รีวิว Wanbo : X5 “เครื่องฉายอเนกประสงค์ราคาประหยัด ดูหนังจอใหญ่ เชื่อมต่อ Wi-Fi สตรีมหนังได้ในตัว”
หากต้องการมีโฮมเธียเตอร์ขนาดย่อม ๆ ที่บ้านโดยใช้โปรเจ็คเตอร์หรือเครื่องฉายแทนจอทีวีเพื่อให้ได้อารมณ์เหมือนกับโรงหนังจริง ๆ คุณคิดว่าต้องใช้งบประมาณสักเท่าไร ?
หากว่าเป็นในยุคก่อนปี 2000 เข้าใจว่าอาจต้องใช้เงินถึงหลักแสนบาทหรือไม่ก็ใกล้เคียงหลักแสน ทว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้การเป็นเจ้าของเครื่องฉายสำหรับโฮมเธียเตอร์นั้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้นพอสมควร แต่โดยมากแล้วก็ยังอาจต้องใช้เงินหลักหมื่นบาท (ประมาณ 2-3 หมื่นบาท)
มาในปัจจุบันมีผู้ผลิตจำนวนหนึ่งได้นำเสนอเครื่องฉายสำหรับโฮมเธียเตอร์ในงบประมาณที่ย่อมเยาเหลือเชื่อ นั่นคือ ไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาทเท่านั้น ตัวอย่างเช่น Wanbo X5 (ว่านป๋อ เอกซ์ไฟว์) จากผู้ผลิตสัญชาติจีนซึ่งจำหน่ายในราคาเพียง 8,990 บาทเท่านั้น น่าสนใจว่าในงบประมาณเท่านี้มันจะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีแค่ไหน ?
คุณสมบัติและการออกแบบ
ข้อมูลจากผู้ผลิตระบุว่า Wanbo X5 เป็นเครื่องฉายรุ่นล่าสุดของแบรนด์ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมระดับเรือธง เพื่อให้พร้อมสำหรับการถ่ายทอดความคมชัดและสีสันที่เป็นธรรมชาติ รวมถึงคุณภาพเสียงจากลำโพงในตัวที่มีกำลังขับ 5Wx2
ด้านระบบภาพ Wanbo X5 เป็นเครื่องฉายแบบ LCD มาพร้อมกับรายละเอียดภาพ (native resolution) ระดับ Full HD 1080p (1,920 x 1,080 พิกเซล) ให้แสงสว่างด้วยหลอด LED ความสว่างสูงสุดถึง 1,100 ANSI ครอบคลุมช่วงสีที่กว้างมากขึ้นช่วยให้สีสันของภาพมีความสมจริงและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีการฉายภาพผ่านเลนส์เคลือบแก้วทั้งหมด
Wanbo X5 ยังรองรับการฉายภาพในระดับ 4K (compatible resolution, ข้อมูลจากผู้ผลิต) และรองรับระบบภาพแบบ HDR10 (ข้อมูลจากผู้ผลิต) นอกจากนั้นในเครื่องฉายรุ่นนี้ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เข้ามาอำนวยความสะดวกในการใช้งานด้วย อาทิ ระบบปรับโฟกัสอัตโนมัติที่มีระบบ AI คอยจับโฟกัสอัตโนมัติเมื่อเปิดใช้งาน (AI Auto Focus)
ระบบฉายภาพมีตัวเลนส์ที่มีความไวสูงสามารถช่วยปรับโฟกัสอัตโนมัติและรักษาภาพให้คมชัดได้ตลอดเวลาแม้จะมีย้ายตำแหน่งเครื่อง รวมทั้งยังมีระบบช่วยแก้ไขภาพบิดเบี้ยวอัตโนมัติ (Auto Keystone correction) เพื่อให้สะดวกในการหาตำแหน่งจัดวาง
Wanbo X5 สามารถฉายภาพได้ตั้งแต่ 30-120 นิ้ว (ขนาดที่แนะนำ) โดยมีระยะฉายตั้งแต่ 1-4 เมตร โดยมีอัตราส่วนการโปรเจ็คต์ภาพออกไป (Throw Ratio) อยู่ที่ 1.5:1 อัตราส่วนการฉายภาพรองรับทั้ง 16:9 และ 4:3 ตัวเครื่องมาพร้อมหน่วยความจำ 1GB และพื้นที่เก็ยข้อมูลในตัว 16GB เชื่อมต่อเน็ตเวิร์กด้วยระบบไร้สาย Wi-Fi 6 (dual band)
