ทำไม OLED TV ถึงกำลังมาแทนที่ LED TV ?
ในยุคที่สมาร์ททีวี 4K ครองตลาด แล้วยังมีหน้าจอทั้ง LED TV และ OLED TV ผู้บริโภคจะเลือกได้อย่างไรว่าจะเลือกซื้อแบบไหนมาใช้งานดี ก่อนจะตัดสินใจลงทุนกับทีวีรุ่นใหม่สักเครื่อง เรามีข้อมูลง่าย ๆ มาบอกว่า OLED TV นั้นแตกต่างจาก LED TV อย่างไรบ้าง ตามไปดูกันได้เลย
1. OLED TV มีแผงจอแสดงผลที่กำเนิดแสงได้ด้วยตนเอง (Self-lighting Pixel) แต่ละพิกเซลบนหน้าจอสามารถสร้างและควบคุมแสงสว่างได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งหลอดไฟส่องสว่างจากด้านข้างหรือด้านหลัง จึงทำให้ได้ภาพที่ดำสนิท ให้ภาพคมชัดจากทุกมุมมอง สร้างมิติตื้นลึก สมจริงมากกว่า
ขณะที่ LED TV ทั่วไปจะใช้หลอดไฟส่องสว่างจากด้านข้างหรือด้านหลังในการช่วยกำเนิดภาพที่ได้จึงไม่สามารถทำความดำได้สนิท บ้างมีอาการแสงรั่วตามขอบจอเนื่องจากมีการเปิดใช้หลอดไฟด้านหลังจออยู่ตลอดเวลา
2. OLED TV ให้สีสันสมจริง ให้เฉดสีตามธรรมชาติ ซึ่งแตกต่างจาก LED TV ซึ่งสีสันที่ปรากฏบนจอจะถูกเจือปนด้วยแสงของหลอดไฟส่องสว่างจากด้านข้างหรือด้านหลังทำให้สีสันผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับตามปริมาณของแสงสว่างในช่วงเวลานั้น ๆ
3. OLED TV แสดงภาพเคลื่อนไหวอย่างคมชัด เนื่องจากแผงจอแสดงผลเทคโนโลยี OLED มีความเร็วในการตอบสนองเหนือกว่า LED TV ทั่วไปถึง 1,000 เท่า* ผู้ใช้งานจึงรับชมภาพเคลื่อนไหวได้โดยที่ไม่ต้องเผชิญปัญหาภาพเบลอ
4. OLED TV สามารถทำให้จอบางลงได้มากกว่า บางเฉียบเสมือนไร้ขอบ ผู้ใช้งานสามารถแขวนทีวีไว้กับฝาผนังเสมือนภาพศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ ไม่เหมือนกับ LED TV ที่ดีไซน์หนากว่าด้วยเหตุ LED TV ต้องใช้หลอดไฟส่องสว่างการช่วยกำเนิดภาพ
ด้วยประสิทธิภาพการแสดงผลภาพที่ล้ำสมัยของหน้าจอ OLED ที่กล่าวไปทั้งหมดในเบื้องต้น ผู้บริโภคจึงสามารถมั่นใจได้ว่า เทคโนโลยี OLED จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการดูหนังคุณภาพเทียบเท่าโรงภาพยนตร์ชั้นนำได้อย่างเสมือนจริงที่สุด
*ข้อมูลจาก LG