รีวิว CAMBRIDGE AUDIO : AXC25, AXA25 “คู่หูไฮไฟระดับเริ่มต้น คุณภาพเสียงล้นเกินค่าตัว”
ในยุคที่เครื่องเสียงแบบรวมชิ้นออกแบบได้น่าสนใจมากขึ้นตามกาลเวลา ขณะเดียวกันเครื่องเสียงแบบแยกชิ้นก็ยังคงมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่สามารถดึงดูดให้ผู้ที่เริ่มสนใจเครื่องเสียงไฮไฟก้าวเข้ามาในโลกของไฮไฟสเตริโอด้วยความสมัครใจ ด้วย passion ที่มีต่อเครื่องเสียงไฮไฟว่าเป็นอะไรได้มากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปภายในบ้าน
CAMBRIDGE AUDIO (เคมบริดจ์ออดิโอ) แบรนด์เครื่องเสียงไฮไฟสัญชาติสหราชอาณาจักร ก็เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่มีเครื่องเสียงแยกชิ้นระดับเริ่มต้นออกมาให้เป็นทางเลือกด้วยเช่นกัน
โดยเครื่องเสียง AX Series รุ่นเริ่มต้นของพวกเขาอย่างเครื่องเล่นซีดีรุ่น AXC25 และอินทิเกรตแอมป์รุ่น AXA25 เป็นเครื่องเสียงแยกชิ้นแบบฟูลไซส์ที่มาพร้อมกับค่าตัวที่เข้าถึงได้ง่าย เพราะเขาขายที่เครื่องละ 9,900 บาท เท่านั้นเอง
คุณสมบัติและการออกแบบ
เครื่องเล่นซีดีรุ่น AXC25 และอินทิเกรตแอมป์รุ่น AXA25 ออกแบบเป็นเครื่องเสียงแยกชิ้นแบบฟูลไซส์ หน้าปัดกว้าง 16.9 นิ้ว ที่มาพร้อมกับดีไซน์เรียบหรูดูดีในแบบฉบับเครื่องเสียงสไตล์ยุโรป แน่นอนว่าหน้าตาของเครื่องเสียงทั้ง 2 รุ่นก็แมตช์กันด้วยเช่นกัน
CAMBRIDGE AUDIO AXC25 ออกแบบเป็นเครื่องเล่นซีดีที่สามารถเล่นได้ทั้งแผ่นซีดีออดิโอมาตรฐาน รวมทั้งแผ่นดิสก์ CD-R, CD-RW หรือ CD-ROM แบบ Data CD ที่บรรจุข้อมูลไฟล์เพลงในรูปแบบ MP3 หรือ WMA เอาไว้ในแผ่น ตัวเครื่องยังสามารถเล่นแผ่นซีดีได้แบบ gapless playback ได้ด้วย
ไฮไลต์ของเครื่องเล่นซีดีรุ่นนี้คือ วงจรภาคแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอะนาล็อกที่เลือกใช้ชิป DAC คุณภาพสูง รหัส WM8524 จาก Wolfson Microelectronics ซึ่งรองรับสัญญาณเสียงดิจิทัลรายละเอียดสูงถึงระดับ 24bit/192kHz
การเลือกใช้ชิป DAC ที่รองรับ hi-res audio เช่นนี้มาใช้งานในเครื่องเล่นซีดีที่มีความละเอียดของสัญญาณดิจิทัลเพียง 16bit/44.1kHz เท่านั้น มีผลดีในแง่ของการรักษาทุก ๆ บิตจากแผ่นซีดีให้ตกหล่นน้อยที่สุด รวมทั้งความเป็นเชิงเส้นในการถ่ายทอดรายละเอียดสัญญาณเล็ก ๆ น้อย ๆ (low level detail) ทำให้เครื่องเล่นซีดีคุณภาพสูงสมัยใหม่นิยมใช้เทคนิคนี้ในการออกแบบมาแล้วสักพัก
