ชมก่อนเปิดตัวในไทย BRAVIA OLED TV รุ่นใหม่ปี 2018 จากโซนี่
เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญจากทางบริษัท โซนี่ไทย จำกัดให้ไปร่วมงาน Sony BRAVIA TV – Southeast Asia Launch 2018 ที่จัดขึ้น ณ Resorts World Sentosa ประเทศสิงคโปร์
งานนี้เปรียบเสมือนด่านหน้าในการทำความรู้จักกับสินค้าในกลุ่มทีวีที่ทางโซนี่เตรียมจะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยปีนี้ ซึ่งในปีนี้โซนี่ได้ขยายตลาดให้กลุ่ม 4K HDR OLED TV ในขณะที่ยังคงให้ความสำคัญกับสินค้าในกลุ่ม 4K HDR LCD TV ระดับพรีเมียมที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ไปในเวลาเดียวกัน
และสินค้าในกลุ่มทีวีของโซนี่ปีนี้จะยังคงยึดหลักปรัชญาสำคัญ 3 ประการสำคัญด้วยกันนั่นคือ การออกแบบ (Design), คุณภาพของภาพและเสียง (Picture/Sound) และประสบการณ์การใช้งาน (User Experience)
NEW A8F Series และ X9000F
พระเอกของงานนี้คงต้องยกให้ BRAVIA OLED TV รุ่นใหม่อย่าง A8F Series ที่ทางโซนี่ตั้งใจให้ออกมาสานต่อไลน์สินค้า BRAVIA OLED TV รุ่นเรือธงที่เปิดตัวมาในปีที่แล้วอย่าง A1E Series (ซึ่งยังคงทำตลาดต่อเนื่องจากปีก่อน)
ซึ่งคำว่าสานต่อในที่นี้ก็เรียกได้ว่าแทบจะยกเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน A1E Series มาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบประมวลผลภาพ 4K HDR ด้วยชิปประมวลผลภาพ X1 Extreme ที่ประกอบด้วยเทคโนโลยี Object-based HDR remaster, Super Bit Mapping 4K HDR และ Dual database processing ทำงานร่วมกับชิปประมวลผล 4K X-Reality Pro ตลอดจนระบบเสียงเทคโนโลยี Acoustic Surface ที่ให้เสียงโดยตรงออกมาจากหน้าจอทีวี
BRAVIA OLED TV รุ่นใหม่อย่าง A8F Series มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 55 นิ้วและ 65 นิ้ว นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่แตกต่างไปจาก A1E Series แลดูเป็นดีไซน์แบบเรียบง่าย (minimalist design) ที่ดูคุ้นตามากขึ้น ลดความอาร์ตความหวือหวาลง น่าจะถูกใจลูกค้ากลุ่มที่มองหาคุณภาพที่ดีขึ้นในรูปแบบการใช้งานที่ไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมายไปจากเดิม
สำหรับ X9000F Series ทีวีในกลุ่มพรีเมียมของโซนี่ก็มาพร้อมภาพในระดับ 4K HDR และ ชิปประมวลผลภาพ X1 Extreme เช่นกัน มีขนาดหน้าจอให้เลือกหลายระดับไม่ว่าจะเป็น 49 นิ้ว, 55 นิ้ว, 65 นิ้ว, 75 นิ้ว และ 85 นิ้ว ด้านระบบเสียงมีลำโพงซาวด์บาร์ระบบเสียง Dolby Atmos รุ่น HT-X9000F ที่ทางโซนี่ตั้งใจทำให้ออกมาช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกัน เรียกว่าเอาดีทั้งภาพและเสียงเลยทีเดียว ไม่เสียทีที่มาจากแบรนด์ใหญ่อย่างโซนี่
Refined Picture Quality
นอกจากเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของภาพที่ทางโซนี่ “จัดเต็ม” มาในทีวีรุ่นใหม่ที่เป็นพระเอกของปีนี้แล้ว รุ่นรองลงไปทั้งหมดก็ได้รับการบูรณาการด้วยเทคโนโลยีอย่าง X-tended Dynamic Range Pro, X-Motion Clarity และทุกรุ่นยังทันสมัยด้วยการรองรับระบบภาพแบบ HDR ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มีส่วนสำคัญในการเพิ่มความสมจริงให้กับระบบภาพของทีวีในปัจจุบัน
สำหรับทีวีในระดับพรีเมียมรรุ่นใหม่อย่าง A8F Series และ X9000F Series เทคโนโลยี HDR ที่รองรับจะมีความหลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น HDR10, HDR HLG (Hybrid Log-Gamma) รวมถึง Dolby Vision ซึ่งทางโซนี่แจ้งเอาไว้ว่าจะรองรับได้แน่นอนเมื่อมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในอนาคต
Android TV – Enhanced User Experience
ไม่เพียงคุณภาพของภาพและเสียง แต่ในด้านการใช้งานก็ได้รับการให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ในงานนี้พื้นที่กว่า30-40% เป็นการจัดแสดงและสาธิตในส่วนของระบบระบบสมาร์ททีวีซึ่งทางโซนี่ยังคงเลือกใช้แพลทฟอร์ม Android TV ในการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
มาในปี้นี้ Android TV ของโซนี่ทุกรุ่นจะให้ความสำคัญมากขึ้นกับประสบการณ์การใช้งานในด้านการสตรีมมิ่งจากผู้ให้บริการต่าง ๆ มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น Netflix, YouTube, Amazon Prime หรือ Sportify นอกจากนั้น Android TV ของโซนี่ซึ่งทำงานร่วมกับแพลทฟอร์ม Google Assistant มาในปีนี้ยังถูกออกแบบให้รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ในระบบสมาร์ทโฮมได้ดียิ่งขึ้น
โดยในงานมีการสาธิตร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ ทั้งระบบแสงสว่าง, ระบบกล้องวงจรปิด, เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติ ตลอดจนลำโพงสมาร์ทของ Google เอง เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกและอาจจะช่วยขับเคลื่อนให้การใช้ชีวิตในยุคไทยแลนด์ 4.0 เข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น แม้เป็นเพียงส่วนเล็กน้อยก็ยังดี
นอกจากไลน์สินค้าใน A8F Series และ X9000F Series แล้ว ในไลน์อื่น ๆ ที่รองลงไป โซนี่ก็ได้อัปเดตคุณสมบัติและความสามารถขึ้นมา ไม่เว้นแม้แต่สินค้าทีวีในกลุ่ม Full HD HDR TV ที่ทางโซนี่ยังคงให้ความสำคัญแม้ว่าในปัจจุบันตลาดทีวีในกลุ่มนี้จะเริ่มหดตัวลงตามธรรมชาติอันเนื่องมาจากความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีแล้วก็ตามที
หลังกลับมาจากการร่วมงานที่ประเทศสิงคโปร์ผมก็ได้ทราบข่าวมาว่าทางโซนี่ ไทย เราก็เตรียมจะเปิดตัวไลน์สินค้าทีวีของปี 2018 ในเร็ว ๆ นี้ด้วยเช่นกัน ท่านผู้อ่านที่สนใจเตรียมรอฟังข่าวคราวจากทางโซนี่ ไทย หรือทาง GM2000ทั้งนิตยสาร และออนไลน์ได้ในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน รับรองได้ว่าท่านจะตื่นตาตื่นใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่ผมได้ไปเห็นมาที่สิงคโปร์เลยล่ะครับ