เผยมือถือขวัญใจช่างซ่อม มือถือของคุณรวมอยู่ด้วยหรือเปล่า?
www.androidauthority.com เผยแพร่รายงานฉบับใหม่ซึ่งครอบคลุมการซ่อมแซมอุปกรณ์เคลื่อนที่ ได้เปิดเผยอันดับโทรศัพท์ที่มีอัตราความเสียหายที่สูงตาม รายงาน Mobile Device Repair and Security Report สำหรับไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 พบว่า Xiaomi : Redmi 4 เป็นโทรศัพท์ Android ที่เข้าโรงหมอบ่อยกว่าเพื่อน นอกจากนี้ Redmi Y1 ของ Xiaomi ยังอยู่ติด 1 ใน 10 สำหรับอุปกรณ์ที่มีการซ่อมบ่อยโดยมีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 8
สำหรับ Samsung มีจำนวนรุ่นติดเข้าไปอยู่ใน 10 อันดับแรกเพิ่มมากขึ้น มีทั้ง Galaxy S7, Galaxy S8 Plus และ Galaxy S7 Active โทรศัพท์รุ่นอื่น ๆ ในสิบอันดับแรก ได้แก่ Nokia 6, Moto G5S Plus และ Lenovo K8 Note
นอกจากนี้ Samsung ยังคงครองอันดับแบรนด์โทรศัพท์ทั่วไปที่มีประสิทธิภาพแย่สุด (อัตราความเสียหายอยู่ที่ 34 เปอร์เซ็นต์) แม้ว่าเปอร์เซ็นต์ดังกล่าวเป็นอัตราที่ลดลงเป็นอย่างมากแล้วเมื่อเทียบกับรายงานก่อนหน้านี้ ส่วน Xiaomi ตามมาห่าง ๆ มาเป็นอันดับที่สอง (อยู่ที่ 13 เปอร์เซ็นต์) ตามมาด้วย Motorola (9 เปอร์เซ็นต์) และ LG (7 เปอร์เซ็นต์)
อย่างไรก็ดีอาจเป็นไปได้ว่า Samsung และ Xiaomi เป็นยี่ห้อโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในภาพรวม ดังนั้นทั้งสองยี่ห้อจะติดอยู่ใน 10 อันดับแรกก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือ Huawei ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงมากเช่นกันแต่ถูกจัดไว้เพียงอันดับ 8 เท่านั้น และไม่มีรุ่นใดของ Huawei เลยที่ติดอยู่ในอันดับโทรศัพท์ที่มีปัญหาบ่อย
สำหรับอุปกรณ์ iOS จากรายงานพบว่า iPhone 6 เป็นโทรศัพท์รุ่นที่แย่ที่สุดโดยมี iPhone 6s และ 6s Plus รองลงมาตามลำดับ
จากการจัดลำดับดังกล่าวมีข้อสังเกตว่า อัตราความเสียหายของมือถือ iOS สูงกว่าอัตราความเสียหายของ Android เป็นอย่างมาก iPhone 6 มาเป็นที่ 1 ด้วยอัตราความเสียหายที่ 26 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ชัดเจนว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้แต่ถึงอย่างไรก็ตาม iPhone 6 ก็กำลังจะหยุดผลิตในอีกไม่นานหลังจากที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2014 เป็นที่ทราบกันดีว่าแม้ iPhones จะมีอายุมานานแต่ก็ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการมือถือไว้ใจได้ราคาประหยัด ไม่ว่าจะเครื่องใหม่แกะกล่องหรือเครื่องมือสอง
สำหรับเหตุผลเบื้องหลังอัตราความเสียหายโดยรวมของรายงานนี้ พบว่าเรื่องประสิทธิภาพนั้นเป็นสาเหตุหลักสำหรับมือถือ Android ตามด้วยปัญหากล้องและไมโครโฟน
สำหรับมือถือ iOS ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบเจอคือ การเชื่อมต่อ Bluetooth และ Wi-Fi ด้านประสิทธิภาพไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของผู้ใช้มือถือ iOS ขณะที่มือถือ Android ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในงบประมาณไม่สูงจึงอาจเป็นสาเหตุในข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ ขณะที่ Apple ขายเฉพาะโทรศัพท์ระดับไฮเอ็นด์เพียงอย่างเดียว และยังสามารถควบคุมระบบส่วนของระบบปฏิบัติการได้อย่างเช้มงวด ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้ดีกว่า