รีวิว HyperX : Cloud Mix
วันนี้ผมจะมารีวิวหูฟังเกมมิ่งครับ!
ผมกลับมาอีกแล้วครับ หลังจากคราวที่แล้วรีวิวหูฟังวิ่งกันไป มาคราวนี้ผมไปอีกขั้นแล้วครับกับการรีวิวหูฟังเกมมิ่ง!
เอาจริง ๆ ผมก็อยู่กับหูฟังเครื่องเสียงมานานเขียนรีวิวมาก็เยอะ แต่บอกตามตรงว่าเพิ่งเคยได้ทดสอบ ทดลองหูฟังเกมมิ่งจริง ๆ จัง ๆ ก็เจ้า HyperX Cloud Mix นี่แหละครับ และพอผมได้ลองผมอยากจะบอกกับทาง HyperX เลยว่า โฆษณาหูฟังรุ่นนี้ว่าเป็น “หูฟังครอบจักรวาล” แทนหูฟังเกมมิ่งเถอะครับ!
อย่าให้คำว่าเกมมิ่งหลอกคุณ
ก่อนเข้าเรื่องผมขอนอกเรื่องไปเรื่องเมาส์สักนิดนะครับ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับยุคหลัง ๆ เนี่ยคำว่าเกมมิ่งเกียร์มันเริ่มแพร่หลายมากขึ้น อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ดี ๆ ก็มักจะมากับคำว่า “เกมมิ่ง” ซึ่งก่อนหน้าผมเจ็บปวดกับเมาส์ของ mac มานาน คือมันสะดวกในฟังก์ชัน แต่การจับการใช้มันทำเอาผมปวดข้อมือบ่อย ๆ
พอจะหาเมาส์ดี ๆ เค้าก็เชียร์แต่เกมมิ่งเกียร์ แล้วใจผมก็รู้สึกว่าจะซื้อมาทำงาน ไม่ได้จะซื้อมาเล่นเกม!
แต่นั่นแหละครับสุดท้ายผมก็ลองเปิดใจซื้อเมาส์เกมมิ่งมาใช้เพราะทนปวดข้อมือไม่ไหว แล้วก็พบว่าการใช้เมาส์เกมมิ่งมันคือ “สวรรค์” ของข้อมือชัด ๆ เลยครับคุณผู้ชม !
เกริ่นมานานไม่ใช่อะไร กับหูฟังเกมมิ่งก็เหมือนกันโดยเฉพาะเมื่อทางกองบรรณาธิการบอกจะส่ง HyperX Cloud Mix มาให้ผมรีวิว ในใจผมคิดว่า ผมเล่นเกมอยู่เกมเดียวคือ ROV ซึ่งมันไม่ได้ต้องใช้มิติเสียงดีงามอะไรขนาดนั้น
แต่อีกใจก็คิดว่าน่าลองเหมือนกันนะ จึงอาสาเอามาลองแล้วก็นั่นแหละครับ พอได้ลองผมขอบอกเลยว่าอยากให้แบรนด์เลิกใช้คำว่าเกมมิ่งไปเลย เพราะสำหรับผมหูฟังรุ่นนี้มันตอบโจทย์ชีวิตผมมากกว่านั้นเยอะ!
ใส่สบายสมชื่อ Cloud
มาครับหูฟังรุ่นนี้มันต้อบโจทย์ผมยังไงบ้างผมจะเล่าให้ฟัง เริ่มแรกเลยคือมันใส่สบายมาก ๆ แบบมาก ๆ แพดหนังนุ่มมากกกกกกก และตัวก้านไม่บีบหัวเลยมีความยืดหยุ่นสูงมาก
ปัญหาชีวิตผมหลังจากต้องใส่แว่น คือหาหูฟังฟลูไซส์ที่ใส่นาน ๆ ได้ยากมาก เพราะมันเจ็บครับ ซึ่ง HyperX Cloud Mix นี่ผมใส่ได้ทั้งวันแบบไม่เจ็บเลย
ไมค์ดี แบตฯ อึด เชื่อมต่อง่าย
พอหูฟังใส่สบายผมก็ใส่นาน ใส่บ่อย ใส่ไม่หยุด ใส่ทำมันทุกอย่างเลยครับ ! อ๋ออีกอย่างนะครับ มันเชื่อมต่อง่ายและเร็วมาก ๆ สมกับที่ใช้เทคโนโลยีบลูทูธ 4.2
