ทำความรู้จัก Roon 2.0 ที่รองรับ Apple Silicon และ Roon ARC ที่ให้ฟังเพลงนอกบ้านได้เหมือนตอนอยู่ที่บ้าน
Roon Labs ทีมผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Roon แอปฯ จัดการคลังเพลงและเล่นเพลงระดับไฮเอนด์ชื่อดัง ประกาศเตรียมพร้อมให้ผู้ใช้งานได้อัปเกรดซอฟต์แวร์ครั้งใหญ่ที่มีอะไรต่อมิอะไรได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก
เริ่มจากแอปฯ Roon ที่จะอัปเกรดเป็น ‘Roon 2.0’ ซึ่งมาพร้อมกับการปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างเช่น การรองรับ Apple Silicon แบบเนทีฟ นอกจากนั้น Roon 2.0 ยังนำประสบการณ์ทางดนตรีที่น่าทึ่งมาสู่ผู้คนจำนวนมากขึ้น บนแพลตฟอร์มที่มีจำนวนมากขึ้น
ซึ่งทางผู้พัฒนาเผยว่า “ที่เป็น Roon น่าตื่นเต้นที่สุดของเรา เพราะมันรวมถึงบางสิ่งที่ผู้ใช้ของเราต้องการมาเป็นเวลานาน และเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนวิธีการใช้ Roon ของคุณตลอดไป”
นอกจาก Roon 2.0 แล้ว การอัปเกรดในครั้งนี้ยังมีส่วนของ ‘Roon ARC’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Roon 2.0 และเป็นแอปฯ ฟรีในสมาร์ทโฟนสำหรับผู้ใช้ Roon ทีมผู้พัฒนาเผยว่าแอปฯ Roon ARC นี้จะเปิดโอกาสให้ทุกหนแห่งในโลกนี้สามารถสตรีมเพลงจากคลังเพลงของคุณได้เหมือนกับเวลาอยู่ที่บ้าน
ทำความรู้จัก Roon ARC
หากต้องการใช้ Roon เวลาอยู่นอกบ้าน เราต้องดาวน์โหลดแอปฯ Roon ARC สำหรับสมาร์ทโฟนและเชื่อมต่อกับ Roon Core ที่บ้าน แอปฯ Roon ARC นั้นแตกต่างและแยกจากแอปฯ Roon Remote ที่เราใช้ที่บ้าน
ดังนั้นแม้ว่าเรามี Roon Remote ในสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว ก็จำเป็นต้องดาวน์โหลด Roon ARC เพื่อที่จะเข้าถึง Roon ได้ทุกที่ โดยเฉพาะเวลาอยู่นอกบ้าน
Roon ARC ให้อิสระในการเข้าถึงคลังเพลงใน Roon ทั้งหมดของเราคุณ รวมถึงคุณสมบัติที่ทรงพลังที่สุดของ Roon ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนในโลก สามารถใช้งานได้จากอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือของเราได้โดยตรง
ไม่ว่าในระหว่างการออกกำลังกายที่ยิม กำลังเดินทางไปทำงาน หรือเดินทางไกลแบบข้ามจังหวะ ข้ามประเทศ แอปฯ Roon ARC นั้นเปิดโอกาสให้เราสามารถเข้าคลังเพลง เพลงของศิลปิน เพลงในอัลบั้ม เพลงในเพลย์ลิสต์ และเพลงที่ใส่แท็กเอาไว้ได้จากระยะไกล
พลังของ Roon Core นั้นทำให้ Roon ARC กลายเป็นบริการสตรีมมิ่งที่เราสามารถกำหนดได้เอง มันเชื่อมต่อเรากับเพลงทั้งหมดในคลังเพลงของเรา ควบคู่ไปกับการสตรีมเพลงจาก TIDAL และ Qobuz เปิดโอกาสให้เราสามารถสำรวจและขยายคอลเลคชันเพลงของเราได้จากทุกหนแห่ง ด้วยการใช้งานแอปฯ ในโทรศัพท์มือถือที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามและใช้งานง่าย
การออกแบบที่เรียบง่ายของ Roon ARC มาพร้อมกับการสนับสนุนข้อมูลเมตาที่มีรายละเอียดของ Roon และ Valence ซึ่งเป็นเครื่องมือแนะนำเพลงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของทาง Roon เอง
