบเสียง DTS HD

DTS:X คืออะไร?
DTS:X เป็นเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทางแบบ “object-based sound technology” หรือเทคโนโลยีระบบเสียงแบบอ้างอิงตำแหน่งวัตถุ ปัจจุบัน DTS:X ก็ได้ประกาศตัวเป็นคู่แข่งโดยตรงกับระบบเสียง Dolby Atmos

ระบบเสียง DTS:X เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมกราคม ปี 2015 โดยมุ่งเน้นทางด้านการใช้งานภายในบ้านก่อนจากนั้นจึงนำไปใช้กับโรงภาพยนตร์ ซึ่งต่างจากระบบเสียงรอบทิศทางของคู่แข่ง ที่เริ่มใช้งานในโรงภาพยนตร์ก่อนจะนำมาใช้ภายในบ้าน

ผู้ผลิตสินค้า Audio/Video ระดับแนวหน้าส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนระบบ DTS:X กันอย่างพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็น Denon, Marantz, Anthem, Arcam, McIntosh, Onkyo, Pioneer, Sony, Trinnov และ Yamaha

ระบบเสียง DTS:X สามารถตอบสนองต่อการเคลื่อนย้ายตำแหน่งเสียงไปรอบ ๆ ตัวผู้ใช้งาน เสมือนว่ามีเสียงนั้นอยู่จริง ๆ ภายในห้อง ซึ่งโดยหลักการอาจจะฟังดูเหมือนระบบเสียง Dolby Atmos แต่จุดที่ DTS:X แตกต่างออกไปนั้นอยู่ที่การกำหนดรูปแบบการติดตั้งลำโพง

ในขณะที่ Dolby Atmos ต้องการให้ผู้ใช้งานเพิ่มช่องสัญญาณเสียงเข้ากับระบบเสียงแบบ 5.1 หรือ 7.1 ที่มีอยู่เดิม แต่ DTS:X สามารถทำงานได้กับการตั้งค่าลำโพงเซอร์ราวด์ในแบบมาตรฐานทั่ว ๆ ไป เหมือนที่เราใช้งานกันอยู่แล้วตามบ้าน โดยระบบเสียง DTS:X สามารถรองรับตำแหน่งลำโพงได้สูงสุดถึง 32 ตำแหน่ง และรองรับระบบเสียงได้สูงสุดถึง 11.2 แชนเนล

นอกจากนั้นทาง DTS ยังคุยว่าระบบนี้ ตัวแปลงสัญญาณมีความยืดหยุ่นสูงสามารถทำงานร่วมกับการกำหนดค่าลำโพงในตำแหน่งต่าง ๆ ที่จัดวางอยู่ในบริเวณที่มีรูปแบบเป็นครึ่งวงกลม นอกจากนั้นผู้ใช้งานยังสามารถปรับความดังเสียงพูดในซาวด์แทร็คได้อย่างอิสระ ทำให้บทสนทนาที่รับฟังยากสามารถฟังเข้าใจได้ง่ายขึ้น

ความสามารถดังกล่าวต้องขอยกความดีให้กับแพลตฟอร์ม Multi-Dimensional Audio (MDA) ของทาง DTS: X ที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตภาพยนตร์มีอิสระในการวางตำแหน่งของเสียง ทิศทางการเคลื่อนที่ของเสียง ตลอดจนระดับความดังของเสียง อีกทั้งแพลตฟอร์มนี้ยังปล่อยให้ใช้งานได้ฟรีโดยไม่มีลิขสิทธิ์ หรือค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

DTS:X และการใช้งานกับเครื่องเสียงที่บ้าน
ถือเป็นเรื่องดีที่กว่า 90% ของผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงบ้านในอุตสาหกรรม Audio/Video นั้นให้การสนับสนุน DTS:X โดยผู้ผลิตหลายรายใช้วิธีปล่อยตัวอัปเดตเฟิร์มแวร์สำหรับเอวีรีซีฟเวอร์ รุ่นเก่าที่ขายไปก่อนนี้ รวมไปถึงออกสินค้ารุ่นใหม่ที่รองรับการใช้งาน DTS:X ตามออกมา

