รีวิว JVC : HA-ET900BT
หลังจากการเกิดขึ้นของ ‘AirPods’ วงการหูฟังก็เริ่มตื่นตัว และหันมาทำหูฟังไร้สายแบบ True Wireless กันมากขึ้น หรือเรียกง่าย ๆ ว่าทำกันทุกแบรนด์เลยนั่นเอง แต่มีไม่กี่แบรนด์ที่จะทำหูฟังแบบนี้ให้ออกมามีราคาจับต้องได้ง่าย และคุณภาพดี JVC คือหนึ่งในแบรนด์ที่ผมพูดถึง
JVC HA-ET900BT
JVC HA-ET900BT เป็นหูฟัง True Wireless ราคาเพียง 5,990 บาทไทยเท่านั้น ซึ่งในท้องตลาดน่าจะเป็นราคาที่ต่ำที่สุด แต่เรื่องคุณภาพก็ต้องบอกว่าชื่อชั้นของ ‘JVC’ ไม่เป็นสองรองใครในตลาด
ถ้าหากถามถึง JVC กับนักเล่นหูฟัง ส่วนใหญ่คงจะนึกถึงหูฟังซีรีส์ไม้ ไฮเรส อันแสนโด่งดัง เพราะทั้งเสียงดี ดีไซน์สวย และที่สำคัญมันทำจากไม้แท้ ทั้งบอดี้และไดรเวอร์ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ใหม่และไม่มีใครทำมาก่อน แต่คนในวงการก็คงจะคิดว่า JVC เป็นหูฟังแบบเฉพาะกลุ่มเสียส่วนใหญ่ ผมเองก็ยอมรับว่าเป็นหนึ่งคนที่เคยคิดว่า JVC ไม่ใช่หูฟังแมสส์
แต่! ผมเคยมีโอกาสได้คุยกับพี่ ๆ พนักงานเพาเวอร์บายและพี่ ๆ พนักงานดิวตี้ฟรีอย่าง คิงเพาเวอร์ เรื่องของการขายหูฟังว่าจริง ๆ แล้วคนทั่ว ๆ ไปส่วนใหญ่เค้านิยมซื้อหูฟังแบรนด์ไหนกัน คำตอบที่ได้เหมือนกันทั้งสองที่คือ ‘JVC’
ด้วยความสงสัยว่าทำไมคนทั่วไปถึงนิยมแบรนด์นี้กันเยอะ เลยเดินไปดูตามมุมหูฟัง แล้วก็พบว่าหูฟังของ JVC มีหลากหลายรุ่นมาก ๆ และมีหลาก-หลายราคาให้เลือก พอได้ลองฟังหลาย ๆ รุ่นก็พบว่า เฮ้ย! เสียงมันดีใช้ได้เลยนี่นา ทั้ง ๆ ที่ราคาก็ไม่เท่าไหร่ พอได้ลองกับตัวเองถึงเข้าใจว่าจริง ๆ แล้วแบรนด์ JVC เนี่ยทำไมเค้าถึงดังในระดับแมสส์นัก
คงเป็นเพราะเสียงของหูฟังแต่ละรุ่นฟังง่าย มีสไตล์แตกต่างชัดเจน เรียกว่าไม่ต้องเป็นนักฟังหรอกครับ หยิบหูฟังของเค้ามาฟังเทียบสักสองซีรีส์ ฟังไม่ถึงเพลงก็สัมผัสได้ถึงความต่าง และราคาก็เป็นมิตร และนี่ก็คือเหตุผลที่เมื่อผมเห็น JVC HA-ET900BT ออกวางจำหน่าย เลยขอให้ทางพี่เอ็ม (บรรณาธิการบริหาร GM2000) ยืมมาให้ผมทดสอบสักหน่อย
ถูกและดีมีอยู่จริง
เรามาเริ่มกันตั้งแต่แกะกล่องเลยดีกว่าครับ กล่องของหูฟังรุ่นนี้มาสไตล์มินิมัลเล็ก ๆ แกะง่ายไม่ซับซ้อน แกะมาก็จะพบหูฟังและเคสเก็บหูฟังสำหรับชาร์จหนึ่งกล่อง สาย USB จุกยางแบบพิเศษของ JVC และที่พิเศษหน่อยเห็นจะเป็น เคสผ้าที่เอาไว้ใส่เคสหูฟังอีกทีนึง คือสามารถใส่พกพาไปไหนมาไหนกันรอยได้นั่นเอง
ตัวหูฟังมีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด เรื่องดีไซน์ตอนผมเห็นแวบแรก ก็แอบรู้สึกว่ามันดูธรรมดาไปหน่อย คือมาแบบเหลี่ยม ๆ ไม่ค่อยมีลูกเล่น แต่พอใส่เข้าไปในหูจริง ๆ ก็พบว่ามันพอดีและไม่มีส่วนไหนมาเกะกะหูดีครับ อันนี้เค้าคงคิดมาดีแล้ว ผิดที่ผมเองนี่แหละฮา ฮา
ตัวบอดี้ทั้งสองข้างจะมีปุ่มกดข้างละหนึ่งปุ่ม สำหรับเล่นเพลงและหยุดเพลง ตัววัสดุของบอดี้จะมีสองส่วน คือส่วนที่เป็นพลาสติกและส่วนที่เป็นซิลิโคน ทำให้การหยิบจับสะดวกขึ้น เพราะหูฟังค่อนข้างเล็ก การมีส่วนที่เป็นซิลิโคนช่วยในเรื่องนี้ได้มากครับ อย่างผมมือใหญ่ใช้ AirPods ที่บอดี้เล็ก ๆ ลื่น ๆ แล้วหลุดมือประจำ
อีกส่วนที่ต้องชื่นชมคือการออกมาของท่อเสียงที่เอียงเข้ารับกับช่องหู ตรงนี้ถือเป็นซิกเนเจอร์ของ JVC เลยครับ เค้าใส่ใจตรงนี้ตั้งแต่หูฟังรุ่นเล็กยันระดับไฮเอนด์ของเค้าเลยทีเดียว ข้อดีของการออกแบบท่อเสียงแบบนี้ก็คือ มันทำให้เราใส่แล้วกระชับครับ และไม่เจ็บหูด้วย แต่สำหรับใครที่กลัวจะหลุดเวลาวิ่งหรืออยากเพิ่มความมั่นใจ ในกล่องก็มียาง Perfect Fit มาให้ใส่ครับ เป็นยางที่เอาไว้เกี่ยวหูเพิ่มความกระชับนั่นเอง
และทีเด็ดที่สุดก็คือ JVC HA-ET900BT กันน้ำได้ระดับ IPX5 งานนี้เรียกว่าใครหาหูฟังออกกำลังกาย แล้วเป็นคนเหงื่อเยอะระดับน้ำตก หูฟังรุ่นนี้เอาอยู่แน่ ๆ ครับ คนเหงื่อน้อยอย่างผมสบายหายห่วงอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เค้าบอกว่ามัน IPX5 ก็เลยอันสน เอาน้ำใส่ฟ็อกกี้มากระหน่ำฉีดใส่ทดลองดูซะเลย
ซึ่งผลก็ออกมาว่ามันสามารถใช้งานต่อได้แบบสบายหายห่วง (เอาจริง ๆ ตอนทำไม่ได้คิด แต่พอเล่นน้ำเสร็จแล้วจะเปิดนี่ลุ้นน่าดูเลยครับ ถ้าพังขึ้นมาพี่เอ็มคงเลิกให้ผมเขียนรีวิวตลอดไปฮา)
ตัวเคสหูฟังก็มีขนาดกะทัดรัดไม่แพ้กันครับ เรียกว่าเก็บใส่กระเป๋าได้ไม่เกะกะ ด้านหน้าจะมีไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ ในคู่มือระบุว่าหูฟังชาร์จหนึ่งครั้งใช้งานได้ 3 ชั่วโมง ส่วนตัวเคสหูฟังนั้นชาร์จหนึ่งครั้งอยู่ได้ 6 ชั่วโมงครับ และแน่นอนว่าผมไม่เคยใช้จนหมดทั้งคู่เลย เพราะแบตเตอรี่ค่อนข้างอึดใช้ได้
การใช้งานและเสียง
สิ่งที่ผมประทับใจมาก ๆ คือการใช้งานของ JVC HA-ET900BT ที่ง้ายง่าย คือไม่มีอะไรซับซ้อนเลยครับ เปิดเคสหูฟัง เอาหูฟังออกมา มันก็จะทำการเข้าโหมดค้นหาให้เลย ไม่ต้องมานั่งกดแช่เหมือนหูฟังบลูทูธสมัยก่อน เปิดปุ๊บเจอปั๊บ กดเชื่อมต่อจากสมาร์ทโฟนได้เลย แล้วถ้าเคยเชื่อมต่อกันแล้วครั้งต่อไปก็ยิ่งง่ายเลยครับ หยิบหูฟังขึ้นมามันก็เชื่อมต่อกันให้เลย สะดวกสบายดีจริง ๆ
