fbpx
REVIEW

รีวิว Bose : SoundLink Around-Ear Wireless Headphones II

มีผลวิจัยที่เชื่อถือได้บอกว่า การเติบโตของสินค้าในกลุ่มหูฟังนั้นเพิ่มปริมาณขึ้นตามการเติบโตของตลาดมือถือสมาร์ทโฟน ผมเชื่อเหลือเกินว่ามันเป็นเช่นนั้น เพราะส่วนตัวผมเองมีสมาร์ทโฟนใช้งานอยู่ 2 เครื่องแต่มีหูฟังใช้งานกับสมาร์ทโฟนมากกว่า 4 ตัว

ต่อยอดไปจากนั้นผมยังเชื่ออีกว่า แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคสำหรับสินค้าในกลุ่มหูฟังจะนำไปสู่หูฟังระบบไร้สายหรือ Wireless Headphone ซึ่งนับวันจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ และราคาก็ไม่ได้สูงมากเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

และส่วนตัวผมเชื่ออยู่ลึก ๆ ว่าที่มันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากไม่ใช่เพียงเพราะว่ามันใช้งานสะดวกหรือมีตัวเลือกเยอะขึ้นเท่านั้นหรอกครับ เป็นเพราะว่ามันเสียงดีขึ้นด้วยต่างหาก หูฟังไร้สายบางรุ่นเสียงดีจนผมนึกเหตุผลไม่ออกว่าเราจะใช้หูฟังแบบมีสายให้เกะกะไปทำไม

เสียงที่ดีขึ้นได้จากการวิจัย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมได้รับหูฟังไร้สายรุ่นหนึ่งมาลองฟังครับ เป็นของยี่ห้อโบส ‘Bose’ รุ่น SoundLink around-ear wireless headphone II (ซาวด์ลิงค์ อะราวน์เอียร์ ไวร์เลสเฮดโฟน เวอร์ชั่นทู) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า SoundLink AE II

ผมจำได้ว่าเคยเห็นและลองฟังหูฟังรุ่นนี้มาก่อนแบบแว้บ ๆ ในงานเปิดตัวเมื่อหลายเดือนก่อน อาจจะไม่ใช่การฟังที่ละเอียดนักเพราะมีเวลาน้อยแต่ก็ยังพอจำได้ว่าเสียงของมันมีความไพเราะสะดุดหูอยู่ไม่น้อย SoundLink AE II นั้นเป็นสินค้าที่จัดอยู่ในตระกูล ซาวด์ลิงค์ ‘SoundLink’ ของโบส ซึ่งเป็นชื่อที่ทางโบสนิยมใช้เรียกสินค้าในกลุ่มที่เป็นระบบไร้สายไม่ว่าจะเป็นหูฟังหรือลำโพง

ผมเองไม่แน่ใจนักว่าเคยได้ลองฟังหูฟังไร้สายของโบสอย่างจริงจังมาบ้างหรือยัง แต่ถ้าเป็นลำโพงไร้สายของเขาก็ได้ลองฟังมาหลายรุ่นแล้ว แต่สำหรับหูฟังไร้สายนี่ถ้าจำไม่ผิด SoundLink AE II จะเป็นหูฟังไร้สายตัวแรกของโบสที่ผมได้ลองฟังจริงจังจนถึงขั้นรีวิว

สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคของ SoundLink AE II เป็นหูฟังแบบครอบหู (โอเวอร์เอียร์, Over Ear) และเป็นหูฟังฟูลไซส์ขนาดกะทัดรัด การออกแบบมีความเรียบร้อยสวยงามแบบเรียบ ๆ มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของโบสเองติดมาพอสมควร

เป็นปกติที่โบสจะไม่ค่อยได้ให้รายละเอียดทางเทคนิคระดับลึก ๆ มากนักโดยเฉพาะตัวไดรเวอร์ขับเสียง พวกเขามักจะบอกแต่เพียงว่า “Better Sound Through Research” หรือ “เสียงที่ดีขึ้นได้จากการวิจัย”