Wanbo X5 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9 รองรับการสตรีมในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งยังสามารถดาวด์โหลดแอปฯ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ในภายหลัง นอกจากการสตรีมแล้วตัวเครื่องฉายยังสามารถเล่นไฟล์มัลติมีเดียรวมทั้งไฟล์เอกสารจากอินพุต USB 2.0 หรือรับสัญญาณภาพและเสียงเข้ามาทางออนพุต HDMI และ AV IN
นอกจากนั้นตัวเครื่องยังถูกออกแบบให้มีช่องระบายความร้อนแบบลมวนคู่ซึ่งเป็นนวัตกรรมของ Wanbo พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ สามารถกระจายความร้อนและลดเสียงรบกวนขณะเครื่องทำงาน พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่นที่สามารถถอดมาทำความสะอาดได้ง่าย ๆ
Wanbo X5 วางจำหน่ายแล้วในราคา 8,990 บาท สามารถสั่งซื้อได้ที่ Shopee / Lazada / TikTok และ Nocnoc
การใช้งานและการเชื่อมต่อ
ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า Wanbo X5 เป็นเครื่องฉายราคาย่อมเยาที่ตัวจริงดูสวยงามไม่แพ้ในรูปที่เราได้เห็นเลย ตัวเครื่องสีขาวมุก ออกแบบได้เรียบหรูดูทันสมัย หน้าตาดูเป็นมิตร ด้านบนตัวเครื่องมีปุ่มควบคุมมาให้จำนวนหนึ่ง แต่พร้อมสั่งงานจากระยะไกลได้ด้วยรีโมตคอนโทรลแบบอินฟราเรดที่ออกแบบมาสวยงามดีและใช้งานได้สะดวกกว่าปุ่มกดที่ตัวเครื่อง
บริเวณใต้ฐานเครื่องฉายมีขาตั้งแบบพับเก็บได้ เมื่อกางออกสามารถปรับมุมเงยได้ 2 ระดับ สามารถปรับมุมเงยของเครื่องฉายได้ถึงได้ถึง 12 องศา ตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด สัดส่วนตัวเครื่องประมาณ 265mm x 235mm x 119mm น้ำหนักประมาณ 3,020 กรัม สามารถเคลื่อนย้ายหรือพกพาได้สะดวกพอสมควร
ในการจัดวางตัวเครื่อง Wanbo X5 เราพบว่ามีทางเลือกไม่มากนัก เนื่องจากตัวเครื่องต้องวางบนโต๊ะ ชั้นวาง หรือพื้นผิวที่ราบเรียบเท่านั้น แม้ว่าตัวเครื่องรองรับการฉายแบบแขวนบนเพดานก็ตามซึ่งก็ต้องใช้อุปกรณ์เสริมต่างหากและการติดตั้งจากมืออาชีพ
อีกทั้งการเงยหน้าเครื่องด้วยขาตั้งนั้นพบว่าปรับได้สองระดับเท่านั้น ความยืดหยุ่นในการติดตั้งจึงยังเป็นรองโปรเจ็คเตอร์อย่าง Epson EpiqVision Mini EF 12 ทั้งในส่วนของขาปรับมุมเงยที่ปรับได้ละเอียดกว่ามาก จุดยึดสำหรับติดตั้งแบบแขวนเพดาน หรือว่าการฉายขึ้นเพดานที่ทำได้สะดวกกว่ามากเพราะไม่มีขั้วต่อต่าง ๆ อยู่ด้านหลังเครื่อง
นอกจากนั้นเราพบว่าเมื่อต้องการฉายบนสกรีนขนาด 80 นิ้ว หากต้องการวางเครื่องให้ตั้งฉากกับหน้าจอมากที่สุดเราจำเป็นต้องวางตัวเครื่องห่างจากหน้าจอประมาณ 3.20 เมตร นั่นเท่ากับว่าในห้องนอนทั่วไปที่ไม่ได้กว้างขวางนักอาจมีข้อจำกัดในการจัดวางอยู่บ้างหากว่าต้องการฉายจอขนาดใหญ่
เบื้องต้นเราพบว่าระบบการปรับโฟกัสอัตโนมัติสามารถทำได้อย่างรวดเร็วภายใน 2-3 วินาทีเท่านั้นและทำได้แม่นยำดี ส่วนการปรับ keystone พบว่าเมื่อปรับในโหมด manual ทำได้สะดวกและได้อย่างใจมากกว่าโดยเฉพาะเมื่อภาพที่ฉายออกไปมีอาการบิดเบี้ยวค่อนข้างมากสืบเนื่องมาจากตำแหน่งจัดวางที่จำกัด