ขณะเดียวกัน Roon ARC ยังมีคุณสมบัติการสำรวจเพลงใน Roon Radio, New Releases For You และ Daily Mixes เพื่อให้เราสามารถเข้าถึงและเพลิดเพลินได้จากทุกที่ ที่น่าสนใจคือ Roon ARC ยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงเหมือนเช่นเคย และใช้เอ็นจิ้นระบบเสียงแบบเดียวกับการใช้งาน Roon ที่บ้าน
Roon ARC จะพร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วใน App Store สำหรับอุปกรณ์ iOS (iOS 12 หรือใหม่กว่า) และ Play Store สำหรับอุปกรณ์ Android (Android 9 หรือใหม่กว่า)
ไม่เพียงแค่ Roon ARC เท่านั้น แต่ Roon 2.0 ยังมาพร้อมกับอัปเดตที่น่าตื่นเต้นอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ลองไปดูกันว่ามีอะไรอีกบ้าง
Roon 2.0 สนับสนุนชิป Apple Silicon โดยตรง
ที่ผ่านมา Roon เวอร์ชัน macOS นั้นมีประสิทธิภาพต่ำกว่าเวอร์ชันที่อยู่ในระบบปฏิบัติการ Windows และ Linux เนื่องจากการพัฒนาถูกจำกัดให้ใช้ชุดเครื่องมือพัฒนาโอเพ่นซอร์สที่เรียกว่า Mono บน macOS
แม้ว่าเครื่องมือเหล่านั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความน่าเชื่อถือและเสถียร แต่มันยังไม่เคยทำงานได้ในระดับเดียวกับเครื่องมือดั้งเดิมบน Windows และ Linux
ปลายปีที่แล้ว Microsoft ได้เปิดตัว .NET framework เวอร์ชันหนึ่งซึ่งรองรับ macOS โดยตรง (native support) โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Mono หลังจากทำงานอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนโดยทีมซอฟต์แวร์ของ Roon Labs ก็ได้ Roon 2.0 ที่มาพร้อมกับเฟรมเวิร์กในการพัฒนาบน macOS เหมือนกับที่ใช้บน Windows และ Linux
ดังนั้นในการอัปเดต Roon 2.0 ครั้งนี้ทำให้ Roon นั้นรองรับคอมพิวเตอร์แมคที่ใช้ชิป Apple Silicon (ชิป M1, M1 Pro, M1 Max, M1 Ultra และ M2) ได้โดยตรงแบบ native support โดยที่การใช้งานแอปฯ สามารถรันแอปฯ ได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องรันผ่าน “Rosetta” ของ Apple อีกต่อไป
ดังนั้นผู้ใช้ macOS ทุกคนควรเห็นการปรับปรุงประสิทธิภาพที่สำคัญใน Roon 2.0 นี้ และไม่ควรมีความแตกต่างด้านประสิทธิภาพระหว่าง macOS, Windows และ Linux อีกต่อไป
นอกจากนั้นทีมผู้พัฒนายังใช้โอกาสนี้ในการเพิ่มประสิทธิภาพของ DSP Engine ใน Roon สำหรับ macOS และ Apple Silicon อีกด้วย หรือสรุปใยความได้ว่า Roon 2.0 นั้นทำให้ Roon ทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ Mac ได้ดีกว่าที่เคย
การเตรียมตัวสำหรับการอัปเกรด
การใช้งาน Roon 2.0 จำเป็นต้องใช้ระบบปฏิบัติ Windows 10 หรือ Windows 11 และเนื่องจากการเปลี่ยนผ่านในส่วนของซอฟต์แวร์ .NET ทำให้คอมพิวเตอร์ macOS จำเป็นต้องใช้เวอร์ชัน 10.15 เป็นอย่างน้อย นอกจากนั้นยังยุติการสนับสนุน Windows รุ่น 32 บิต
ในกรณีที่คอมพิวเตอร์ของเราใช้แพลตฟอร์มที่เก่ากว่านี้ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะว่าเรายังสามารถเข้าถึงและเพลิดเพลินกับคลังเพลงใน Roon ของเราต่อไปได้ด้วย Roon 1.8 Legacy ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนการอัปเกรดครั้งนี้
ที่มา: Roon