ในหูฟังไร้สาย SoundLink AE II ผมจึงทราบแต่เพียงว่ามันใช้เทคโนโลยีอันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะจากโบส เช่น เทคโนโลยี TriPort และเทคโนโลยี ‘active equalization’ ซึ่งเป็นการเพิ่มระดับเสียง EQ แบบใหม่ ‘new volume-optimized’ เพื่อการถ่ายทอดทุกรายละเอียดเสียงที่สมจริงไม่ว่าระดับเสียงเบาหรือดัง

วิศวกรของโบสยังการันตีด้วยว่าทุกเสียงที่ได้ยินจะใกล้เคียงกับคุณภาพเสียงขณะที่บทเพลงนั้น ๆ กำลังได้ถูกเก็บบันทึกเอาไว้มากที่สุด นั่นหมายความว่าดนตรีที่ศิลปินหรือโปรดิวเซอร์สร้างสรรค์ขึ้นมาจะถูกถ่ายทอดตรงสู่โสตประสาทอย่างตรงไปตรงมา

สำหรับการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงแบบไร้สาย SoundLink AE II สามารถเชื่อมต่อได้ในระยะห่างถึง 30 ฟุตหรือราว ๆ 9 เมตรด้วยสัญญาณ Bluetooth และสะดวกมากขึ้นด้วยการเชื่อมต่อผ่าน NFC

สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ 2 อย่างได้พร้อมกัน สามารถใช้ฟังเพลง รับชมภาพยนตร์ ดูรายการกีฬาบนแท็ปเล็ตหรือโทรออกและรับสายสนทนาจากโทรศัพท์ได้โดยตรงด้วยระบบไมโครโฟนคู่ ‘dual microphone’ พร้อมเทคโนโลยี noise-rejecting ทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวนเพื่อให้เสียงพูดผ่านไมโครโฟนนั้นมีความคมชัดสดใส

สามารถสลับการใช้งานจากการฟังเพลงไปสู่การรับสายสนทนาได้โดยไม่ต้องถือมือถือไว้กับตัว พร้อมทั้งยังมีระบบ Voice Prompts (รองรับถึง 11 ภาษา) ที่จะบอกให้ผู้ใช้ได้ทราบว่าเลขหมายใดหรือใครกำลังโทรเข้า และอุปกรณ์ใดกำลังเชื่อมต่ออยู่รวมถึงปริมาณแบตเตอรี่ที่ยังคงเหลือ

แหล่งพลังงานในตัวใช้แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนขนาดเล็กและน้ำหนักเบาที่สามารถชาร์จไฟซ้ำได้ ออกแบบให้ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 15 ชั่วโมง มากกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมทั่วไปถึง 25% และใช้เวลาชาร์จจนเต็มภายใน 3 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังสามารถชาร์จด่วนเพียง 15 นาที (15 minute quick charge) เพื่อใช้งานหูฟังต่อได้นานถึง 2 ชั่วโมง

แกะกล่องลองจับตัวจริง SoundLink AE II
SoundLink AE II ตัวที่ผมได้มาลองฟังนี้เป็นแบบสีขาว ชิ้นส่วนที่บุด้วยหนังบริเวณเอียร์แพดและเฮดแบนด์เป็นสีน้ำตาลอ่อนดูเข้ากันดีทำให้ตัวหูฟังแลดูทันสมัยและมีบุคลิกโดดเด่นเฉพาะตัว ในขณะเดียวกันหูฟังรุ่นนี้ยังมีแบบเป็นสีดำทั้งตัวโชว์ความคมเข้มให้เลือกใช้ด้วยครับ ส่วนตัวถ้าให้เลือกผมก็เอาตัวสีขาว-น้ำตาลนี่แหละครับ แม้ว่ามันจะดูเลอะเทอะง่ายกว่าก็ตาม

ชิ้นส่วนหลัก ๆ ของตัวหูฟังแม้ว่าจะเป็นพลาสติกแต่ก็เป็นพลาสติกที่พอจะมองออกว่ามีคุณภาพดีสมควรเลยล่ะครับ ซึ่งก็ตรงกันกับข้อมูลของโบสที่แจ้งว่ามันเป็นวัสดุที่ทนทานต่อแรงกระแทก เป็นวัสดุประเภทไนล่อนเสริมใยแก้วและมีตัวโครงด้านในทำจากสแตนเลสสตีล ผ่านการทดสอบในห้องทดลองของโบสเพื่อทดสอบว่าหูฟังยังสามารถใช้งานได้หลังจากตกหล่น ถูกกระแทกหรือถูกกระชาก

