ทำความรู้จัก Windows 11 มีอะไรน่าสนใจ อะไรที่ต้องรู้บ้าง ?
– Windows 11 จะใช้งานได้เมื่อไร ?
– คอมพิวเตอร์ของฉันใช้ Windows 11 ได้ไหม ?
– วิธีดาวน์โหลดตัวอย่างของ Windows 11
– Start Menu แบบใหม่ อยู่กลางหน้าจอ
– คุณสมบัติ Multi-Window และ Multi-Monitor อันทรงประสิทธิภาพ
– การอัปเดตที่รวดเร็วมากขึ้น และมีอัปเดตใหญ่ปีละครั้ง
– Store แบบใหม่ ครบถ้วน ปลอดภัย และได้ใจนักพัฒนามากขึ้น
– Windows 11 กับการใช้งานแอปฯ Android
– การปรับแต่ง Widgets และ Teams บน Taskbar
– ปรับปรุงคุณภาพการเล่นเกมบน PC
ไมโครซอฟต์เปิดตัว Windows 11 ระบบปฏิบัติการตัวใหม่ล่าสุดที่คุยว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ยอดเยี่ยมสำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อป
นอกจากการปรับปรุงหน้าตาและส่วนประสานงานผู้ใช้แล้ว ยังมีการปรับปรุงการทำงานมัลติทาสก์แบบหลายหน้าต่าง การสนับสนุนการเชื่อมต่อจอภาพหลายจอ การปรับปรุงการเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์พีซี และ Store ที่มีแอปฯ สำหรับ Win32 ดั้งเดิมรวมอยู่ด้วย
Windows 11 จะใช้งานได้เมื่อไร ?
ไมโครซอฟต์เผยว่า Windows 11 จะเริ่มเปิดให้ใช้งานสำหรับบุคคลทั่วไปในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของปี หรืออีกนัยหนึ่งก็คือประมาณช่วงสิ้นปีนี้นั่นเอง
“คอมพิวเตอร์พีซี Windows 10 ที่มีสิทธิ์ใช้ได้” จะสามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ฟรี ตั้งแต่ปลายปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าโดยจะทยอยเปิดตัวให้ใช้งานได้
คอมพิวเตอร์ของฉันใช้ Windows 11 ได้ไหม ?
ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ Windows 10 ทุกเครื่องที่สามารถใช้งาน Windows 11 ได้ ขณะที่ระบบปฏิบัติการ Windows 10 สามารถใช้งานย้อนหลังไปถึงคอมพิวเตอร์พีซีที่ใช้ Windows 7 ได้ ทว่าระบบปฏิบัติการ Windows 11 มีความต้องการที่เข้มงวดกว่านั้น
เราจำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์พีซีที่มาพร้อมกับ UEFI firmware ที่แตกต่างไปจากระบบ BIOS เดิม ๆ และรองรับฟีเจอร์ Secure Boot รวมทั้งมีชิปโมดูล TPM (Trust Platform Module) version 2.0 ด้วย ตัวอย่างเช่น คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิปประมวลผลแบบ 64bit รุ่นที่สามารถเข้ากันได้ คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิปประมวลผล 32bit ไม่สามารถใช้งาน Windows 11 ได้ หรือแม้แต่รุ่นที่ใช้ชิป 64bit บางตัวก็อาจไม่สามารถอัปเดตได้ด้วยเหมือนกัน
เราสามารถตรวจสอบความพร้อมของคอมพิวเตอร์ว่าจะสามารถใช้งาน Windows 11 ได้หรือไม่ ได้ง่าย ๆ ด้วยการดาวน์โหลดแอปฯ PC Health Check ของไมโครซอฟต์แล้วเปิดใช้งาน ตัวแอปฯ จะตรวจสอบและรายงานว่าคอมพิวเตอร์ของเราสามารถใช้งาน Windows 11 ได้หรือไม่
