fbpx

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

รีวิว FujiFilm : X-Pro2

“น้องนิคสนใจทดสอบกล้อง Fuji X Pro 2 ไหม” เสียงจากพี่ติ๊ดตี่เลขากองบรรณาธิการคนสวยของ GM2000 ถามผม “เอามาเลยครับ” ผมตอบไม่ต้องคิดเพราะนอกจากผมจะเป็นแฟนฟูจิอยู่แล้วผมยังมีแผนจะไปเชียงใหม่อีกด้วย!

ก่อนหน้านี้ผมเป็นแฟนฟูจิมาตั้งแต่ X10 รุ่นแรกเลยละครับ จริงๆ ก็เป็นแฟนตั้งแต่ X100 รุ่นแรกนั่นแหละแต่ไม่มีเงินซื้อฮาๆ จะว่าไปหากย้อนกลับไปสักสี่ห้าปีก่อนหน้านี้ต้องบอกว่าฟูจิ ถือเป็นแบรนด์กล้องที่สร้างกระแสให้ตลาดกล้องเล็กกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งเลยก็ว่าได้เพราะเป็นช่วงที่กล้องคอมแพ๊คถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟนจนตลาดกล้องเล็กเงียบเหงากันไปหมดกล้อง Mirrorless ก็ยังไม่เป็นที่คุ้นเคยของคนทั่วไปนัก จนกระทั่งฟูจิออกกล้อง X-Series มานั่นแหละครับคำว่า Mirrorless จึงถูกพูดถึงเป็นวงกว้างมากขึ้น! จนปี 2016 ฟูจิก็ได้ออกกล้องระดับเรือธง Fuji X-Pro 2 ตัวนี้ออกมาเขย่าตลาดกล้องอีกครั้ง!

ดีไซน์
รูปลักษณ์ภายนอกหากมองไกลๆ บอกได้เลยครับว่าแทบจะแยกไม่ออกว่านี่คือ X-Pro 1 หรือ X-Pro 2 กันแน่ แต่หากนำมาดูใกล้ๆ ก็จะพบจุดที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร สิ่งที่เพิ่มมาคือระบบซีลกันน้ำและฝุ่นละอองรอบตัว

ด้านหน้าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดคือกริปที่ดูสวยขึ้น หุ้มยางกันลื่น ส่วนตัวเท่าที่ลองพบว่าผมจับถนัดกว่า X-Pro 1 ครับทั้งๆ ที่กริปของ X-Pro 2 แต่ถ้าจะตินิดหน่อยก็ตรงที่ขอบกริปจะคมไปนิดนึงจับแรกๆ ไม่ชินมีเจ็บมืออยู่เหมือนกันแต่พอใช้งานจนคล่องก็สามารถจับได้ถนัดอยู่มือและก็ไม่เจ็บมือเหมือนช่วงแรกๆ ครับ

ด้านบนวงแหวนปรับความเร็วชัตเตอร์เลือกได้ถึง 1/8000 วินาที และเพิ่มการปรับความไว้แสงเข้ามา ส่วนด้านหลังเรียกว่าเปลี่ยนใหม่หมดยกเครื่อง การวางปุ่มควบคุมต่างๆ เปลี่ยนไปอยู่ทางขวามือทั้งหมด ซึ่งส่วนตัวหลังจากที่ทดลองใช้แล้วรู้สึกชอบการวางปุ่มแบบนี้มากกว่า X-Pro 1 เยอะเลยครับ จอ LCD ขนาดเท่าเดิมแต่รายละเอียดเพิ่มขึ้น และจอ LCD ของ X-Pro 2 ถูกย้ายไปอยู่ซ้ายสุด การออกแบบๆ นี้ทำให้การควบคุมต่างๆ นั้นง่ายขึ้นมากครับ

พอเริ่มชินมือผมสามารถควบคุมกล้องด้วยมือขวาข้างเดียวได้เลยตรงนี้ผมค่อนข้างประทับใจทีเดียว อีกส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Focus Shifter ที่ทำให้เราสามารถเลือกจุดโฟสกัสได้สะดวกมากๆ ช่องใส่การ์ดของ X-Pro 2 เพิ่มมาเป็น 2 ช่องรองรับ USHII ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของกล้องเร็วมากยิ่งขึ้น

