ญี่ปุ่นประกาศจำกัดส่งออกวัตถุดิบผลิตจอ OLED ให้เกาหลีใต้ จากชนวนเหตุการเมือง
หนังสือพิมพ์ Sankei ได้รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเตรียมคว่ำบาตรต่อเกาหลีใต้ หลังจากที่ทางการเกาหลีใต้สนับสนุนการออกกฏหมายต่อต้านการบังคับใช้แรงงานเชลยชาวเกาหลีใต้ของบริษัทญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ซึ่งการคว่ำบาตรครั้งนี้มีเรื่องของการงด หรือจำกัดการส่งออก วัตถุดิบสำหรับการผลิตอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ และวัตถุดิบสำหรับการผลิตจอแสดงผลแบบ OLED จากประเทศญี่ปุ่นไปยังประเทศเกาหลีใต้
การคว่ำบาตรครั้งนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ซึ่งการจำกัดการส่งออกวัตถุดิบไปยังประเทศเกาหลีใต้ ประกอบไปด้วยสินค้า 3 หมวดหมู่ ดังต่อไปนี้
1. สารฟลูออริเนตโพลีไอไมด์ (fluorinated polyimides) สำหรับใช้ในการผลิตหน้าจอแสดงผลแบบ OLED สำหรับสมาร์ทโฟนและทีวี
2.-3. สารโฟโตรีซิส (photoresist) และไฮโดรเจนฟลูออไรด์ความบริสุทธิ์สูง สำหรับใช้ในกระบวนการผลิตอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ
ตามรายงานระบุว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันจันทร์นี้ หลังจากนั้นผู้ส่งออกของญี่ปุ่นจะต้องยื่นขออนุญาตทุกครั้ง ก่อนที่จะส่งออกไปยังเกาหลีใต้ ซึ่งการพิจารณาแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 90 วัน
มีรายงานว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ส่งออก ฟลูออริเนตโพลีไอไมด์ และไฮโดรเจนฟลูออไรด์ รายใหญ่ของโลกที่มีส่วนแบ่งในตลาดสูงถึง 90% และ 70% ตามลำดับ เป็นที่ทราบกันว่าธุรกิจของหลาย ๆ บริษัทในเกาหลีใต้จำเป็นต้องพึ่งพาวัตถุดิบเหล่านี้ ดังนั้นการคว่ำบาตรในครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างแน่นอน
กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่ทรงอิทธิพลทางการค้าและการลงทุนในประเทศเกาหลีใต้ อย่าง Samsung และ LG ตลอดจนบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ในประเทศ จะมีปัญหาเรื่องการส่งมอบชิ้นส่วนอุปกณ์อิเล็กทรอนิกส์ของพวกเขาทันที และที่จะได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปด้วยก็คือบริษัทคู่ค้าอย่าง Apple, Google, Sony, Huawei, Oppo, Vivo ฯลฯ
ชนวนเหตุระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว เมื่อศาลสูงของเกาหลีใต้ได้ยืนคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้บริษัท นิปปอน สตีล แอนด์ ซูมิโตโม่ เมทัล คอร์ป ผู้ผลิตเหล็กสัญชาติญี่ปุ่น ต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับแรงงานชาวเกาหลีใต้จำนวน 4 คน (ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว 3 คน) ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงที่ญี่ปุ่นปกครองประเทศ เป็นจำนวนเงิน400 ล้านวอน ($350,000)
ขณะที่ทางญี่ปุ่นได้ยืนยันว่าประเด็นเรื่องการบังคับใช้แรงงานได้รับการแก้ไขอย่างถึงที่สุดแล้วตั้งแต่ในปี 1965 (พ.ศ. 2508) เมื่อทั้งสองประเทศได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต และได้ประณามคำตัดสินนั้นว่า “ไร้ซึ่งเหตุผลอันควร”