ชิป DAC WM8524 ใน AXC25 ทำงานร่วมกับวงจรดิจิทัลฟิลเตอร์แบบ 2 -pole Butterworth filter และวงจรอะนาล็อกเอาต์พุตที่มีอิมพิแดนซ์ขาออกต่ำกว่า 50 โอห์ม มีช่วงตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 20Hz-20kHz (+/-0.4dB) อัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวนดีกว่า 93dB ความเพี้ยนต่ำกว่า 0.006% (THD @ 1kHZ 0dBFS) และต่ำกว่า 0.015% (THD @ 1kHZ -10dBFS)
ตัวเครื่อง CAMBRIDGE AUDIO AXC25 มีขนาด 75 x 430 x 305 มิลลิเมตร (สูง x กว้าง x ลึก) น้ำหนักเครื่อง 4.3 กิโลกรัม มาพร้อมรีโมตคอนโทรลอินฟราเรดที่สามารถใช้ควบคุมสั่งงานเครื่องเสียงรุ่นอื่น ๆ ของเคมบริดจ์ฯ ได้ด้วย
สำหรับอินทิเกรตแอมป์สเตริโอ CAMBRIDGE AUDIO AXA25 มาพร้อมตัวเลขกำลังขับข้างละ 25 วัตต์ (ที่โหลด 8 โอห์ม) ค่าความเพี้ยน THD ต่ำกว่า 0.15% (วัดโดยอ้างอิงที่ความถี่ตั้งแต่ 20Hz – 20kHz ที่กำลังขับ 80% ของกำลังขับสูงสุด) มีช่วงตอบสนองความถี่เสียงตั้งแต่ 10Hz-30kHz (-3dB) และค่าแดมปิ้งแฟคเตอร์มากกว่า 100
ภาคปรีแอมป์ในตัว AXA25 มาพร้อมกับวงจรปรับเสียงทุ้ม-แหลมหรือโทนคอนโทรลที่ปรับเพิ่ม-ลดได้ในช่วง +/- 5.5dB ที่ความถี่ 20Hz และ 20kHz ออกแบบให้รับสัญญาณอินพุตแบบอะนาล็อกได้ 4 ช่องสัญญาณด้วยกัน (RCA) และอินพุต AUX แบบ 3.5mm บนหน้าปัดเครื่อง
ตัวเครื่องมีขนาด 83 x 430 x 340 มิลลิเมตร (สูง x กว้าง x ลึก) และมีน้ำหนัก 5.1 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อและลองใช้งาน
ความรู้สึกแรกที่ยกตัวเครื่องทั้งสองออกมาจากกล่อง บอกได้เลยว่าเป็นเครื่องเสียงราคาประหยัดที่มีงานออกแบบและงานประกอบที่ดูดีเกินราคา แม้ว่าชิ้นส่วนวัสดุต่าง ๆ อาจไม่ได้เทียบเท่ากับเครื่องเสียงระดับพรีเมียม แต่งานประกอบถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน
ตัวเครื่องทั้งสองรุ่นมีสายไฟเอซี 2 ขาแบบถอดได้ เป็นขั้วต่อแบบ C7 ซึ่งไม่ได้ลำบากนักที่จะหาสายไฟเอซีอัปเกรดมาเปลี่ยนใช้ได้ในอนาคต
เท่าที่ลองใช้งานเบื้องต้นมี 2-3 เรื่องที่ต้องทำใจสักหน่อย เรื่องแรกคือ กลไกถาดใส่แผ่นของเครื่องเล่นซีดี AXC25 อาจเปิด-ปิดได้ไม่นุ่มนวลนัก ส่วนเรื่องความฉับไวในการทำงานและการอ่านแผ่นถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน
ด้านอินทิเกรตแอมป์ AXA25 ไม่มีรีโมตคอนโทรลมาให้ และไม่สามารถควบคุมสั่งงานได้ด้วยรีโมตคอนโทรล เท่ากับว่าการปรับปุ่มต่าง ๆ ทั้งหมดบนหน้าปัดเครื่อง ต้องทำกันแบบอัตโนมือเท่านั้นครับ ถือว่านั่งฟังเพลงได้แล้วลุกหรือขยับตัวไปด้วยช่วยเบิร์นแคลลอรี่ไปในตัว