คุณสมบัติ
Fuji X-Pro2 ใช้เซ็นเซอร์ X-Trans CMOS III รายละเอียด 24 ล้านพิกเซลต่างจาก X-Pro 1ที่ใช้ X-Trans CMOS I รายละเอียด 16 ล้านพิกเซล หากดูจากตัวเลขก็อาจจะดูไม่เยอะเท่าไหร่นะครับแต่ไฟล์ภาพที่ได้นั้นต้องบอกว่าดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตากันเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องของรายละเอียด สีสัน และความคมชัด อีกจุดที่ Fuji X-Pro2 พัฒนามาแบบเหนือชั้นแซงหน้าเพื่อนรวมวงการหลายๆ รุ่นไปไกลคือเรื่องการจัดการ Noise ครับ ผมลองถ่ายที่ ISO200 ภาพที่ได้นั้นเนียนตาไร้ Noise ให้เห็นเลย และแม้ว่าผมจะลองดัน ISO ขึ้นไปสูงถึง 3200 รูปที่ได้ก็ยังคงคุณภาพระดับที่ใช้งานได้จริงอยู่

ถ้าหากจะเริ่มเห็น Noise อยู่บ้างก็ต้องดัน ISO6400 นู่นครับ แต่เท่าที่ลองดันไปสูงถึง ISO 12800 ก็พบว่า Noise จะเริ่มเห็นชัดแล้ว แต่! ผมก็ว่าเป็น Noise ระดับที่ยังนำไปใช้งานได้นะครับถ้าเทียบกับกล้องรุ่นอื่นๆ ในตลาดช่วงนี้ผมว่า Fuji X-Pro2 ให้คุณภาพที่เหนือชั้นกว่ามากทีเดียว

อีกจุดเด่นของ Fuji X-Pro 2 ตัวนี้คือช่องมองภาพแบบ Optical Viewfinder ที่เป็นระบบ Hybrid ความดีงามของมันคือเราสามารถมองภาพตรงๆ จากช่องมองภาพได้พร้อมมีข้อมูลต่างๆ แสดงในช่องมองภาพทั้งหมด! ตรงจุดนี้มันเพิ่มความสะดวกให้เราอย่างมากครับเพราะสามารถแสดงขอบเขตของภาพตามเลนส์ที่เราใช้และแก้พาราแรกซ์ให้อัตโนมัติแถมยังแสดงจุดโฟกัสให้ด้วยและยังสามารถขยายจุดโฟกัสให้ขึ้นมาแสดงด้านมุมขวาล่างของช่องมองภาพได้ด้วยครับ ความดีงามของฟังก์ชั่นนี้คือมันทำให้เราสามาดูโฟกัสได้ง่ายและแม่นยำมากๆ อีกด้วย ระบบโฟกัสที่ดีขึ้นอย่างน่าประทับใจ!

สิ่งที่ดีงามที่สุดของกล้อง Fuji X-Pro2 คือเรื่องของโฟกัสที่เร็ว! เร็วขึ้นขนาดที่ว่าคนละเรื่องกับ X-T1 หรือ X-Pro1 แบบที่เรียกว่าห่างชั้นกันเลยครับ เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากๆ เพราะก็อย่างที่บอกว่าผมเป็นแฟนฟูจิคนหนึ่งเหมือนกันซึ่งกล้องตระกูล X ที่ออกมาก่อนหน้านี้ผมเจอปัญหาโฟกัสช้ามาตลอด จะมีก็ X-T1 ที่ปรับปรุงมาได้ดีพอสมควร แต่พอมาถึง X-Pro2 ตัวนี้ต้องบอกว่าดีขึ้นไปแบบก้าวกระโดด และยังแม่นยำมากๆ ด้วยครับเท่าที่ผมลองใช้งานนี่แทบไม่เคยเจออาการหลุดเลยสักครั้ง

และอีกจุดที่น่าประทับใจคือ X-Pro2 มีเซ็นเซอร์แบบ Phase Detection ถึง 169 และ Contrast Detection อีก 273 จุด ทั้งหมดครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของภาพเลยก็ว่าได้ครับ เรียกว่าถือกล้องไว้แล้วเลือกจุดโฟกัสกันให้สนุกไปเลย ตรงจุดนี้ผมบอกได้เลยว่าความไวและแม่นยำในการโฟกัสของ Fuji X-Pro2 จัดอยู่แถวหน้าของวงการ Mirrorless อย่างแน่นอนครับ!

