iFi Audio เปิดตัว hip-dac 3 อุปกรณ์ DAC/AMP พกพารุ่นใหม่ สานต่อความสำเร็จจากสองรุ่นแรก
iFi Audio เปิดตัว hip-dac 3 อุปกรณ์ DAC/AMP พกพารุ่นใหม่สานต่อความสำเร็จจากสองรุ่นแรก โดย hip-dac 3 ยังคงมาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัว สามารถเล่นไฟล์เสียงความละเอียดสูงที่สตรีมจากสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตได้
hip-dac ยังคงมาในรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและมีลักษณะคล้ายกับขวดบรรจุวิสกี้แบบพกพาตามสไตล์ของผลิตภัณฑ์ในตระกูลนี้ โดย hip-dac รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2019 และปรับปรุงใหม่ออกมาเป็นรุ่น hip-dac 2 ในปี 2021 พร้อมตัวเครื่องสีใหม่ เช่นกันกับ hip-dac 3 มันมาพร้อมกับสีใหม่เช่นกัน
iFi hip-dac 3 มาพร้อมกับพอร์ต USB-C สองพอร์ต พอร์ตหนึ่งสำหรับใช้งานเป็นอินพุตรับสัญญาณเสียงและอีกพอร์ตสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ในตัว สำหรับสวิตช์เลื่อนด้านล่างตัวเครื่องที่เพิ่มเข้ามาเป็นสวิตช์ฟังก์ชัน IEMatch ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับกำลังขับของภาคขยายหูฟังให้เหมาะกับความไวของหูฟังที่ต่อใช้งานอยู่
เมื่อใช้กับหูฟังอินเอียร์ที่ขับยาก การเปิดใช้งาน IEMatch จะช่วยลดเสียงซ่า (เสียงรบกวน) ของพื้นหลัง ในขณะเดียวกันก็เพิ่มรายละเอียดและช่วงไดนามิกของเพลง
สำหรับการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ใน hip-dac 3 ได้แก่ การเลือกใช้ตัวเก็บประจุแบบฟิล์มโลหะใหม่ และการปรับแต่งเพิ่มเติมที่ปรับปรุงการตอบสนองความถี่ ส่วนของวงจร DAC มีวงจร GMT (Global Master Timing) ที่อัปเกรดแล้ว รวมถึงคริสตัลออสซิลเลเตอร์แบบใหม่เพื่อลดสัญญาณรบกวนประเภทเฟสนอยส์และช่วยให้ได้เสียงที่คมชัดยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ hip-dac 3 ก็เหมือนกับ hip-dac 2 ส่วนของวงจร DAC เลือกใช้ชิปเซ็ต Burr-Brown พร้อมสถาปัตยกรรม True Native การออกแบบนี้ช่วยให้ไฟล์เสียง DSD และ PCM ใช้เส้นทางแยกกันเพื่อให้ยังคงการเล่นไฟล์เสียงในแบบ bit-perfect เอาไว้จนถึงวงจรอะนาล็อกที่ปลายทาง
ในส่วนของวงจรดิจิทัลนั้นมีองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งคือชิป XMOS ซึ่งทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลเสียงจากอินพุตดิจิทัล hip-dac 3 เลือกใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ 16 คอร์จาก XMOS ซึ่งเปิดโอกาสให้ชิป DAC ของ Burr-Brown สามารถถ่ายทอดประสิทธิภาพสูงสุดออกมาได้
hip-dac 3 รองรับการถอดรหัสข้อมูลเสียง hi-res audio PCM และ DXD ความละเอียดสูงที่อัตราตัวอย่างสูงถึง 384kHz รวมถึงไฟล์ DSD ที่มีตั้งแต่ 2.8MHz ถึง 12.4MHz (DSD64, 128 และ 256) นอกจากนี้ยังมีการถอดรหัสไฟล์ MQA แบบ Full Decode ด้วย รอบปุ่มหมุนปรับความดังเสียงของ hip-dac 3 มีไฟ LED ที่สามารถเปลี่ยนสีได้เพื่อแสดงประเภทของไฟล์เสียงที่กำลังถอดรหัส
วงจรขยายเสียงแบบอะนาล็อกของ hip-dac 3 มีการออกแบบวงจรแบบบาลานซ์ (ดิฟเฟอเรนเชียล) อย่างแท้จริง โดยทาง iFi อ้างว่านี่คือสิ่งที่ไม่ค่อยได้พบบ่อยนักใน DAC/แอมป์ราคานี้ โดยวงจรขยายเสียงคุณภาพสูงใน hip-dac 3 ประกอบด้วยออปแอมป์ iFi OV ที่ทางแบรนด์ออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะ, IC แหล่งจ่ายไฟเสียงรบกวนต่ำที่มีความแม่นยำจาก Texas Instruments และตัวปรับความดังเสียงแบบอะนาล็อกคุณภาพสูง
ภาคขยายเสียงใน hip-dac 3 ให้กำลังขับสูงถึง 400mW ที่ 32 โอห์ม ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความเข้ากันได้กับหูฟังหลากหลายประเภท แม้แต่หูฟังที่มีอิมพิแดนซ์สูงก็สามารถใช้ได้ด้วยแรงดันเอาต์พุต 6.3 โวลต์ที่โหลด 600 โอห์ม ช่องเสียบหูฟังมีให้เลือกใช้ทั้งแบบซิงเกิลเอนด์ 3.5mm และบาลานซ์ 4.4mm
iFi hip-dac 3 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวความจุ 2,200mAh สามารถใช้งานได้นานประมาณ 7-12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับระดับความดังและหูฟังที่ใช้งาน ตัวเครื่องมาพร้อมกับสาย USB-C OTG (On-The-Go), สาย USB-A to USB-C และสาย USB-C to Lightning
iFi hip-dac 3 พร้อมจำหน่ายทางร้านค้าปลีกบางแห่งตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2023 ในราคา 199 ปอนด์ หรือประมาณ 9,000 บาท
ที่มา: Forbes