Denon เป็นหนึ่งในเจ้าแรก ๆ ที่ทำการอัปเดตตัวเอวีรีซีฟเวอร์ให้รองรับ DTS:X โดยในปัจจุบันผู้ผลิตหลายเจ้าได้ปล่อยตัวอัปเดตออกมาใช้กับสินค้าที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจาก Arcam, Marantz, Onkyo และ Pioneer ต่างปล่อยตัวอัปเดตสำหรับสินค้าหลาย ๆ รุ่นออกมาแล้ว

สำหรับสินค้าใหม่ที่รองรับ DTS:X ติดมากับเครื่องเลยนั้น มีหลากรุ่น อาทิ Denon รุ่น AVR-X2400H, Sony รุ่น STR-DN1080 รวมไปถึงสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ตั้งแต่ปี 2017 ทั้งของ Pioneer และ Yamaha ติดระบบเสียง DTS:X มาเป็นที่เรียบร้อย

บอกที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องเพิ่มแชนเนลทางด้านสูง (height channel) ให้กับระบบลำโพงรอบทิศทางที่ใช้งานอยู่เดิม แต่ว่าถ้าสามารถเพิ่มได้มันจะช่วยสร้างประสบการณ์เสียงแบบ 3 มิติที่สมจริงมากยิ่งขึ้น ฟังตัวอย่างระบบเสียง DTS:X ได้ตามลิงก์นี้ https://dts.com/dtsx

ระบบเสียง DTS:X สามารถใช้งานร่วมกับระบบเก่ารุ่นก่อนหน้าได้ทั้งกับระบบ 5.1 หรือ 7.1 แชนเนลที่มีอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อหาชุดลำโพงเซอร์ราวด์ใหม่หรือแม้แต่เครื่องเล่น Blu-ray รุ่นใหม่ เข้ามาเพิ่ม

ระบบเสียง DTS:X จะบรรจุข้อมูลเอาไว้ในเลเยอร์ซาวด์แทร็ค DTS-HD เดิมที่มีอยู่ในแผ่น Blu-ray (เหมือนกับการเข้ารหัส Dolby Atmos บนชั้น Dolby TrueHD)

ดังนั้นภาพยนตร์ที่รองรับ DTS:X จึงสามารถเล่นกับระบบเสียงที่มีอยู่เดิมได้ ตราบเท่าที่เครื่องเล่น Blu-ray และเอวีรีซีฟเวอร์ของผู้ใช้งาน รองรับระบบเสียง Dolby TrueHD และ DTS-HD Master Audio

DTS Virtual:X สนามเสียงแบบจำลองของ DTS:X
DTS Virtual:X คือช่องทางที่จะรับฟังเสียงรอบทิศทางแบบสามมิติได้โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มลำโพงแชนเนลพิเศษเพิ่มเข้าไปในระบบเดิมที่มีอยู่

แทนที่สัญญาณเสียงจะถูกเข้ารหัสใส่ลงในแผ่น Blu-ray เหมือนอย่าง DTS:X ตามปกติ ระบบเสียง Virtual:X นั้นหันไปพึ่งพาการประมวลผลเพื่อจำลองหรือสร้างสนามเสียงรอบทิศทางในรูปแบบแบบ 7.1.4 แชนเนล รวมทั้งหมด 11.1 แชนเนล โดยมีลำโพงที่ติดตั้งสูงกว่าลำโพงปกติจำนวน 4 แชนเนล สามารถใช้งานได้กับทั้งลำโพงประเภทซาวด์บาร์ หรือระบบลำโพงรอบทิศทางแบบพื้นฐาน 5.1 แชนเนล

ซาวด์บาร์ที่รองรับ Virtual:X แตกต่างไปจากซาวด์บาร์ที่รองรับ Dolby Atmos (เช่น Sony รุ่น HT-ST5000) ตรงที่ซาวด์บาร์ Dolby Atmos จะพยายามสร้างเสียงสนามเสียงสามมิติขึ้นใหม่ ด้วยการเพิ่มลำโพงพิเศษยิงเสียงสะท้อนไปยังเพดานติดตั้งอยู่ภายในตัวซาวด์บาร์ แต่สำหรับ Virtual:X นั้นไม่จำเป็น