ตรงนี้สำคัญครับเพราะหูฟังแบบพกพาบ่อยครั้งที่ต้องอยู่ในกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าสะพาย อาจจะต้องโดนกดทับหรือเบียดเสียดบ้าง ถ้าขืนใช้วัสดุเกรดต่ำ ไม่นานก็ต้องมีอะไรฉีกขาดหรือแตกหักเสียหายแน่นอน

แต่ที่เห็นและเป็นอยู่ใน SoundLink AE II มันดูดีกว่านั้นเยอะครับ การมีโอกาสได้สัมผัสตัวจริงของหูฟัง SoundLink AE II นั้นสร้างความน่าประทับใจแรกเริ่มหรือ first impression ได้ตั้งแต่เรื่องของการออกแบบที่ดูดีทันสมัย ตัวหูฟังมีขนาดพอเหมาะไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไปสวมใส่สบาย กระชับแต่ไม่บีบรัดจนเกินไป

ก้านคาดศีรษะทรงโค้งเข้ารูปและแผ่นฟองน้ำรอบใบหูห่อหุ้มด้วยวัสดุเนื้อนุ่มให้สัมผัสที่หรูหรามีระดับ บางส่วนยังเลือกใช้วัสดุ ALCANTARA (อัลคันทาร่า) ที่มีเนื้อสัมผัสคล้ายหนังกลับเนื้อนุ่ม นิยมใช้ในรถยนต์หรู ๆ

นอกจากเรื่องของวัสดุแล้วตัวหูฟังยังถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเพียง 7 ออนซ์ (หรือเพียง 200 กรัม) เท่านั้น ทำให้การสวมใส่ใช้งานเป็นระยะเวลานาน ๆ เป็นประสบการณ์ใหม่ที่หาได้ยากจากหูฟังไร้สายอื่น ๆ

นอกจากตัวหูฟังแล้วอุปกรณ์มาตรฐานที่ให้มาด้วยกันยังมีสายชาร์จ (micro-USB) และสายหูฟังสำรองไว้ใช้งานชั่วคราวตอนแบตหมดหรือใช้กับเครื่องเล่นที่ไม่มีระบบเชื่อมต่อบลูทูธ พร้อมทั้งกระเป๋าใส่หูฟังและอุปกรณ์ทั้งหมดซึ่งออกแบบมาเข้าชุดกัน ลงตัวพอดีกับตัวหูฟังที่ออกแบบให้สามารถพับเก็บได้จนแบนราบ สะดวกและประหยัดพื้นที่ในการพกพา

ความเห็นจากการลองใช้งาน
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกันในเบื้องต้นแล้ว เมื่อถึงเวลาที่ต้องลองใช้งานจริงผมพบว่าทุกฟังก์ชั่นในหูฟังตัวนี้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างราบรื่น เรียนรู้และทำความเข้าใจได้ง่าย

การระบุตัวอักษร L และ R ขนาดใหญ่ที่ด้านในของเอียร์แพดทำให้การใช้งานสะดวกทุกครั้งที่หยิบตัวหูฟังขึ้นมาใช้งาน เพราะไม่ต้องคอยเล็งจากตัวพิมพ์ตัวอักษรเล็ก ๆ ที่แสนจะมองยากแบบที่หูฟังส่วนใหญ่ชอบทำกัน การชาร์จแบตเตอรี่สามารถชาร์จกับชาร์จเจอร์ของสมาร์ทโฟนทั่วไปได้ตามปกติ ไฟแสดงผลการชาร์จรวมถึงสถานะต่าง ๆ มีความชัดเจนและสังเกตได้ง่าย