ใช้งานจริง
หลังจากรายยาวเรื่องของคุณสมบัติต่างๆ ไปแล้วก็ถึงเวลาใช้งานจริงกันบ้างครับ อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าผมมีแผนไปเชียงใหม่ไม่ได้ไปเที่ยวหรอกครับ แต่ก็คิดว่าคงได้ถ่ายวิวสวยๆ กลับมาบ้าง แต่! พอกล้องมาถึงผมก็พบว่าทางฟูจินั้นส่ง Fuji X-Pro 2 มาพร้อมกับเลนส์ FUJINON XF56mmF1.2 ครับ! งานนี้ต้องบอกว่าผิดคาดเลยครับเพราะตอนแรกคาดว่าจะมาพร้อมเลนส์ 35mm พอเป็น FUJINON XF56mmF1.2 งานนี้ผมเลยต้องเปลี่ยนแผนไปหานางแบบมาถ่ายแทนแผนไปเที่ยววัดเลยละครับฮาๆ

ว่ากันด้วยเรื่องการจับถือและการควบคุมก่อนเลยสำหรับผมจุดนี้ผมให้ความสำคัญมากๆเพราะถ้าจับถือไม่ถนัดควบคุมไม่สะดวกสำหรับผมมันจะทำให้ไม่อยากจะหยิบกล้องตัวนั้นมาถ่ายไปเลย สำหรับ Fuji X-Pro 2 ตัวนี้เท่าที่ลองแรกๆ ต้องมีการปรับตัวอยู่บ้างครับเพราะกล้องมีขนาดใหญ่และหนักแต่กริปนั้นค่อนข้างเล็ก การวางนิ้วแรกๆ ถ้ายังไม่ชินผมพบว่ามีอาการเมื่อยและเจ็บมืออยู่บ้าง แต่พอหาวิธีการวางนิ้วได้งานนี้ก็จับถือได้สบายมือครับ น้ำหนักที่คิดว่าหนักในตอนแรกพอจับถนัดมือแล้วก็ช่วยให้การถือกล้องของเรานิ่งมากขึ้นด้วยครับ

การควบคุมปุ่มต่างๆ ทำได้ง่ายมากเพราะอยู่ด้านขวาทั้งหมด จุดนี้อาจจะเพราะผมถนัดมือขวาอยู่แล้วด้วยเลยรู้สึกว่ามันค่อนข้างสะดวกเวลาใช้งานในรูปแบบการวางปุ่มแบบนี้ หลังจากจับๆ ถือๆ ลองปุ่มต่างๆ เสร็จก็ถึงเวลาเอาออกไปถ่ายรูปจริงๆ จังๆ แล้วละครับ จากการที่ได้ลองเอากล้องไปถ่ายดูต้องบอกว่ากล้องตัวนี้เป็นกล้องที่ถ่ายสนุกมากๆ คือด้วยการควบคุมที่ง่าย แต่หวังผลได้จริงคือความเร็วของระบบออโต้โฟกัสนั้นรวดเร็วและหวังผลได้มากๆ ผมเอาไปถ่ายมาหลายร้อยรูปจะมีพลาดโฟกัสหลุดไปบ้างก็ด้วยความผิดพลาดของตัวเองล้วนๆ