และในโหมดบลูทูธยังรองรับเทคโนโลยี aptX Low Latency ซึ่งมีความหน่วงช้าในการส่งสัญญาณไร้สายในระดับต่ำมาก ๆ (อันนี้สำคัญมากสำหรับการเล่นเกมและการดูคลิปวิดีโอ) แบตเตอรี่ในตัวใช้งานในโหมดไร้สายได้นานถึง 20 ชั่วโมง
คือหลัง ๆ ผมทำงานอยู่บ้านบ่อยขึ้น ทำงานที่ต้องมีคุยโทรศัพท์ประชุมงานนู่นนี่อยู่เกือบตลอด ก่อนหน้านี้ก็อาศัยฟังเพลงจากหูฟังตัวนึง พอจะโทรศัพท์ก็หาอะไรมาวางให้โทรศัพท์มันสูง ๆ เอา คือใช้ฟังเสียงจากหูฟัง แล้วพูดใส่โทรศัพท์เอานั่นแหละ ซึ่งมันลำบากมากครับ แต่มันดันชินเลยรู้สึกว่าไม่ได้เดือดร้อนมาก
จนได้มาใช้ HyperX Cloud Mix นี่แหละ ที่แบตฯ อึดมากชาร์จครั้งเดียวใช้ลืม แล้ววันนึงผมใช้ฟังเพลงอยู่ดี ๆ ก็มีโทรศัพท์เข้าครับ และแน่นอนผมกดรับ และพูดคุยผ่าน HyperX Cloud Mix ขุ่นพระ! นี่มันสวรรค์ชัด ๆ
คือต้องบอกอย่างนี้ก่อนครับ HyperX Cloud Mix เนี่ยจะมีไมค์อยู่สองแบบ คือถ้าคุณเชื่อมต่อบลูทูธก็จะมีไมค์ในตัวเลย แต่ถ้าต่อสายกับคอมพิวเตอร์ก็จะมีไมค์บูมต่อมาให้ สายสัญญาณที่ให้มาเป็นสายถักแบบถอดแยกได้พร้อมระบบควบคุมเสียง in-line ปรับระดับเสียงหรือปิดเสียงได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเข้าไปที่หน้าเมนู
ตอนผมได้ HyperX Cloud Mix มาลองแรก ๆ ผมก็ไม่ได้สนใจฟังก์ชันนี้เท่าไรหรอกครับ เพราะคิดว่าถ้าอยากได้เสียงดี ๆ คงต้องต่อสายต่อไมค์วุ่นวาย แล้วโต๊ะทำงานผมมันมีพัดลมเล็ก ๆ ที่วางไว้เป่าหน้าให้สดชื่นตลอดเวลาอยู่ด้วย ไมค์จากบลูทูธคงไม่เหมาะที่จะใช้งาน
แต่ที่ไหนได้ พอผมรับสายด้วย HyperX Cloud Mix คนที่คุยด้วยกับผมถึงกับแซวว่า “วันนี้ไม่ได้อยู่หน้าคอมพ์หรอ” ใช่ครับ ปกติถ้าอยู่หน้าคอมเสียงพัดลมมันจะเข้า แต่พอผมรับสายด้วย HyperX Cloud Mix ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
พอรู้ว่าไมค์ดี ก็ถึงเวลาลองกับเกมบ้างแล้วครับผม หลังจากทำงานเสร็จผมโทรหาชาวแก๊ง ROV ของผมแล้วบอกว่าทุกคนเปิดไมค์ !
คืออย่างนี้ครับ ปกติเวลาเล่นเกมนี้มันต้องสื่อสารการตลอดเวลาถึงจะสนุก แต่ก็เหมือนเดิมผมไม่มีหูฟังที่มีไมค์ดี ๆ มาก่อน เวลาคุยกับใครเค้าก็ไม่ค่อยได้ยินผมเลยขอมาแก้ตัวด้วยการใส่ HyperX Cloud Mix เล่นเกมกับชาวแก๊งซะเลย
แล้วผลลัพธ์มันก็ยอดเยี่ยมไปเลยละครับ ทุกคนฟังผมรู้เรื่อง (ฮา ๆ) มันทำให้การเล่นเกมของผมสนุกขึ้นเยอะ !