อีกส่วนหนึ่งที่ต้องสนใจก็คือ ต้องแน่ใจว่าคอมพิวเตอร์ของเราไม่ได้ปิดการใช้งานในส่วนของ Secure Boot หรือ TPM ใน UEFI firmware ของคอมพิวเตอร์ด้วย
สำหรับผู้ที่ยังใช้งาน Windows 10 ทางไมโครซอฟต์บอกว่าจะสนับสนุน Windows 10 ไปจนถึงวันที่ 14 ตุลาคม ปีค.ศ.2025
วิธีดาวน์โหลดตัวอย่างของ Windows 11
เมื่ออ้างอิงข้อมูลจากไมโครซอฟต์ ตัวอย่างของ Windows 11 จะเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป
หากว่าแอปฯ PC Health Check บอกว่าคอมพิวเตอร์พีซีของเรารองรับ Windows 11 เราสามารถดาวน์โหลดตัวอย่างการใช้งานนี้ได้โดยเข้าไปลงชื่อสมัครใช้งาน Windows Insider Program ของไมโครซอฟต์ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
อย่างไรก็ดี ควรต้องทราบไว้ก่อนว่าไม่ควรติดตั้งเวอร์ชันตัวอย่างการทดสอบใช้งานนี้ในคอมพิวเตอร์เครื่องหลักที่เราใช้งานอยู่ เพราะว่าตัวซอฟต์แวร์ที่ยังไม่เสถียรนี้อาจมีปัญหาในระหว่างการใช้งานมากกว่าปกติได้ (เป็นเรื่องปกติ)
Start Menu แบบใหม่ อยู่กลางหน้าจอ
ระบบปฏิบัติการ Windows 11 มาพร้อมกับ Start Menu แบบใหม่ที่เรียบง่ายมากขึ้น ส่วนของ Live tiles ไม่มีอีกต่อไป เพราะถูกแทนที่ด้วยไอค่อนของแอปฯ และไฟล์ที่เปิดล่าสุด
ขณะเดียวกันเอกสารที่เราแก้ไขในแอปฯ Office จากอุปกรณ์อื่น แม้แต่อุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ก็จะปรากฏเป็นไฟล์ที่อัปเดตล่าสุดในคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ด้วยเช่นกัน คุณสมบัตินี้ต้องให้เครดิตความสามารถของซอฟต์แวร์ Microsoft 365
สำหรับ taskbar หรือแถบไอค่อน รวมทั้ง Start Menu ถูกย้ายเอามาไว้ตรงกลางเพื่อให้ผู้ใช้โฟกัสอยู่ใจกลางบริเวณหน้าจอ สำหรับผู้ที่ต้องการย้ายกลับไปไว้ด้านซ้ายเหมือนเดิม ก็ยังสามารถทำได้ด้วยเช่นกัน
คุณสมบัติ Multi-Window และ Multi-Monitor อันทรงประสิทธิภาพ
Windows 11 ชูจุดเด่นในด้านการใช้งานแบบหลายหน้าต่างพร้อมกัน โดยไมโครซอฟต์ได้พัฒนาคุณสมบัติที่เรียกว่า Snap โดยมีส่วนของ “Snap Layouts” สำหรับการจัดเรียงแอปฯ บนหน้าจอได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เพียงแค่เลื่อนเมาส์ไปที่ปุ่มขยายหน้าต่างและเลือกบริเวณที่ว่างบนหน้าจอ
Windows ใหม่ยังมีความสามารถในการจดจำตำแหน่งที่จัดวางแอปฯ ด้วย “Snap Groups” โดยเราสามารถคลิกเปิดที่ไอค่อนใน taskbar เพื่อดึงเอากลุ่มแอปฯ ที่ได้ทำการ Snap เอาไว้แล้วเปิดขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อใช้ Windows 11 ในอุปกรณ์แท็บเล็ตหรือใช้งานในโหมดแท็บเล็ต หน้าต่างที่เปิดอยู่ข้างกันจะวางซ้อนกันโดยอัตโนมัติเมื่อมีการหมุนหน้าจอของแท็บเล็ต