อีกเรื่องหนึ่งคือไฟ LED สีขาวที่ปุ่ม POWER/Standby เวลาแสดงสถานะ POWER หรือ Standby มันแสดงผลเป็นสีขาวเหมือนกัน ต่างกันแค่ความสว่าง ซึ่งเวลาใช้งานจริงความแตกต่างตรงนี้ค่อนข้างสังเกตได้ยากพอสมควรเลยครับ โดยเฉพาะในห้องที่เปิดไฟสว่างตามปกติ
ด้านการเชื่อมต่อนั้นตัว AXC25 ไม่มีอะไรมาก แค่เสียบสายไฟเอซี และสายสัญญาณเอาต์พุตอะนาล็อก ก็เป็นอันใช้งานได้ ซึ่งในรีวิวนี้ผมเลือกใช้สายสัญญาณคุณภาพดีรุ่นประหยัดอย่าง Nordost White Lightning เครื่องเล่นซีดีรุ่นนี้ไม่มีเอาต์พุตสัญญาณดิจิทัล ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสในการอัปเกรด DAC ภายนอกในอนาคต ได้เหมือนอย่างเครื่องเล่นซีดีในซีรีส์เดียวกันอย่างรุ่น AXC35
สำหรับอินทิเกรตแอมป์ AXA25 นอกจากช่องอินพุตรับสัญญาณอะนาล็อกแล้ว ด้านหลังเครื่องยังมีช่องสัญญาณ Rec Out และพอร์ตจ่ายไฟเลี้ยง USB 5V (DC) 500mA ให้มาด้วย ไม่ใช่ช่องทางสำหรับสัญญาณเสียงแต่อย่างใด เข้าใจว่าคงตั้งใจให้เสียบชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์พกพาหรือสมาร์ทโฟนที่จะมาต่อใช้งานทางช่องอินพุต AUX 3.5mm ด้านหน้าเครื่อง
สำหรับขั้วต่อสายลำโพงแม้จะเป็นเกรดมาตรฐานธรรมดา แต่ก็เป็นขั้วต่อแบบไบดิ้งโพสต์ที่สามารถรองรับขั้วต่อต่าง ๆ ได้อย่างแน่นหนา
นอกจากการใช้งานร่วมกันเองของ AXC25 และ AXA25 แล้ว ผมยังมีโอกาสให้ลองใช้งานแบบแยกจากกันด้วย โดยใช้ AXC25 กับอินทิเกรตแอมป์ NAD D3045 และลองใช้ AXA25 กับ DAC อย่าง Khadas Tone2 Pro โดยต่อใช้งานทางช่องอินพุต RCA ด้านหลังเครื่อง และเครื่องเล่นเพลง Sony NW-A100TPS โดยต่อใช้งานทางช่องอินพุต 3.5mm ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง
จากการลองใช้งานดังกล่าว ผมยืนยันได้ว่าเครื่องเสียงทั้ง 2 รุ่น มีคุณสมบัติดีพอที่จะแยกใช้งานกันก็ได้ด้วย ดังนั้นใครที่มีเครื่องเล่นซีดีอยู่แล้ว หรือมีอินทิเกรตแอมป์ใช้งานอยู่แล้ว ก็สามารถเลือกเอาตัวใดตัวหนึ่งไปใช้งานกับเครื่องเสียงที่มีอยู่ได้ด้วยเช่นกัน
คุณภาพเสียง
ในด้านคุณภาพเสียง ชัดเจนว่า CAMBRIDGE AUDIO AXC25 เป็นเครื่องเล่นซีดีที่ให้เสียงออกมาค่อนข้างทันสมัย คือนอกจากจะไร้ความผิดเพี้ยนแบบดิจิทัลเหมือนเครื่องเล่นซีดียุคแรก ๆ แล้ว ภายใต้เสียงที่ฟังง่ายสบายหูยังแฝงไว้ด้วยรายละเอียดที่เปิดเผย กระจ่างชัด สะอาด และมีสมดุลเสียงที่ดี
เมื่อฟังเพลงร้อง หรือเครื่องดนตรีในกลุ่มที่ให้เสียงในย่านเสียงกลางและเสียงแหลม เสียงจากได้จากเครื่องเล่นซีดี AXC25 มีลักษณะสดใส ฟังสบาย และมีความคมชัดโดยไม่รู้สึกหยาบกระด้าง ในย่านความถี่ต่ำมวลเนื้อเสียงที่ได้มีความอิ่มหนักแน่น เนื้อเสียงโดยรวมมีลักษณะค่อนข้างนุ่มมากกว่าความกระแทกกระทั้นดุดัน