สวิตช์หรือปุ่มควบคุมในหูฟังตัวนี้มีอยู่แค่ไม่กี่จุด หลัก ๆ ก็คือ ปุ่มสวิตช์เปิด-ปิดเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นที่ออกแบบให้สามารถดันเลื่อนขึ้นไปอีกจังหวะเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นจับคู่ paring กับอุปกรณ์บลูทูธภายนอกหรือใช้เปิดฟังก์ชั่น Voice Prompts เพื่อเช็คสถานะต่าง ๆ ของตัวหูฟังดังที่ได้เรียนไปแล้วในข้างต้น

สำหรับปุ่มควบคุมที่เหลืออีก 3 ปุ่มก็เป็นปุ่มควบคุมการเล่นเพลงมาตรฐานทั่วไปซึ่งออกแบบมาได้ดี อยู่ในตำแหน่งที่ควบคุมได้ง่ายพอสมควรแค่คลำ ๆ ก็หาเจอแล้วว่าปุ่มไหนเป็นปุ่มไหน อย่างไรก็ดีช่วงแรกก็อาจจะยังมีความสับสนให้กดผิดกดถูกอยู่บ้างแต่เมื่อคุ้นเคยแล้วก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

เมื่อได้ลองใช้งานในภาคสนามกับการฟังเพลงจากสมาร์ทโฟน Huawei Mate 8, Samsung Galaxy S7 Edge หรือการดูหนังจากแท็ปเล็ต Apple iPad Air 2 และคอมพิวเตอร์ Mac mini พบว่าหูฟังไร้สาย SoundLink AE II มีการเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำและแน่นอนมาก

หลังจากนั้นหน้าที่ของผมก็มีเพียงอย่างเดียวคือ การเพลิดเพลินไปกับเสียงที่ได้จากหูฟังตัวนี้ นั่นคือประสบการณ์ที่ผมขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงที่มิได้ตีไข่ใส่สีเลยแม้แต่น้อย

ในระหว่างการทดลองใช้งานผมมีโอกาสได้ลองใช้เป็นแฮนด์ฟรีคุยโทรศัพท์ด้วยครับ มันใช้งานได้ดีมาก เสียงสนทนาชัดเจน ที่สำคัญคือความสะดวก ฟังเพลงจากสมาร์ทโฟนอยู่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะได้ยินเสียงโทรเข้าหรือไม่ แถมยังกดรับสายจากตัวหูฟังโดยตรงได้ด้วยต่างหาก

เมื่อใช้ฟังเพลงไม่ว่าจาก source ที่เป็น hi-res audio หรือเพลงจาก online streming service หูฟังตัวนี้ดูเหมือนจะรับได้โดยไม่เกี่ยงงอน นอกจากความเบาสบายอย่างเหลือเชื่อแล้วหูฟังรุ่นนี้ยังให้เสียงที่มีความนุ่มนวล ฟังสบาย ให้เสียงทุ้มที่มีเนื้อหนัง หนักแน่นและนุ่มนวล เป็นเสียงความถี่ต่ำที่นุ่มแน่นมีน้ำหนัก มีหัวเสียงที่คมเข้ม เสียงกลางเปิดมีรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องหรือเสียงชิ้นดนตรี

ไฟล์ hi-res audio 24/96 อัลบั้ม Ao Vivo! (Live) ของวง Mellow Motif หูฟังตัวนี้ให้เสียงแหลมชัดเจนสดใสมีรายละเอียดครบชัดแม้ว่าอาจจะไม่ได้เปิดโล่งออกไปแบบสุด ๆ เหมือนอย่างหูฟัง high resolution หลาย ๆ ตัว แต่ก็ไม่ได้ฟังดูมีปัญหาอะไรกับความไพเราะของดนตรี

นอกจากนั้นผมยังสังเกตอีกได้ว่า Bose SoundLink AE II เป็นหูฟังระบบปิดหลังที่ให้เสียงกว้างมาก เวทีเสียงนั้นแผ่กว้างออกไปไม่กระจุกรวมกันให้น่าอึดอัด เสียงชิ้นดนตรีต่าง ๆ มีลักษณะเปิดเผยชัดเจนไม่ซ้อนทับกันเอง แต่ละตัวโน้ตมีรายละเอียดหยุมหยิมโดยปราศจากความเครียดเกร็งหรือความก้าวร้าว อย่างเช่นดนตรีหนัก ๆ ในอัลบั้ม ‘Til Your River Runs Dry” ของ Eric Burdon เวอร์ชั่นไฟล์ 24/96 เล่นจากแอพฯ USB Audio Player Pro