DTS อ้างว่า Virtual:X สามารถสร้างเสียงรอบทิศทางขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องสนใจมาตรฐานระบบเสียงของแหล่งกำเนิดสัญญาณเสียง นั้นหมายความว่า Virtual:X สามารถเพิ่มคุณภาพเสียงให้กับแหล่งสัญญาณเสียง DTS แบบเก่า ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ทว่าผู้ใช้จำเป็นต้องมีอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ติดตั้ง Virtual: X มากับเครื่องถึงจะสามารถใช้งานความสามารถดังกล่าวได้

สินค้าตัวแรกที่ติดฟีเจอร์ Virtual:X มาพร้อมกับเครื่อง คือ Yamaha รุ่น YAS-207 ซาวด์บาร์ราคาประหยัด ที่ได้รับรางวัลเป็นเครื่องการันตี นอกจากนี้ทาง LG ยังสนใจนำเทคโนโลยี Virtual:X ไปใช้กับซาวด์บาร์รุ่นใหม่ที่กำลังจะถูกปล่อยออกมาอย่างรุ่น SK6Y ส่วนการนำไปใช้กับทีวียังอยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกรุ่นสินค้า

Denon และ Marantz ได้ประกาศพร้อมนำ Virtual:X มาใส่ไว้ในเอวี รีซีฟเวอร์ เป็นเจ้าแรก และ คาดว่าผู้ผลิตรายอื่นจะให้การสนับสนุนนำเทคโนโลยี Virtual:X ไปใส่ไว้ในซาวด์บาร์, เอวี รีซีฟเวอร์ หรือแม้แต่ทีวีเพิ่มมากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป

คอนเทนต์อะไรบ้างที่รองรับ DTS:X
มีแผ่นบลูเรย์และบลูเรย์ 4K หลายสิบเรื่องที่รองรับ DTS:X ไม่ว่าจะเป็น Crimson Peak, Nerve, Zoolander 2 รองรับระบบเสียง DTS:X

ซึ่งรวมไปถึงภาพยนตร์เรื่อง Ex Machina, The Bourne Identity, Despicable Me, Despicable Me 2, Fast and Furious 6, Fast 7, Harry Potter and the Order of the Phoenix, Harry Potter and the Half-Blood Prince, Harry Potter and the Deathly Hallows Part 1 และ Part 2 ในรูปแบบ Blu-ray 4K ล้วนแล้วแต่รองรับระบบเสียง DTS:X ด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง อย่าง Netflix และ Amazon Prime Video ยังไม่มีวี่แววว่าจะให้บริการสตรีมด้วยระบบเสียง DTS:X หรือ Virtual:X ยังต้องตามดูกันต่อว่าในอนาคตจะปล่อยให้ได้ใช้กันหรือไม่ และเมื่อไร

ธวัชชัย อุไรรัตน์

ชื่นชอบดนตรีและเครื่องเสียงตั้งแต่ ปวช. ประกอบเครื่องเสียงใช้เองตั้งแต่เริ่มแรก ผ่านประสบการณ์ทางด้านเสียง/โฮมเธียเตอร์มาแล้วหลายรูปแบบ ทั้งนักวิจารณ์เครื่องเสียง/โฮมเธียเตอร์ เป็นทีมงานเครื่องเสียงให้เช่า (ติดตั้งโครงสร้าง วางลำโพง เซ็ตระบบเสียงทั้ง PA และ Monitor มิกซ์เสียง) ผ่านงานติดตั้งระบบมินิเธียเตอร์ ทั้งระบบภาพ 3D แบบ Passive (2 Projector Stack) และระบบเสียง 7.1 แชนเนล ผ่านการอบรม The Sound Master มีผลงานเขียนตีพิมพ์อย่างต่อเนื่อง ติดตามเทคโนโลยีอยู่เสมอ