เปิดตัว Audiolab Omnia สตรีมมิงอินทิเรตแอมป์รุ่นใหม่ที่มีเครื่องเล่นซีดีในตัว
Audiolab ผู้ผลิตเครื่องเสียงสัญชาติอังกฤษเปิดตัว Omnia เครื่องเสียงออลอินวันรุ่นใหม่ที่มาในรูปแบบของสตรีมมิงอินทิเกรตแอมป์ที่มีเครื่องเล่นซีดีในตัว แค่เพิ่มลำโพงเข้าไปอีกคู่ก็สามารถฟังเพลงได้แล้ว
การออกแบบ Audiolab Omnia มาในสไตล์เรียบหรูทันสมัยแบบมินิมอลลิสต์ แท่นเครื่องโดดเด่นด้วยวัสดุอะลูมิเนียม ทางด้านเทคนิคนั้น Omnia พร้อมตอบโจทย์คนรักเสียงดนตรีตั้งแต่การสตรีมด้วยระบบดิจิทัล ไปจนถึงการเล่นเพลงจากแผ่นซีดีและแผ่นเสียงไวนิล
ดังนั้นนอกจากขั้วต่อรับสัญญาณขาเข้าแล้ว ในเครื่องเสียงรุ่นนี้ยังมีเครื่องเล่นซีดี รวมทั้งภาคขยายสัญญาณจากหัวเข็มเครื่องเล่นแผ่นเสียงรวมอยู่ในตัวมันด้วย ขณะที่การสตรีมด้วยระบบดิจิทัลนั้นก็รองรับไฟล์เสียงดิจิทัลรายละเอียดสูงหรือ hi-res audio ด้วย
Audiolab Omnia สามารถเชื่อมต่อระบบเน็ตเวิร์คผ่าน WiFi dual-band หรือขั้วต่อ Ethernet เพื่อการใช้งานในรูปแบบเครื่องเสียงมัลติรูม ด้านการเชื่อมต่อไร้สาย Audiolab Omnia ยังรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์สมัยใหม่อย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต โดยเครื่องเสียงรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 พร้อมรองรับ Audio CODEC ทั้ง aptX, aptX LL, AAC และ SBC
ขณะที่ภาคขยายเสียงหลักเป็นวงจรขยายเสียงคุณภาพสูงรองรับการใช้งานกับลำโพงหรือหูฟังทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหา สามารถแยกใช้งานในส่วนของภาคปรีแอมป์และเพาเวอร์แอมป์ได้ ออกแบบเป็นวงจรขยายเสียงแบบลิเนียร์ Class AB ที่มีกำลังขับข้างละ 50 วัตต์ที่โหลด 8 โอห์ม
สำหรับภาคขยายสัญญาณจากหัวเข็มเครื่องเล่นแผ่นเสียงนั้นรองรับการใช้งานร่วมกับหัวเข็มแบบ MM วงจรพื้นฐานใช้อุปกรณ์ขยายสัญญาณประเภท JFET พร้อมทั้งวงจรปรับชดเชย RIAA equalisation ที่มีความแม่นยำสูง
ด้านอินพุตสตรีมมิงอินทิเกรตแอมป์รุ่นนี้มีช่องสัญญาณขาเข้าทั้งอะนาล็อก (ระดับไลน์ทางขั้วต่อ RCA) และดิจิทัล (asynchronous USB and S/PDIF) ภาคแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอะนาล็อกเลือกใช้ชิป DAC รหัส ES9038Q2M จาก ESS Sabre รองรับไฟล์เสียง PCM ถึงระดับ 32bit/768kHz และไฟล์เสียง DSD ถึงระดับ DSD512 (22.5MHz)
ด้านบนหน้าตัวเครื่องบริเวณใจกลางแผงหน้าปัดมีจอสีแสดงผลขนาด 4.3 นิ้ว ที่สามารถแสดงผลข้อมูลตั้งแต่การตั้งค่าระบบ, รูปแบบของข้อมูล ตลอดจนรายละเอียดในแต่ละเพลง นอกจากนั้นยังสามารถแสดงผลในรูปแบบของอะนาล็อกวียูมิเตอร์ หรือรูปแบบของคลื่นสัญญาณดิจิทัลได้ด้วย หรือจะให้แสดงระดับเดซิเบลของสัญญาณเสียงข้างซ้ายและข้างขวาตามเวลาจริงก็ทำได้ด้วยเช่นกัน
ด้านแพลตฟอร์มสตรีมมิง Audiolab Omnia เลือกใช้ DTS Play-Fi สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิงยอดนิยมอย่างเช่น Spotify, Tidal, Amazon Music, Deezer, Qobuz, Audacy, TuneIn, iHeartRadio and SiriusXM สามารถใช้งานร่วมกับแอปฯ DTS Play-Fi ในสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android นอกจากนั้นยังสามารถสตรีมเพลงจาก DLNA media server ได้ด้วยเช่นกัน
และเมื่อเล่นไฟล์เพลงในรูปแบบของไฟล์ MQA หรือสตรีมมาจาก TIDAL Master การถอดรหัสเสียง MQA ใน Audiolab Omnia เป็นลักษณะของการถอดรหัส MQA แบบ Full Decoding หรือการคลี่ขยายสัญญาณเสียงออกแบบ 3 ชั้น รวมถึงขั้นตอน renderer ด้วย
สำหรับการใช้งานแบบมัลติรูมโดยการสตรีมผ่าน Play-Fi ในโหมดมาตรฐานสามารถสตีมได้ถึงระดับ 16bit/48kHz ขณะที่ในโหมดฟังอย่างพินิจพิเคราะห์ (Critical Listening) ระบบสตรีมมิงนั้นรองรับสัญญาณเสียงดิจิทัลรายละเอียดสูงถึงระดับ 24bit/192kHz ทั้งจากเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Ethernet โดยไม่มีการลดทอน resolution ของสัญญาณเสียง พร้อมทั้งยังรองรับ Roon Ready
Audiolab Omnia จะเริ่มวางตลาดในเดือนธันวาคม นี้ ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งสีดำและสีเงิน ในสนนราคาเครื่องละ 1,599 ปอนด์หรือประมาณ 71,000 บาท
ที่มา: whathifi