สำหรับอินทิเกรตแอมป์ AXA25 น้ำเสียงพกความนุ่มนวลละมุนละไมในแบบฉบับของเครื่องเสียงอังกฤษแต่ดั้งเดิมมาอย่างชัดเจน มีกำลังขับเพียงพอที่จะใช้ขับลำโพงเล็กอย่าง Mission MX1 ได้แบบสบาย ๆ และให้น้ำเสียงเกื้อหนุนกันและกัน โดยมีลักษณะเด่นในย่านเสียงกลางมากกว่าเสียงทุ้มและเสียงแหลม
เสียงกลางที่ได้จากอินทิเกรตแอมป์รุ่นนี้มีลักษณะเปิดเผยเจือไว้ด้วยความนุ่มนวล มีความสดใสเป็นธรรมชาติพอประมาณให้สัมผัสรับรู้ได้ โดยมีจุดเด่นตรงน้ำเสียงที่ฟังสบายหู ขณะที่เสียงทุ้มก็มีเนื้อมีหนังมีน้ำหนักเพียงพอที่จะฟังเพลงทุกแนวได้อย่างสนุกเร้าใจ
สำหรับในด้านเสียงแหลมนั้น เสียงจากอินทิเกรตแอมป์รุ่นนี้มีลักษณะโรลออฟที่ปลายหางเสียง ซึ่งอาจลดทอนความสดใสกังวานไปบ้างแต่ก็แลกกับมาด้วยความนุ่มนวลทำให้สามารถฟังเพลงที่บันทึกเสียงมาค่อนข้าง bright หรือไม่ค่อยมีเนื้อเสียงได้ง่ายขึ้น
หากยังไม่เพียงพอ ปุ่มปรับทุ้ม-แหลมที่เพิ่ม-ลดปริมาณได้อย่างมีชั้นเชิง ไม่เน้นการปรับแต่งเสียงที่มากจนเกินไปของอินทิเกรตแอมป์ AXA25 ยังพอจะช่วยปรับชดเชยให้ได้เสียงดีตามที่ต้องการ ตามรสนิยมการฟังได้ด้วยเช่นกัน
เมื่อนำเครื่องเสียง AX Series รุ่นประหยัดทั้งคู่มาใช้งานด้วยกัน ผมมีความรู้สึกแบบที่ไม่ได้อุปาทานไปเองว่านอกจากรูปร่างหน้าตาของตัวเครื่องแล้ว เสียงที่ได้จากเครื่องเล่นซีดีและอินทิเกรตแอมป์คู่นี้มีส่วนช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกัน โดยมีจุดเด่นมากที่สุดเวลาฟังเพลงร้องหรือเพลงแจ๊ซที่เน้นเสียงร้อง หรือเสียงเครื่องดนตรีในย่านความถี่เสียงกลางและแหลม เช่น กีตาร์, เปียโน, ไวโอลิน หรือฮาร์มอนิก้า
เมื่อได้ซิสเตมที่ลงตัวในทุก ๆ องค์ประกอบแล้ว ระหว่างนั่งฟังไปเรื่อย ๆ บางช่วงเวลาผมเกือบลืมไปเลยว่าที่กำลังฟังอยู่นี้ คือ เครื่องเสียงรุ่นประหยัดที่ราคารวมกันถูกกว่าสายสัญญาณหรือสายไฟเอซีหลายรุ่นเสียอีก
ผมหยิบแผ่นซีดีของไออานา ครอลล์, ไช่ฉิน, ถงลี่, เอลลา ฟิตซ์เจอรัลด์, พิงค์ มาตินี ทุกแผ่นฟังเพลินกับเครื่องเสียงราคาประหยัดของเคมบริดจ์ ฯ ทำให้ช่วงเวลาในการฟังผ่านไปเร็วมาก เป็นอีกหนึ่งรีวิวที่ทำให้ผมมีความสุขมากในระหว่างการทำงาน
ที่ประทับใจมากเป็นพิเศษก็คือ เมื่อผมหยิบแผ่นซีดีบอกซ์เซ็ต 6 แผ่น ชุด ‘Jun Tian Lai Zhi Yin 101 – Deng Li Jun 65 Nian Ji Nian’ ซึ่งเป็นงานรีมาสเตอร์รวมเพลงของเติ้ง ลี่ จวิน หรือ Teresa Teng จำนวนนับร้อยเพลง ออกมาเมื่อปีค.ศ. 2018 มาเปิดฟังกับเครื่องเสียงชุดนี้ เสียงที่ได้ฟังมันทำให้ผมมีความสุขมากครับ