สำหรับการใช้งานจอมอนิเตอร์หลายหน้าจอก็ได้รับการปรับปรุงให้มีประสบการณ์ที่ดีขึ้นด้วยคุณสมบัติ docking และ undocking แบบใหม่ เมื่อเราปลดจอมอนิเตอร์ออก หน้าต่างที่เคยใช้งานอยู่บนหน้าจอมอมิเตอร์นั้นจะปิดย่อตัวเองลงมาแทนที่จะคาเกะกะอยู่ในตำแหน่งเดิม และเมื่อกลับมาเชื่อมต่อหน้าจออีกครั้งหน้าต่างนั้นจะขยายกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมก่อนโดยอัตโนมัติ
การอัปเดตที่รวดเร็วมากขึ้น และมีอัปเดตใหญ่ปีละครั้ง
ไมโครซอฟต์เผยว่า Windows 11 สามารถอัปเดตได้รวดเร็วมากขึ้นด้วยขนาดไฟล์ที่เล็กลง 40% และเป้นการทำงานอยู่เบื้องหลังคล้ายกับในอุปกรณ์ Chromebook
ที่ดีกว่านั้นก็คือไมโครซอฟต์สัญญาว่าจะมีการอัปเดตใหญ่ปีละครับ แทนที่ 2 ปีครั้งใน Windows 10 เพื่อจัดการกับบั๊กที่สำคัญ ๆ ในระบบปฏิบัติการ และการทำงานอยู่เบื้องหลังทำให้การอัปเดตไม่รบกวนการทำงานของผู้ใช้
Store แบบใหม่ ครบถ้วน ปลอดภัย และได้ใจนักพัฒนามากขึ้น
Windows 11 มาพร้อมกับ Microsoft Store ใหม่ซึ่งทางไมโครซอฟต์ได้ทำสิ่งที่ควรจะทำเสียทีนับตั้งแต่เปิดใช้งาน Windows Store ครั้งแรกใน Windows 8
Store ใหม่จะเป็น “ศูนย์รวมที่เชื่อถือได้เพียงแห่งเดียวสำหรับแอปฯ” นักพัฒนาสามารถนำเสนอแอพพลิเคชั่นสำหรับเดสก์ท็อป Win32 แบบดั้งเดิมใน Store ควบคู่ไปกับแอปฯ Universal Windows Platform (UWP) และแอปฯ Progress Web App (PWA) ได้ด้วย โดยแอปฯ สามารถอยู่ในแอปฯ เฟรมเวิร์กอื่นๆ ที่ทำงานบน Windows ได้เช่นกัน
ไมโครซอฟต์ยอมให้นักพัฒนาใช้ฟังก์ชันการค้าของตนเองในแอปฯ เหล่านี้และเก็บรายได้ไว้เองแบบ 100% กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ตัวอย่างเช่น วาล์วคอร์ปอเรชัน เป็นผู้พัฒนา, ผู้จัดจำหน่ายวิดีโอเกม สามารถเผยแพร่สตรีมของตัวเองผ่าน Microsoft Store ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มให้กับทางไมโครซอฟต์
Store ใหม่นี้ยังได้รับการออกแบบใหม่ด้วย ซึ่งมีภาพยนตร์และรายการทีวีมารวมอยู่ด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไมโครซอฟต์คุยว่ามันได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้นด้วย นั่นหมายความว่าทางไมโครซอฟต์ยอมรับแล้วว่า Store เก่านั้นทำงานช้าเกินไป
Windows 11 กับการใช้งานแอปฯ Android
การออกแบบให้ Windows สามารถใช้งานแอปฯ ของระบบปฏิบัติการ Android ได้ด้วย ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะความจริงแล้วไมโครซอฟต์มีแผนนี้มาตั้งแต่ก่อนจะเปิดตัว Windows 10 ทว่าโครงการดังกล่าวได้ถูกระงับเอาไว้ จนกระทั่งล่าสุด Windows 11 ได้ถูกออกแบบให้สามารถใช้งานแอปฯ Android ได้แล้ว
