fbpx

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

LG Display คุย แผง OLED ของบริษัทมีโอกาสเกิดอาการเบิร์นอินน้อยกว่า QD-OLED

แหล่งข่าวจากต่างประเทศอย่าง What Hi-Fi ? ในสหราชอาณาจักรเผยข้อมูลที่มาจากการสนทนาทางวิดีโอกับ LG Electronics เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยหัวข้อหลักคือตัวเลขความสว่างสูงสุดของ G3 OLED TV รุ่นล่าสุด ในระหว่างการสนทนามีการนำเสนอที่น่าประหลาดใจจากซูมิน ชาง ตัวแทนจาก LG Display ซึ่งเป็นแผนกการผลิตแผงหน้าจอในเครือของบริษัท LG

LG Electronics ซึ่งเป็นผู้ผลิตทีวีเพื่อจำหน่ายในตลาดสินค้าเพื่อผู้บริโภค) และ LG Display นั้นเป็นหน่วยงานที่แตกต่างกัน และบริษัทแรกมักจะหลีกเลี่ยงการพูดคุยเกี่ยวกับผลงานของตนสำหรับบริษัทหลังมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นโอกาสเช่นนี้จึงมักเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

หัวข้อในการนำเสนอของซูมิน ชาง ก็เป็นการเปิดหูเปิดตาเช่นกัน โดยมันเกี่ยวข้องกับเรื่องของอาการ “เงาค้างบนหน้าจอ” หรือที่มักเรียกกันว่าเบิร์นอิน) ซึ่งทาง LG Display คุยว่ามันเป็นแผง OLED ที่มีโอกาสเกิดอาการกล่าวน้อยกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับแผงหน้าจอแบบ QD-OLED ที่ผลิตโดย Samsung Display

ซูมิน ชาง อ้างถึงการทดสอบความทนทานแบบเร่งด่วนของเว็บไซต์ Rtings โดยการเปิดภาพให้ทีวีหลายรุ่นได้แสดงภาพวิดีโอสดของ CNN โดยเฉลี่ย 19 ชั่วโมงต่อวัน ดูเหมือนว่าการทดสอบนี้จะส่งผลให้เกิดภาพค้างใน QD-OLED TV ทั้ง Samsung S95B และ Sony A95K หลังจากทดสอบไปเป็นเวลาเพียงสองเดือน

ในทางกลับกันทีวีรุ่น C2 และ G2 ของ LG ซึ่งใช้แผงจอแสดงผล “OLED EX” เจนเนอเรชั่นที่สองของ LG Display ดูเหมือนจะไม่มีอาการภาพค้าง

ซูมิน ชาง กล่าวว่านี่เป็นผลจากการใช้อนุภาคที่มีความเสถียรสูงที่เรียกว่า ดิวเทอเรียม ในแผงจอแสดงผล รวมถึงพิกเซลย่อยสีขาวด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีความทนทานมากกว่าอนุภาคพิกเซลที่มีสีสัน

แน่นอนว่าใคร ๆ ก็สามารถตั้งคำถามถึงความถูกต้องของการทดสอบดังกล่าวของ Rtings ได้ เนื่องจากเงื่อนไขของการทดสอบนั้นมันไม่เหมือนกับการใช้งานทีวี ‘ตามปกติ’ และ Rtings ก็ยอมรับเกี่ยวกับข้อจำกัดในการทดสอบนี้ ทว่าผลลัพธ์ทั้งหมดก็น่าสนใจเหมือนกัน

ยังคงมีปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งในการเปรียบเทียบนี้ นั่นคือการเปรียบเทียบแผง LG OLED ซึ่งพัฒนามาเป็นรุ่นที่สองแล้ว กับแผง QD-OLED ที่เป็นรุ่นแรก บ้างก็ว่านั่นสมเหตุสมผลแล้ว เนื่องจากเป็นรุ่นล่าสุดของแต่ละเทคโนโลยีที่ทำออกมาวางจำหน่ายในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

แต่เราทราบดีว่าแผง QD-OLED เจนเนอเรชั่นที่สองจะวางจำหน่ายในปีนี้โดยเป็นส่วนหนึ่งของรุ่น S95C จาก Samsung และอาจมีรุ่นอื่น ๆ อีกหลายรุ่นที่ยังไม่มีการประกาศเปิดตัว

แหล่งข่าวได้ส่งคำถามเกี่ยวกับการเบิร์นอินไปที่นาธาน เชฟฟิลด์ หัวหน้าฝ่ายทีวีและเครื่องเสียงของ Samsung Europe และข้อมูลที่ได้คือ “แผงจอแสดงผลที่เรามีในปีนี้ – เราได้เพิ่มประสิทธิภาพ”

“มันมีระดับความสว่างเพิ่มขึ้น [แต่] เราไม่จำเป็นต้องเปิดใช้ความสว่างอย่างเต็มกำลังตลอดเวลา นอกจากนั้นยังมีการใช้พลังงานไฟอย่างเหมาะสม ผู้ใช้จึงได้รับประสบการณ์คุณภาพของภาพที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องเลือกใช้ทีวีขนาดใหญ่ที่สุด ผมคิดว่านั่นอาจช่วยลดความสว่างลงบ้าง และเป็นการลดความเสี่ยงในส่วนที่คุณได้พาดพิงถึง”

กล่าวอีกนัยหนึ่ง QD-OLED รุ่นใหม่จะสว่างขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นวัสดุ OLED ที่มีความละเอียดอ่อนจะไม่ถูกเค้นหรือถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง

ดังที่เราทราบ กุญแจสำคัญของอายุการใช้งานและความทนทานของ OLED คือ ประสิทธิภาพ ดังนั้นการปรับปรุงใด ๆ ในส่วนนี้อาจมีผลกระทบเชิงบวกอย่างมาก สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนนักคือ QD-OLED รุ่นที่สองนั้นบรรลุประสิทธิภาพพิเศษที่เพิ่มขึ้นนี้ได้อย่างไร

แต่ Samsung Display อ้างถึงสิ่งที่เรียกว่าวัสดุ “OLED HyperEfficient EL” ในข้อมูลการตลาดบางส่วนเกี่ยวกับแผง QD-OLED รุ่นใหม่ รวมทั้งการกล่าวถึง “Heavy H+ OLED” ในงาน CES 2023 ซึ่ง “Heavy H” นั้นก็คือไฮโดรเจนหนัก ซึ่งเป็นอีกชื่อหนึ่งของดิวเทอเรียม

สำหรับการสรุปอย่างย่อ LG Display ที่อ้างว่าเทคโนโลยี WOLED นั้นอ่อนไหวต่อการเบิร์นอินน้อยกว่า QD-OLED เป็นอะไรที่น่าสนใจ แต่การเปรียบเทียบนี้อาจใช้ไม่ได้กับทีวีรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้

ในปี 2023 เป็นสมรภูมิทีวี OLED รุ่นใหม่ที่มีความสว่างมากกว่าที่เคยทำออกมา ซึ่งในภาพรวมแล้วผู้ที่ได้ประโยชน์ก็คือผู้บริโภคอย่างเรานั่นเอง


ที่มา: whathifi

กองบรรณาธิการ AV Tech Guide

สื่อออนไลน์ที่มีเนื้อหาครอบคลุมเกี่ยวกับเทคโนโลยีนวัตกรรมในกลุ่มสินค้าเครื่องเสียงไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ไอทีมัลติมีเดีย ตลอดจนสินค้านวัตกรรมอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ดำเนินงานโดยทีมงานมืออาชีพ