อีกอย่างที่พอใช้งานจริงแล้วรู้สึกชอบมากๆ คือปุ่มเลื่อนจุดโฟสที่เป็นแบบ Joystick หมุนได้รอบทิศทางบวกกับจำนวณพื้นที่ๆกล้องตัวนี้สามารถโฟกัสได้เกือบทั้งภาพมันทำให้การถ่ายภาพสนุกมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว คือเราสามารถที่จะกดเลื่อนไปตามจุดโฟกัสต่างๆ ได้โดยใช้เพียงนิ้วโป้งนิ้วเดียวเท่านั้น ปกติแล้วหากเราจะเลื่อนจุดโฟกัสในกล้องรุ่นอื่นๆ ไม่มีทางที่จะทำแบบนี้ได้เลย แถมระบบโฟกัสของ X-Pro 2 ยังไว้ใจได้อีกด้วยไม่ใช่เลื่อนๆ ไปพอกดชัตเตอร์แล้วหลุด เท่าที่ผมลองกับเลนส์ FUJINON XF56mmF1.2 ต้องบอกว่าทำงานควบคู่กันไปได้อย่างราบรื่นรวดเร็วและแม่นยำมากๆ F1.2 ของเลนส์ตัวนี้ใช้งานได้จริงๆ ไม่เจออาการหลุดโฟกัสเลยสักภาพเลยเท่าที่ได้ลองมา

ผมได้ลองถ่ายในที่ๆ แสงน้อยๆ การที่มี F1.2 มาช่วยก็ทำให้ได้ภาพสวยๆ มาแบบไม่ต้องเหนื่อยมากหรือไม่ต้องดัน ISO ขึ้นไปสูงนักเพราะตัวเลนส์สว่างและเก็บรายละเอียดได้ดีอยู่แล้ว แต่ผมก็ได้ลองปรับรูรับแสงให้แคบแล้วดัน ISO ขึ้นไปสูงๆ เพื่อที่จะทดสอบเรื่องของ Noise ดูก็ต้องบอกว่าถึงคุณจะไม่มีเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างๆ ก็แทบจะไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการถ่ายภาพในที่ๆ แสงน้อยๆ เลยเพราะ ISO ของกล้องตัวนี้ทำได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถใช้งาน ISO 3200 ได้แบบสบายๆ หายห่วงเลยละครับ

สรุป
สำหรับผมกล้อง Fuji X-Pro 2 ตัวนี้เป็นกล้องที่ผมได้ลองแล้วต้องหลงรักไม่ว่าจะรูปลักษณ์ที่สวยงามคลาสสิค การปรับปรุงพัฒนาที่ทำมาได้อย่างน่าประทับใจ งานนี้ต้องขอชมว่าฟูจิทำการบ้านมาแก้จุดที่ผมรู้สึกขัดอกขัดใจตอนได้ลองใช้ X-Pro 1 ออกไปจนหมด และอีกสิ่งที่พัฒนาไปไกลที่สุดเท่าที่ฟูจิเคยทำมาก็คือเรื่องของความไวโฟกัสที่หากใครเคยใช้กล้อง X-Series รุ่นเก่าๆ มาก่อน แล้วมาลอง X-Pro 2 ตัวนี้รับรองว่าจะต้องปลื้มอย่างแน่นอน

เรื่องคุณภาพของไฟล์ภาพที่ได้นั้นก็ไม่ใช่คุณภาพแบบถ่ายเล่นสนุกๆ แล้วเก็บไว้ดูเองเท่านั้น แต่คุณภาพที่ได้ต้องบอกว่านำไปใช้งานจริงๆ ส่วนตัวผมยกให้ Fuji X-Pro 2 เป็นเบอร์ต้นๆ ทั้งในเรื่องของความคมชัด ไดนามิกของสีและการจัดการ Noise เลยครับ ส่วน FUJINON XF56mmF1.2 ที่ผมได้มาทดสอบคู่กับกล้องนั้นก็ดีงามไม่แพ้กัน คุณภาพของภาพที่ได้นั้นคมชัดใสแจ๋วและยังใช้งานแบบหวังผลได้ตั้งแต่ F1.2 เลยละครับ หากใครกำลังมองหากล้อง Mirrorless ที่ให้คุณภาพของภาพระดับมืออาชีพแต่ใช้งานง่ายรูปลักษณ์สวยงามอยู่ละก็ผมอยากจะหาโอกาสไปลองเล่น Fuji X-Pro 2 ตัวนี้ดูสักครั้งครับรับรองจะติดใจอย่างแน่นอน!

อชิร รวีวงศ์

Content Contributor ที่ชื่นชอบในการทำคอนเทนต์ทุกรูปแบบ และยังหลงใหล คลั่งไคล้ไปกับเครื่องเสียง หูฟัง กล้อง และแก๊ดเจ็ททุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับภาพและเสียง!