COVID-19 ดัน ระบบพลเมืองดิจิทัลรายแรกของโลก ขยายบริการสู่ประเทศไทย
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 6 พฤษภาคม 2564: e-Residency ประกาศเปิดตัว กรุงเทพฯ เป็นจุดให้บริการรับเอกสารยืนยันตัวตน (pick-up point) แห่งใหม่ โดยประเทศไทยถูกเลือกเป็น 1 ใน 4 จากประเทศทั่วโลก เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการภายในประเทศ ในการขยายธุรกิจในระดับนานาชาติ
รวมไปถึงการเข้าถึงตลาดในแถบทวีปยุโรป โดยรัฐบาลประเทศเอสโตเนีย เป็นผู้ริเริ่มและก่อตั้ง e-Residency ซึ่งถือเป็นระบบพลเมืองดิจิทัลรายแรกของโลก
ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ของเอสโตเนีย ประจำกรุงเทพมหานครฯ มีความเห็นว่าการเปิดตัวในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่ดี ในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศ โดยกล่าวว่า
“การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 บังคับให้หลากหลายธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ให้ทันต่อบริการที่หลากหลายทางดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ความไม่มั่นคงในเส้นทางอาชีพยังส่งผลให้หลายคน หันมาเริ่มธุรกิจของตัวเองมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การเลือกใช้บริการจาก e-Residency จึงเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยม สำหรับทั้งผู้ประกอบอาชีพอิสระ และ ผู้ประกอบการที่กำลังมองหาแนวทางขยายธุรกิจ ในช่วงที่ประเทศถูกล็อกดาวน์”
หลังจากลงทะเบียนเป็น e-Resident เรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งานจะได้รับบัตรยืนยันตัวตนดิจิทัล ที่อนุญาติให้จัดตั้งบริษัทในสหภาพยุโรปได้อย่างอิสระ สามารถบริหารธุรกิจจากที่ใดก็ได้
โดยสมาชิกที่ได้รับการยืนยันตัวตนอย่างถูกต้องแล้วจะสามารถเข้าถึงช่องทางบริการ e-service ต่าง ๆของเอสโตเนียได้ อาทิ การบริการที่สามารถใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ และการเปิดตัวและดำเนินธุรกิจในรูปแบบออนไลน์ 100% ในสหภาพยุโรป
ประธานาธิบดีเคร์สตี คัลยูไลด์ แห่งเอสโตเนีย กล่าว “แม้ว่าทั่วโลก กำลังเผชิญอยู่กับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อจำกัดด้านการเดินทาง การทำงานและดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศซึ่งเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลของทั้งภาครัฐบาล ธุรกิจ และผู้ประกอบอาชีพอิสระต่าง ๆ
ซึ่งในปัจจุบันผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะทำงานโดยไม่ยึดติดกับสถานทีใดสถานที่หนึ่ง ทำให้เกิดความต้องการเครื่องมือที่สามารถรองรับการทำงานของพวกเขาได้ และในฐานะที่เอสโตเนียถือเป็นประเทศแรกของโลก ที่เปลี่ยนแปลงเป็นสังคมรูปแบบดิจิทัล เราจึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะต้อนรับ ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ และผู้ประกอบอาชีพอิสระต่าง ๆ จากทั่วโลก ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิก e-Residency กับเรา”
นอกเหนือจุดให้บริการรับเอกสารยืนยันตัวตน “Pick-up point” ใหม่ในประเทศไทย บราซิล สิงคโปร์ และแอฟริกาใต้แล้ว ผู้ใช้บริการสามารถรับบัตร e-Residency ได้ ณอีก 50 จุดบริการใกล้เคียงที่มีอยู่ทั่วโลก
นอกจากนี้ ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ Digital Nomads กว่า 80,000 รายนั้น การประกาศเปิดตัวจุดให้บริการใหม่ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการสานต่อคำมั่นสัญญาของเอสโตเนีย ในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ และผู้ประกอบอาชีพอิสระต่าง ๆทั่วโลก
Mattia Montantri ผู้ร่วมก่อตั้งครีเอทีฟเอเจนซี่ Resonance ที่เขาควบคุมการดำเนินธุรกิจผ่านการทำงานระยะไกล จากบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เชื่อว่า e-Residency เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาธุรกิจต่อไปในอนาคต โดยได้กล่าวว่า
“การทำงานระยะไกลไม่ได้เป็นแค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นเส้นทางใหม่ในการประกอบธุรกิจ โดยประเทศเอสโตเนียเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้ ผ่านระบบพลเมืองดิจิทัล และคาดว่าอีกไม่นาน หลากหลายประเทศจะดำเนินการในแนวทางนี้เช่นกัน สำหรับตัวผม ประโยชน์หลักสำหรับการเป็น e-Resident ของเอสโตเนีย คือการลดอุปสรรคในการก่อตั้งบริษัทในสหภาพยุโรป
ไม่ว่าจะเป็น การดำเนินงานโดยไม่ต้องผ่านระบบราชการต่าง ๆ รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจจากที่ใดก็ได้ สำหรับการเพิ่มจุดบริการ “Pick-up point” ใหม่ ในประเทศต่าง ๆนั้น นับเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ประกอบการระยะไกล และเหล่า Digital Nomads เนื่องจากการทำงานในอนาคตไม่จำเป็นจะต้องรวมมาจากที่เดียวอีกต่อไป”
“พวกเรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับการประกาศเปิดตัว จุดบริการ “Pick-up point” ใหม่ของเรา ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา และอเมริกาใต้ โดยการขยายเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของเราตลอดมา
การเปิดตัวในครั้งนี้ ถือเป็นผลงานที่เราได้เตรียมการมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ช่วยเหล่าผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ และผู้ประกอบอาชีพอิสระจากทั่วโลก ขยายธุรกิจโดยการเข้าร่วมกับ e-Residency ที่มีขั้นตอนที่ง่ายดายยิ่งขึ้น” Lauri Haav กรรมการผู้จัดการของ e-Residency กล่าว
E-Residency นับเป็นสตาร์ทอัพจากรัฐบาลของประเทศเอสโตเนีย โดยก่อตั้งในปี 2014 บริการดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และนับเป็นการนำร่องแนวคิดของรัฐบาลมีต่อผู้ประกอบการชาวต่างชาติ จากการคาดการณ์จำนวนของ Digital Nomads จากทั่วโลก ที่อาจรวมตัวในภูมิภาคนี้มากถึง 5-10 ล้านคนนั้น ส่งผลให้ความต้องการบริการที่รองรับในด้านนี้มีมากขึ้นเช่นกัน
ซึ่งการเปิดตัว 4 จุดบริการใหม่นี้ สะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของคนทำงานที่เป็นอิสระในด้านของสถานที่ทำงาน ในระดับนานาชาติ และยังแสดงให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาของ e-Residency ที่มีต่อการเพิ่มความสามารถในการเข้าถึง ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการที่อาศัยอยู่นอกทวีปยุโรป
รัฐบาลของเอสโตเนียร่วมมือกับ BLS International ในการออกบัตร E-Residency ในกรุงเทพ สิงคโปร์ โตเกียว โจฮันเนสเบิร์ก และบราซิล โดย BLS เป็นพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้านบริการทางเทคโนโลยีระดับโลก ที่ทำงานร่วมกับรัฐบาลและหน่วยงานเอกชนต่าง ๆ ทั่วโลก
ด้วยชื่อเสียงที่ยอดเยี่ยมในการทำงานร่วมกับรัฐบาลจาก 46 ประเทศในการดูแลระบบต่างที่ครอบคลุมตั้งแต่ วีซ่า พาสปอร์ต กงสุล พลเมือง การปกครองในรูปแบบออนไลน์ ใบรับรองต่าง ๆ ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล วีซ่าออนไลน์ และบริการค้าปลีก โดย BLS ถือเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่จากประเทศอินเดีย ซึ่งได้ขยายการให้บริการไปแล้วกว่า 66 ประเทศ นอกจากนั้น บริษัทยังมีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดการโครงการที่คล้ายคลึงกันให้กับรัฐบาลประเทศอื่น ๆทั่วโลก
เกี่ยวกับ e-Residency:
ทุกคนสามารถลงทะเบียนรับบริการจาก e-Residency ซึ่งออกโดยรัฐบาลประเทศเอสโตเนีย ที่มีความชอบธรรมและโปร่งใสได้แล้ววันนี้ นอกจากนั้น e-Residency ยังอนุญาตให้เข้าถึงการบริการในรูปแบบ e-service ที่หลากหลายของประเทศเอสโตเนีย รวมไปถึงนานาประเทศ
โดยเอสโตเนียใช้ระบบ X-Road เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานเข้าด้วยกัน เพื่อให้แต่ละบริการทำงานได้อย่างสอดคล้องกัน โดยข้อมูลขาออกทั้งหมด จะได้รับการลงนามและเข้ารหัสแบบดิจิทัล ส่วนข้อมูลขาเข้าทั้งหมดจะได้รับการรับรองความถูกต้อง และบันทึกไว้
ซึ่งหมายความว่าข้อมูลของผู้ใช้งาน e-Residents และผู้ใช้งานท่านอื่นที่ใช้งานผ่าน X-Road จะได้รับความปลอดภัยอย่างแน่นอน และบริการดังกล่าวยังนำมาซึ่งอิสระในการริเริ่มและดำเนินธุรกิจในตลาดยุโรปแบบออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบจากที่ใดก็ได้บนโลก
ปัจจุบัน มี e-Residents กว่า 80,000 คน จาก 170 ประเทศทั่วโลก ซึ่งได้ทำการเปิดบริษัทไปแล้วกว่า 17,000 แห่ง โดยมีพนักงานกว่า 2,000 คน ถูกจ้างงานจาก e-Resident เหล่านี้ โดยบริษัทเหล่านี้มีมูลค่าการซื้อขาย อยู่ที่ 3.68 พันล้านยูโร ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2021 และนับตั้งแต่ก่อตั้ง ขึ้นในปี 2014 e-residency ได้ถูกบันทึกไว้ว่า ได้สร้างรายได้ขาเข้าให้กับรัฐบาลเอสโตเนียถึง 54 ล้านยูโร
เยี่ยมชมเว็บไซต์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: https://e-resident.gov.ee/
ลงทะเบียนออนไลน์ กับ e-Residency: https://eresident.politsei.ee/
จุดบริการ ‘Pick-up point’ ใหม่ ตั้งอยู่ที่:
สิงคโปร์:
– 10 Anson Road Unit 30-08 International Plaza, 079903
กรุงเทพฯ:
– 399 อาคารอินเตอร์เชนจ์ ชั้น B2 ยูนิต A/1 ถนนสุขุมวิท คลองเตย วัฒนา กรุงเทพ 10110 ประเทศไทย
โจฮันเนสเบิร์ก:
– The Station, 191 Bekker Road, The Station, Vorna Valley, Midrand, 1682
เซาเปาลู:
– 184 apt. 05 Belém, São Paulo, 05039-030