เสียงอย่างนี้อย่าว่าแต่จะเป็นหูฟังแบบไร้สายเลยครับ หูฟังแบบมีสายก็ยังทำตามได้ไม่ง่ายนัก เป็นอะไรที่ผมอยากให้ลองพิสูจน์กันด้วยหูของตัวเองถ้ามีโอกาสนะครับ นี่ไม่ใช่ลักษณะของหูฟังที่เพียงแค่อัพเกรดหูฟังแถมของคุณเท่านั้น แต่มันยังมีดีพอที่จะทำให้คุณลืมหูฟังอื่น ๆ ไปได้เลย เป็นหูฟังไร้สายที่จะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการฟังเพลงของคุณไปโดยสิ้นเชิง เพราะนี่คือหูฟังไร้สายที่คุณภาพเสียงดีที่สุดจากโบส

สำหรับในโหมดดูหนังหรือคลิปวิดีโอผมพบว่า SoundLink AE II สามารถเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่น การซิงค์ภาพและเสียงในวีดีโอสามารถทำได้ตรงกันจากคุณสมบัติที่ทางเทคนิคเรียกว่า low latency ไม่เหมือนหูฟังไร้สายคุณภาพต่ำที่มักจะมีปัญหาภาพและเสียงไม่ตรงกัน

หูฟังไร้สายที่ผมรีวิวแล้วอยากใช้ต่อ
พักหลังมานี้ผู้ผลิตลำโพงชื่อดังอย่าง โบส ‘Bose’ หันมาจับตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ไฮไฟแบบพรีเมียมอย่างจริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในกลุ่มของลำโพงพกพา ลำโพงไร้สายและหูฟัง

โดยเฉพาะหูฟังนี่ผมเห็นพัฒนาการของยี่ห้อนี้มาโดยตลอด พัฒนาการทั้งในส่วนของดีไซน์รูปร่างหน้าตาที่เสริมบุคลิกให้ผู้ใช้ พัฒนาทั้งการใช้งานที่สะดวกทั้งเรื่องของความสบายในการสวมใส่ อายุแบตเตอรี่และความสะดวกในการเชื่อมต่อ ที่สำคัญยังพัฒนาทั้งในส่วนของคุณภาพเสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

และทั้งหมดที่ว่ามานี้ ชัดเจนขึ้นมากที่สุดในหูฟังรุ่น SoundLink AE II ตัวนี้ นี่คือหูฟังไร้สายที่ผมยอมรับว่าได้ลองแล้วอยากได้จริง ๆ เป็นความรู้สึกที่หลอกตัวเองไม่ได้เลยครับ ไม่ใช่แค่เพราะมันเป็นหูฟังที่สวยดูดี ไม่ใช่แค่เพราะมันเสียงดีถูกใจ แต่เป็นเพราะผมหยิบมันมาใช้บ่อยมาก ๆ มากเสียจนรู้สึกไปแล้วว่า… นี่ไม่ใช่การรีวิว แต่มันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผมไปแล้ว

ใครที่กำลังมองหาหูฟังไร้สาย ‘ต้องเก็บ’ Bose SoundLink AE II เอาไว้ในตัวเลือกเป็นลำดับต้น ๆ เลยนะครับ ที่เหลือก็ขอให้เชื่อการตัดสินใจและหูของคุณเองก็พอ


นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บริษัท อัศวโสภณ จำกัด
โทร. 02-266-8136-8, 02-234-6467-8
ราคา : 12,500 บาท

มนตรี คงมหาพฤกษ์

ผู้ก่อตั้งสื่อออนไลน์ AV Tech Guide อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารและออนไลน์ GM2000 Magazine จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนใจเครื่องเสียงทั้งระบบอะนาล็อกและดิจิทัล ใช้งานสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android ใช้คอมพิวเตอร์ทั้ง macOS และ Windows หลงใหลเทคโนโลยีเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนี้กำลังเห่อระบบบันทึกเสียงและไมโครโฟนแบบมืออาชีพ