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ไมโครซอฟต์ตัดสินใจเช่นนั้น อาจเป็นเพราะทาง Apple ได้ทำให้ macOS Big Sur สามารถใช้งานแอปฯ ของ iOS ได้ด้วย
เราสามารถดาวน์โหลดแอปฯ Android ผ่าน Microsoft Store และเรียกใช้งานบนคอมพิวเตอร์พีซีของเราเองได้ ขณะเดียวกันทางไมโครซอฟต์กำลังดำเนินการในส่วนนี้ร่วมกับ Amazon Appstore แม้ว่าตัวแอปฯ จะถูกเผยแพร่ผ่านแอปฯ Microsoft Store ปกติก็ตาม ซึ่งทางไมโครซอฟต์กล่าวว่ากำลังใช้เทคโนโลยี “Intel Bridge Technology” เพื่อเปิดใช้งานในส่วนนี้
การปรับแต่ง Widgets และ Teams บน Taskbar
ใน Windows 11 ผู้ใช้สามารถเพิ่ม widgets จากแอปฯ อื่น ๆ ได้ ทำให้สามารถปรับแต่งส่วนประสานงานผู้ใช้ และไม่ได้มีเพียงแค่ลิงก์ข่าวจาก Bing ของทางไมโครซอฟต์เท่านั้น
ไมโครซอต์ยังได้รวมเอา Microsoft Teams เอาไว้ใน taskbar ผู้ใช้สามารถใช้งานคุณสมบัติ Chat ในการสื่อสารด้วยข้อความและวิดีโอคอลล์กับผู้คนได้ ซึ่ง Microsoft Teams เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นเครื่องมือสื่อสารทางธุรกิจ ทว่าทางไมโครซอฟต์มีความต้องการเผยแพร่ให้ผู้คนทั่วไปได้ใช้งานด้วย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าแอปฯ Skype ซึ่งไมโครซอฟต์เป็นเจ้าของอยู่นั้นยังทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ
ปรับปรุงคุณภาพการเล่นเกมบน PC
Microsoft พูดถึงคุณสมบัติการเล่นเกมบางอย่างที่มีอยู่แล้ว เช่น DirectX 12 Ultimate และ Xbox Game Pass สำหรับพีซี ซึ่งให้การเข้าถึงไลบรารีเกม PC แบบไม่จำกัด โดยมีค่าธรรมเนียมรายเดือน
แต่มีสิ่งใหม่บางอย่างที่นี่ คุณสมบัติ 2 อย่างจาก Xbox Series X กำลังจะใช้งานได้ใน PC อย่างแรกก็คือ Auto HDR ซึ่งจะช่วยให้เกมรุ่นก่อนหน้า “มากกว่า 1,000 เกม” มีภาพที่ดูดีสวยงามสมจริงมากขึ้นด้วยการเปิดใช้งาน HDR โดยอัตโนมัติ
หากไม่มีฟีเจอร์นี้ จะมีเฉพาะเกมที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับ HDR เท่านั้นที่จะใช้ HDR บนจอแสดงผลที่รองรับ HDR ได้ ซึ่งทางไมโครซอฟต์ได้แสดงให้เห็นในเกม Skyrim ซึ่งทำให้ภาพมีสีสันที่สดใสและเปล่งปลั่งมากขึ้น
คุณสมบัติที่สองคือ DirectStorage คอมพิวเตอร์ PC ที่ใช้ Windows 11 บางรุ่นจะเป็น “DirectStorage Optimized” ซึ่งต้องมาพร้อมกับ NVMe SSD ประสิทธิภาพสูงและไดรเวอร์ที่เหมาะสม ใน PC เหล่านี้ เกมสามารถโหลดข้อมูลจากที่เก็บข้อมูลระบบไปยังการ์ดกราฟิกได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทำให้ซีพียูต้องทำงานหนัก เช่นเดียวกับใน Xbox มันจะเร่งความเร็วในการโหลดเกม และทำให้การโหลดเนื้อหาระหว่างการเล่นเกมทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
ที่มา: howtogeek