ฟังเพลงได้ ดูหนังดี เล่นเกมเด่น
และที่สำคัญที่สุดเลยที่ผมอยากยกฉายา หูฟังครอบจักรวาล ให้กับ HyperX Cloud Mix ก็คือเรื่องเสียงนี่แหละครับ หูฟังรุ่นนี้ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 10Hz ถึง 40kHz ใช้ไดรเวอร์ HyperX Dual Chamber Drivers ที่แยกห้องอากาศสำหรับเสียงเบส ออกจากเสียงกลางและสูง เพื่อให้เสียงมีความคมชัดและกลมกลืนมากกว่า ช่วยให้เสียงเพี้ยนน้อยกว่า
ขอเริ่มที่เกมก่อนนะ และต้องขอสารภาพและออกตัวก่อนเลยว่าผมเล่นเกมอ่อนมาก (ฮา ๆ) คือ ผมก็พยายามจะหาเกมที่ต้องอาศัยการฟังอย่างพวกเกมยิงมาเล่นเพื่อทดสอบนะครับ
ผลที่ได้คือโอเค ผมรับรู้ได้เลยว่าหูฟังรุ่นนี้ให้มิติเสียงหน้าหลังสายขวาได้ดีมาก ๆ แต่ด้วยความที่ผมก็เล่นไม่เก่งและไม่ค่อยถนัดเลยไม่สามารถบอกได้เต็มปากเต็มคำว่า ในการเล่มเกม HyperX Cloud Mix จะช่วยให้คุณเล่นได้ดีขึ้นอย่างไรบ้างเลยข้อเว้นไว้ละกันครับ
แต่ ! ถ้าจะทดสอบเรื่องมิติเสียง มันก็ไม่ได้มีแค่กับเกมใช่มั้ยละครับ ผมเลยเอามาดูหนังซะเลย แล้วผมก็เสพติด HyperX Cloud Mix ไปเลยครับ
คือว่าพอมีลูกเวลาดูหนัง ผมก็ดูได้เบา ๆ ครับ ต่อให้มานั่งดูหนังชั้นล่าง แต่ถ้าเปิดดังมันก็มีเสียงขึ้นไปด้านบน ลูกผมก็ดันตื่นง่าย หลัง ๆ เลย การดูหนังของผมแทบจะปิดเสียงอ่านซับเอาเลยละครับ
แต่พอได้ HyperX Cloud Mix การดูหนังของผมก็สนุกกว่าเดิมหลายเท่า เรียกว่ากระหึ่มซะใจ มิติเสียงสมจริงเลยทีเดียว คือผมเองก็ไม่เคยได้ลองหูฟังเกมมิ่งรุ่นอื่น ๆ นะครับ แต่ถ้าให้เทียบกับหูฟังที่เน้นการฟังเพลงทั่วไป HyperX Cloud Mix ถือเป็นหูฟังที่ดูหนังดีมาก ๆ เลยสำหรับผม
สุดท้ายคือเรื่องของการฟังเพลง จริง ๆ HyperX Cloud Mix เค้าชูเรื่อง Hi-Res Audio ด้วยนะครับ แต่สำหรับผมไม่ค่อยใช่ประเด็น เพราะจริง ๆ ผมว่าฟังผ่านบลูทูธมันสะดวกกว่า และที่สำคัญมันให้เสียงที่ดีในระดับที่ฟังเอาเรื่องได้เลยนะ
คือพอชูว่าเป็นเกมมิ่ง ใจผมก็คิดไปก่อนเลยว่าถ้าเอามาฟังเพลงคงเอามาฟังคลอ ๆ ฟังผ่าน ๆ ที่ไหนได้ HyperX Cloud Mix ให้เนื้อเสียงที่ฟังเพลงเพราะเลยล่ะ
ในส่วนย่านเสียงต่ำที่เวลาดูหนังมันให้แน่น ๆ ลูก ๆ พอเอามาฟังเพลง กลับไม่เบลอบวมเลยนะครับ แถมเสียงร้องก็น่าฟัง โดยภาพรวมถือว่าฟังเพลงเอาจริงจังได้เลย แถมได้หลายแนวซะด้วย
คือถ้าคุณมองหาหูฟังที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไปทางใดทางหนึ่งอาจจะไม่เหมาะกับรุ่นนี้ แต่ถ้าคุณคือมิวสิคเลิฟเวอร์ผมบอกเลยว่านี่แหละหูฟังที่ใช่
หูฟังรุ่นนี้เหมาะกับใคร
ประเด็นสุดท้ายคือหูฟังรุ่นนี้เหมาะกับใคร สำหรับผมนะครับถ้าตัดคำว่าเกมมิ่งออก หูฟังรุ่นนี้เหมาะกับมิวสิคเลิฟเวอร์ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย คือชอบฟังเพลงดูหนังเล่นเกมคุยงาน อยากได้หูฟังตัวเดียวจบที่ใส่สบายด้วย พกพาง่ายด้วยถ้าที่ผมพูดมาคือคุณ HyperX Cloud Mix หูฟังรุ่นนี้เกิดมาเพื่อคุณเลยครับ
ในโหมดต่อสายสามารถใช้งานได้กับ PC, PS4, Xbox One, Mac, อุปกรณ์พกพา, Nintendo Switch, VR6 และอุปกรณ์อื่นที่ใช้พอร์ต 3.5mm
แต่ถ้าคุณต้องการหูฟังที่โดดเด่นชัดเจนไปในทางใดทางหนึ่ง HyperX Cloud Mix ก็อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่นัก เพราะดูจะทำได้ “ดี” ในหลาย ๆ ด้าน แต่ถ้าจะให้สุดไปทางใดทางหนึ่งนั้นก็ยังไม่ใช่ แต่ผมก็ขอออกตัวก่อนนะครับว่า HyperX Cloud Mix อาจจะสุดในทางเกมมิ่งก็ได้เพียงแต่ผมเองก็ไม่ได้ถนัดนัก เลยขอพูดตามความรู้สึกที่มีต่อหูฟังรุ่นนี้แทน
สุดท้ายไม่ว่าอย่างไร ผมก็อยากให้ทุกคนได้ไปลองฟังลองจับลองเล่นด้วยหูตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อกันนะครับ ขอบคุณครับ