เชื่อมต่อแล้วก็ต้องลองฟัง ก่อนจะพูดถึงเสียงผมขอพูดถึงสัญญาณที่มันค่อนข้างเสถียรของมันหน่อยครับ เพราะตอนแรกด้วยราคาผมไม่ได้คาดหวังมากว่ามันจะต้องเนียนเหมือนหูฟังแบบมีสาย แต่พอได้ลองฟังเพลง ดูหนัง ก็พบว่ามันเนียนแบบที่ไม่มีดีเลย์เลยครับ ผมพยายามตั้งใจดูหนังแล้วโฟกัสไปที่ปากของนักแสดงเวลาพูด ว่าผมจะได้ยินเสียงตรงกับปากมั้ย ดูไปหลายเรื่องก็ไม่พบอาการดีเลย์แต่อย่างใด ตรงนี้ถือว่าสอบผ่านแบบเกินความคาดหมายผมเลยทีเดียว
เสียงของหูฟังรุ่นนี้ต้องบอกว่า ‘ฟังง่าย’ ถ้าใครเคยฟังหูฟัง JVC ที่เป็นรุ่นใหญ่ ๆ คงจะรู้สึกว่าเป็นหูฟังที่มีสไตล์จัด คือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ได้เข้าถึงทุกคนเท่าไหร่นัก แต่สำหรับหูฟังระดับแมสส์ของแบรนด์นี้ ต้องบอกว่าเค้าดีไซน์เสียงออกมาให้เข้าถึงง่ายจริง ๆ ครับ
ความโดดเด่นของหูฟังรุ่นนี้เลยคือเสียงย่านทุ้ม ที่มาแบบเนื้อ ๆ เน้น ๆ ฟังเอาสนุก แต่ไม่ใช้ทุ้มบวม ๆ เบลอ ๆ แบบหูฟังราคาถูกทั่วไปนะครับ เรียกว่าเยอะแบบคุณภาพ เวทีเสียงของหูฟังรุ่นนี้อาจจะไม่ได้รู้สึกถึงด้านกว้างมากนัก คือฟังแล้วไม่อึดอัดแต่ไม่ได้ออกแนวโปร่งฟังสบายอะไรแบบนั้น จะได้ทดแทนกันก็เรื่องมิติด้านลึกที่ทำได้ค่อนข้างดี ดูหนังสนุกมาก ๆ
และแน่นอนหูฟังแมสส์ ๆ นอกจากเบส เสียงร้องก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ หูฟังรุ่นนี้ก็ดีไซน์เสียงตรงนี้ออกมาได้ดีครับ ฟังแล้วรู้สึกว่าเสียงกลางโดดเด่นออกมาชัดเจน แต่ก็ไม่รู้สึกว่าล้ำหน้าจนน่ารำคาญ โดยรวมเป็นหูฟังที่ฟังเพลงได้หลากหลาย ฟังเอาสนุก ๆ เพลิน ๆ ได้สบายมาก และถ้าเทียบกับหูฟังที่เป็น True Wireless ด้วยกัน ก็นับได้ว่าเป็นหูฟังที่ให้เสียงดีเป็นอันดับต้น ๆ ของราคานี้เลยละครับ
สรุป
ใครที่กำลังมองหาหูฟังออกกำลังกายแบบ True Wireless ที่ใช้งานง่าย พกพาสะดวก เสียงดี และที่สำคัญราคาไม่แพง JVC HA-ET900BT เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เลยละครับ อยากให้หาโอกาสไปลองฟังด้วยตัวเองดูสักครั้งจริง ๆ ครับ
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บริษัท เจวีซีเคนวูด (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2274-1770
ราคา 5,990 บาท