ในการใช้งานจริงพบว่าพัดลมระบายความร้อนสามารถระบายความร้อนได้ดี แต่เสียงพัดลมไม่ได้เงียบอย่างที่คิด (ประมาณเปิดพัดลมแอร์เบอร์แรงสุด) ถ้าใช้เป็นจอมอนิเตอร์อย่างเดียวและมีการบันทึกเสียงเสียงพัดลมอาจดังเล็ดลอดเข้าไมโครโฟนได้ ทว่าถ้าเป็นการรับชมคอนเทนต์โดยมีการเปิดเสียงฟังด้วยในระดับความดังทั่วไป เสียงของลำโพงก็พอจะกลบเสียงของพัดลมไปได้
เมื่อได้ลองใช้งานเราค่อนข้างประทับใจกับเมนูและการทำงานของเครื่องที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องอ่านคู่มือก็ใช้ได้ (สำหรับคนที่เคยเล่นเครื่องอะไรประมาณนี้มาบ้างนะ) การเข้าออกเมนูตั้งค่าต่าง ๆ ทำงานรวดเร็วพอสมควร ไม่อืดจนอยากปารีโมตทิ้ง แต่ก็ไม่ได้ปรู๊ดปร๊าดเหมือนพวกสมาร์ททีวีระดับไฮเอนด์ ยกเว้นในบางเมนูในแอปฯ ที่ต้องปรับเปลี่ยนการทำงานของรีโมตคอนโทรลให้ทำงานเหมือนเมาส์ ใช้งานแล้วอาจทำให้เกิดข้อสงสัยบ้างว่าทำไมไม่ทำให้สั่งงานได้โดยตรงจากปุ่มปกติบนรีโมต
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 ทำได้เร็ว แรง และใช้งานได้จริง เชื่อมต่อแล้วเล่นแอปฯ สตรีมมิงดูหนังได้สะดวกสบายเลย ที่น่าสนใจคือลำพังตัว Wanbo X5 เองก็สามารถใช้งานแอปฯ สตรีมมิงยอดนิยมทั้งหลายได้เลย ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Netflix, Prime Video, Disney+ หรือว่า HBO Max
นอกจากการ cast จากอุปกรณ์หรือสมาร์ทโฟน Android ได้แล้ว เรายังพบว่า Wanbo X5 ยังรองรับการทำ screen mirroring จากอุปกรณ์ iOS, iPadOS หรือ macOS ได้ด้วย (เลือกไปที่ Eshare-6512 ) นั่นหมายความว่าเราสามารถใช้เครื่องฉายรุ่นนี้ช่วยทำหน้าที่เป็นสื่อการเรียนการสอน ใช้พรีเซ็นต์งาน หรือประกอบการบรรยายได้แบบไร้สาย ไม่ต้องมีสายสัญญาณวิดีโอมาเชื่อมต่อให้ยุ่งยาก
ภาพและเสียง
ก่อนอื่นต้องขอชมเชยลำโพงในตัวที่ให้มาในเครื่องฉายรุ่นนี้ ลำโพงในตัวเสียงดีเลยสำหรับการชมคอนเทนต์ที่เป็นการพูดคุย เช่น ฟังรายการไลฟ์ของ AV Tech Guide เสียงดังชัดเจนและเหมือนตัวจริงมาก หรือจะใช้เพื่อการพรีเซนต์งานทั่วไปก็ได้คุณภาพเสียงที่ดีเลย แต่ถ้าหากใช้ดูหนังหรือคลิปวิดีโอทั่วไป การเพิ่มลำโพงภายนอกอาจทำให้ได้อรรถรสมากกว่า
คราวนี้มาถึงในส่วนของภาพที่ได้จาก Wanbo X5 ต้องบอกว่าความรู้สึกของผู้รีวิวนั้นผสมผสานกันทั้งในส่วนที่รู้สึกไม่ค่อยประทับใจและส่วนที่รู้สึกประทับใจ ประการแรกแม้ว่าตัวเครื่องฉายเองสามารถสตรีมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้โดยตรงแต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง
เราได้ลองใช้งานแอปฯ หลัก ๆ อย่าง YouTube และ Netflix ที่อยู่ในตัวเครื่องฉายโดยตรง พบว่าใน YouTube เลือกความละเอียดภาพได้แค่สูงสุดแค่ 1080p ขณะที่แอปฯ Netflix ในเครื่องเองก็ไม่แสดงคอนเทนต์ HD หรือ HDR นั่นหมายความว่าคนที่ใช้งาน Netflix หากใช้แอปฯ ในตัวเครื่องฉายโดยตรงภาพที่ได้จะยังไม่ใช่ภาพที่มีรายละเอียดสูงเท่าที่ควร
อีกทั้งการควบคุมการเล่นด้วยรีโมตคอนโทรลก็ยังไม่คล่องตัวเท่าอุปกรณ์อย่าง Apple TV 4K หรือในสมาร์ททีวีรุ่นใหม่ ๆ การสั่งงานบางอย่างยังต้องใช้งานรีโมตคอนโทรลในโหมดใช้เป็นเมาส์แทน
สำหรับโหมดปรับภาพ (Picture Mode) เราพบว่าโหมดภาพแบบ Vivid ให้ภาพโดยรวมน่าสนใจกว่า ขณะที่แบบ Standard นั้นสีสันดูจะจืดไปสักนิดโดยเฉพาะเมื่อสตรีมจากแอปฯ ในเครื่องฉายโดยตรง
เราได้ลองเชื่อมต่อแหล่งสัญญาณภายนอกอย่างกล่อง Apple TV 4K โดยเชื่อมต่อกับ Wanbo X5 ทางช่องอินพุต HDMI แล้วลองสตรีมคอนเทนต์ต่าง ๆ จาก Apple TV 4K โดยตรง เราพบว่าการใช้งานในลักษณะนี้ได้ภาพที่ดีขึ้นชัดเจน และมีข้อจำกัดในการเข้าถึงคอนเทนต์น้อยกว่า
เช่นเมื่อสตรีมจาก YouTube เราสามารถเลือกชมคอนเทนต์ 4K (2160p) ที่ความละเอียดระดับ 2160p ได้ ยังไม่รวมถึงการควบคุมสั่งงานด้วยรีโมตคอนโทรลที่สะดวกกว่ากันมาก
ขณะที่การสตรีม Netflix ที่สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ HD ได้ (แต่ไม่แสดง HDR) ช่วยให้ภาพที่ Wanbo X5 ที่ฉายขึ้นจอ 80 นิ้วมีรายละเอียดของภาพมากขึ้นอย่างชัดเจน ดังนั้นใครที่มีกล่องสตรีมมิงคุณภาพดีอยู่แล้วอยากให้ลองเอามาใช้งานกับเครื่องฉายรุ่นนี้ดู เพราะมันจะทำให้ตัวเครื่องฉายสามารถปลดปล่อยศักยภาพของมันออกมาได้อย่างเต็มที่
อีกส่วนหนึ่งที่น่าประทับใจคือ Wanbo X5 ถือว่าเป็นเครื่องฉายราคาประหยัดที่ให้ความสว่างของภาพได้ดีพอจะใช้งานเป็นเครื่องฉายสำหรับโฮมเธียเตอร์ได้ แม้ว่าจะยังไม่สว่างสดใสเท่ากับเครื่องฉายเลเซอร์ 3LCD อย่าง Epson EpiqVision Mini EF 12 ที่เราเคยรีวิวไปแล้วก็ตาม
Wanbo X5 เหมาะกับใคร ?
นี่คือเครื่องฉายราคาประหยัดที่มีความอเนกประสงค์ในการใช้งาน สามารถสู้แสงได้ประมาณหนึ่งเพื่อให้ใช้งานในห้องที่มีแสงสว่างบ้างได้ เช่น การพรีเซนต์งานในห้องประชุมหรืองานบรรยายสัมมนาต่าง ๆ อีกแง่มุมหนึ่งมันสามารถใช้งานเป็นเครื่องฉายสำหรับโฮมเธียเตอร์ย่อม ๆ ภายในบ้านได้ในงบประมาณที่ไม่ต้องคิดเยอะ
สำหรับการรับชมคอนเทต์ผ่านระบบสตรีมมิงต่าง ๆ แอปฯ สตรีมมิงในตัวซึ่งค่อนข้างครอบคลุมแอปฯ ยอดนิยมแล้วถือว่าพอใช้งานได้ คือพอดูได้เพลิน ๆ โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มแล้ว แต่ถ้าจะให้ได้อรรถรสมากกว่านั้นใครที่มีกล่องสตรีมมิงดี ๆ อยู่แล้วควรนำมาต่อใช้งานกับ Wanbo X5 ทีนี้จะดูหนัง ดูคอนเสิร์ต หรือคลิปรายการโปรด ก็จะยิ่งทำให้เครื่องฉายรุ่นนี้มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้นใครที่เคยคิดว่าการมีโรงหนังในบ้านที่ให้อารมณ์คล้ายโรงหนังจริง ๆ เป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อม เราอยากบอกว่าวันนี้ Wanbo X5 ทำให้คุณเอื้อมถึงได้ง่ายขึ้นมากแล้ว
การจัดจำหน่าย
Wanbo X5 วางจำหน่ายแล้วในราคา 8,990 บาท สามารถสั่งซื้อได้ที่ Shopee / Lazada / TikTok และ Nocnoc