Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 3 ชิปเซ็ตรุ่นใหม่สำหรับมือถือระดับเรือธง มาพร้อมระบบเสียงที่ดีขึ้น
Qualcomm เพิ่งประกาศเปิดตัวชิปเซ็ตระดับเรือธงรุ่นล่าสุดสำหรับโทรศัพท์มือถือ Android ระดับเรือธงรุ่นใหม่ ๆ ในปี 2024 ตัวชิปเซ็ตยังมาพร้อมกับคุณสมบัติด้านเสียงที่สำคัญเพื่อมาอัปเกรดระบบเสียงในอุปกรณ์พกพารุ่นใหม่ ๆ ที่เตรียมจะเปิดตัวในปีหน้า
โดยชิปรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 8 Gen 3 ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานกับโทรศัพท์มือถือ Android ระดับเรือธงรุ่นใหม่ ๆ โดย “คาดว่าจะทยอยวางจำหน่ายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” และมีแนวโน้มที่จะนำมาใช้กับผู้ผลิตแบรนด์ดังต่างๆ เช่น Samsung, Sony, OnePlus, Oppo และ Honor
ชิปเซ็ตรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ด้านระบบเสียง ไม่ว่าจะเป็นการรองรับเทคโนโลยีเสียง Snapdragon Sound แบบใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า XPAN (Expanded Area Network) ของ Qualcomm ซึ่งจะช่วยให้สามารถเล่นเสียงความละเอียดสูงแบบไร้สาย (สูงสุด 24bit/96kHz) ระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 กับ หูฟังไร้สายหรือลำโพงไร้สายที่มีชิปเสียง S7 Pro Gen 1 ซึ่งก็เป็นชิปเสียงรุ่นใหม่ล่าสุดของทางบริษัทเช่นกัน
การทำงานร่วมกันระหว่างชิป Snapdragon 8 Gen 3 กับ S7 Pro Gen 1 ช่วยให้การสตรีมเสียงรายละเอียดสูงระหว่างสมาร์ทโฟนกับอุปกรณ์ไร้สายเช่น ลำโพงหรือหูฟัง สามารถเป็นไปได้จริง ๆ แล้ว และน่าจะเป็นครั้งแรกของโลกหากว่าในระหว่างนี้ยังไม่มีเทคโนโลยีอื่นเข้ามาเสียบแทนก่อน
เบื้องต้นคาดว่าการประกาศผลิตภัณฑ์ครั้งแรกของทั้งสองกลุ่มผลิตภัณฑ์กำลังจะตามมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยคาดว่าจะมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ Samsung S24 ในเดือนมกราคมปีหน้า
นอกเหนือจากการเพิ่มเทคโนโลยีนระบบเสียงใหม่เข้ามา ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ยังรับประกันว่ามีสมรรถนะที่เร็วขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ และประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงส่วนประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่แรงมากขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์
ความเร็วและประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้นด้วยเมื่อเทียบกับชิปเซ็ต (Gen 2) ของปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นแพลตฟอร์มมือถือแพลตฟอร์มแรกของบริษัทที่ “ออกแบบโดยคำนึงถึง AI เชิงสร้างสรรค์” ด้วยเหตุนี้ Qualcomm จึงได้สร้าง ‘ระบบย่อย’ AI ที่เรียกว่า ‘AI Stack’ รวมไว้ในนั้นด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถใช้ประโยชน์และพัฒนาคุณสมบัติซอฟต์แวร์ AI ได้
หนึ่งในคุณสมบัติกล้องโทรศัพท์ AI ที่ยอดเยี่ยมในชิปเซ็ตรุ่นล่าสุด ยังมี AI เข้ามาเติมเต็มรายละเอียดที่ ‘ขาดหายไป’ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่คุณสมบัติกล้องที่ล้ำสมัยที่สุดสองประการในปัจจุบันที่จะนำไปใช้กับการถ่ายวิดีโอ ได้แก่ ยางลบมหัศจรรย์ซึ่งสามารถลบวัตถุที่ไม่พึงประสงค์ในเฟรมได้ ปรับปรุงภาพในที่แสงน้อยช่วยเพิ่มรายละเอียดในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย
นอกจากนั้นผู้ช่วย AI ‘บนตัวอุปกรณ์’ ก็ได้รับการออกแบบมาให้โต้ตอบกับการใช้งานและงานประจำวันของคุณได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำร้านอาหารท้องถิ่นตามแผนการรับประทานอาหารค่ำในปฏิทินของคุณ การสร้างภาพขึ้นมา หรือการจดบันทึกพาดหัวจากการโทรด้วยเสียง
ส่วนของเอ็นจิ้นกราฟิกยังได้รับการปรับปรุงทำให้การเล่นเกม 240fps (บนจอแสดงผล 240Hz) สามารถเป็นไปได้ ในขณะเดียวกันยังรองรับมาตรฐาน Wi-Fi 7 ใหม่ล่าสุดที่ความเร็วสูงสุดระดับ 5.8Gbps และมีอัตราข้อมูลมากกว่า Wi-Fi 6 อยู่สี่เท่า สามารถปลดล็อคการสตรีมวิดีโอ 8K ได้แล้ว
ที่มา: whathifi