ปกติแล้วแผ่นซีดีที่รวมเพลงจำนวนมากเช่นนี้ ปัญหาหนึ่งคือ แต่ละเพลงซึ่งมีที่มาจากต้นฉบับหลากหลายรูปแบบ คุณภาพเสียงของมันมักแตกต่างกัน บางเพลงที่ฟังดีก็เพลินไปเลย
บางเพลงที่บันทึกเสียงมาไม่ดีเท่าไร มีลักษณะเสียงบางหรือแห้ง พอมาเจอกับชุดเครื่องเสียงของเคมบริดจ์ ซึ่งมีความเป็นดนตรีในลักษณะที่ยอมประนีประนอมด้วย น้ำเสียงที่ได้จึงลดทอนความแห้ง ความกระด้างลงไปพอสมควรเลยครับ ทำให้ผมสามารถเปิดฟังทั้ง 6 แผ่นไปเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นเขียนบทความนี้ได้อย่างมีความสุข ไม่รู้สึกฟังแล้วสะดุด ขัดหู เป็นพัก ๆ เหมือนหลายครั้งที่ได้ฟัง
ผมเชื่อเหลือเกินว่า ความรู้สึกนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับผมเพียงคนเดียว แต่จะเกิดขึ้นกับทุกคนที่มีแผ่นซีดีเพลงโปรดเป็นจำนวนมาก และจำนวนหนึ่งในนั้นไม่ใช่แผ่นที่ตั้งใจบันทึกเสียงมาให้ดีแต่กำเนิด เครื่องเสียงชุดนี้สามารถเสริมสร้างความสุขในการฟังเพลงได้เกินค่าตัวของมันแน่นอนครับ
CAMBRIDGE AUDIO : AXC25, AXA25 เหมาะกับใคร ?
เครื่องเสียงราคาประหยัดจาก CAMBRIDGE AUDIO ชุดนี้เหมาะมากเป็นพิเศษสำหรับน้อง ๆ หรือคนที่กำลังมองหาเครื่องเสียงไฮไฟแยกชิ้นราคาเข้าถึงง่ายชุดแรกเพื่อเรียนรู้ความหมายของคำว่าไฮไฟ ซึ่งสามารถขยับขยายต่อยอดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เช่นการเปลี่ยนสายไฟเอซี การลองเล่นกับสายสัญญาณและสายลำโพง ได้เรียนรู้ในเรื่องของการแมตชิ่งและเซ็ตอัป
จะเลือกใช้ทั้งคู่ก็เหมาะ หรือจะเลือกใช้แบบแยกกันก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทั้งสินครับ และด้วยพื้นฐานที่ดี ผมเชื่อว่าอย่างน้อยเครื่องเสียงจากเคมบริดจ์ออดิโอชุดนี้จะให้ความสุขกับการฟังเพลงได้แน่นอนครับ
ในอีกมุมหนึ่งสำหรับคนที่มีซิสเตมหลักอยู่แล้ว ในงบประมาณไม่ถึง 2 หมื่นบาทของ AXC25 และ AXA25 มันสามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องเสียงชุดสำรองและชุดลำลองสำหรับการฟังเพลงในห้องทำงาน ห้องนอน หรือห้องรับแขกได้สบาย ๆ ครับ แค่หาลำโพงเล็กสักคู่มาแมตช์ด้วยเท่านั้นเอง ทั้งชุดน่าจะลงตัวในงบประมาณราว ๆ 30,000-35,000 บาท ได้สบาย ๆ เลยครับ
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บริษัท เพาเวอร์ บาย จำกัด
Power Buy Call Center โทร. 0-2904-2120
ราคา:
เครื่องเล่นซีดี CAMBRIDGE AUDIO : AXC25 ราคา 9,900 บาท
อินทิเกรตแอมป์ CAMBRIDGE AUDIO : AXA25 ราคา 9,900 บาท