อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง OnePlus เปิดบริษัทใหม่ใช้ชื่อว่า Nothing
Carl Pei ผู้ร่วมก่อตั้ง OnePlus ซึ่งได้ลาออกจากบริษัทเมื่อปลายปีที่แล้วได้ประกาศชื่อบริษัทใหม่ของเขาที่มีชื่อว่า ‘Nothing’ โดยอธิบายว่านี่คือ “บริษัทเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคที่ตั้งอยู่ในลอนดอน”
‘Nothing’ เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างตัวนาย Carl Pei กับผู้ร่วมทุนซึ่งเป็นคนดังในแวดวงเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็น Tony Fadell ผู้คิดค้น iPod, Kevin Lin ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitch, Steve Huffman ซีอีโอ Reddit และ Casey Neistat ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โดย ‘Nothing’ มีแผนจะเปิดตัว “อุปกรณ์อัจฉริยะ” รุ่นแรกในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
“เป้าหมายของ Nothing คือการขจัดกำแพงกั้นที่อยู่ระหว่างผู้คนและเทคโนโลยี เพื่อสร้างโลกอนาคตของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ไร้รอยต่อ” Carl Pei ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Nothing กล่าวในการแถลงข่าว
We rethought everything and came up with #Nothing. pic.twitter.com/VSz905Kgug
— Nothing (@nothingtech) January 27, 2021
“เราเชื่อว่าเทคโนโลยีที่ดีที่สุดคือความงดงาม แต่เป็นธรรมชาติและใช้งานง่าย เมื่อมันล้ำหน้าไปถึงระดับหนึ่งแล้ว มันควรจะอยู่กับไลฟ์สไตล์ของเราได้อย่างกลมกลืน จนรู้สึกว่าเหมือนไม่มีมันอยู่”
สิ่งที่ไม่ชัดเจนในขณะนี้คือ ยังไม่แน่ชัดว่าผลิตภัณฑ์ใด Nothing เตรียมจะเปิดตัว จากการให้สัมภาษณ์กับ The Verge ก่อนการประกาศในวันนี้ Carl Pei ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับรูปแบบของ “อุปกรณ์อัจฉริยะ” รุ่นแรกจาก Nothing
นอกจากนี้เขายังปฏิเสธที่จะบอกด้วยบริษัทใดคือคู่แข่งของ Nothing เขาเพียงยืนยันว่าในเวลานี้บริษัทยังไม่มีแผนจะวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในหลายหมวดหมู่โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างระบบนิเวศของอุปกรณ์
ที่ผ่านมาในระหว่างที่ Carl Pei ยังอยู่กับ OnePlus ทางบริษัทได้ทำสินค้าออกมามากกว่า 1 ประเภทตั้งแต่สมาร์ทโฟน, หูฟัง และทีวี ขณะที่สื่ออย่าง Wired ได้รายงานว่าบริษัทใหม่ของเขาจะให้ความสำคัญกับระบบเสียงและอาจจะทำผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของหูฟังออกมา
เมื่อถูกถาม Carl Pei ปฏิเสธที่จะยืนยันว่าผลิตภัณฑ์รุ่นแรกของ Nothing นั้นเป็นหูฟัง เมื่อครั้งที่ถูกถามโดย Wired เขาบอกว่าแผนของบริษัท “ไปไกลมากกว่านั้นมาก” นอกจากนั้นยังบอกด้วยว่ามันธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่ฮาร์ดแวร์ ไม่ใช่ซอฟต์แวร์หรือว่าเป็นการให้บริการเสียงเพลง เขายังเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์ของ Nothing นั้นจะชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นใช้โดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้มันดูเหมือนกับผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง
ที่มา: The Verge