รายได้จากอุตสาหกรรมเพลงพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สตรีมมิงยังคงยืนหนึ่ง แผ่นเสียงขายดีกว่าซีดีทั้งจำนวนแผ่นและมูลค่า
สมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกาหรือ RIAA (Recording Industry of America) ได้เผยแพร่รายงานรายได้ในช่วงกลางปีของวงการเพลง แสดงให้เห็นถึงรายได้จากการค้าปลีกเพิ่มขึ้น 9.3 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับสูงสุดตลอดกาลในครึ่งปีแรกที่ 8,400 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่รายได้จากการค้าส่งเพิ่มขึ้น 8.3 เปอร์เซ็นต์เป็น 5,300 ล้านดอลลาร์
ขณะที่รายได้จากการสตรีมเพิ่มขึ้น 10.3 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว อยู่ที่ 7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 84 เปอร์เซ็นต์ของรายได้เพลงในสหรัฐอเมริกา
ที่สำคัญ RIAA ระบุไว้อย่างชัดเจนว่ารายได้จากการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินเพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์เป็น 5,500 ล้านดอลลาร์ แต่จำนวนการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินทั้งหมดเพิ่มขึ้นเพียง 6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนหนึ่งของตัวเลขดังกล่าวนั้นเป็นผลมาจากการขึ้นราคาค่าสมัครสมาชิกของบริการสตรีมเพลงอย่างเช่น Spotify
ทั้งหมดนี้ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับการร้องเรียนของศิลปิน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ทำเงินอย่างคุ้มค่าจากการสตรีมเลย และได้เพิ่มการต่อสู้ด้านลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ในการเผยแพร่เครดิตเพื่อรับค่าตอบแทน
รายงานฉบับเต็มของอุตสาหกรรม (https://www.riaa.com/wp-content/uploads/2023/09/RIAA-Mid-Year-2023-Revenue-Report.pdf) มีภาพแผนภูมิและกราฟเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะทำให้แฟนแผ่นเสียงยินดีที่ได้เห็นว่าสื่อประเภทนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสื่อทางกายภาพทำรายได้สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2013 แม้ว่าจะถือว่าน้อยที่ 882 ล้านดอลลาร์ก็ตาม
แผ่นเสียงไวนิลคิดเป็นมูลค่า 632 ล้านดอลลาร์ และรูปแบบดังกล่าวคิดเป็น 72 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายสื่อทางกายภาพ โดยมียอดขาย 23 ล้านอัลบั้ม เทียบกับซีดีที่ 15 ล้านแผ่น
ที่มา: the verge