iFi เปิดตัว iDSD Diablo 2 อุปกรณ์ DAC/Amp พกพารุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับบลูทูธ aptX Lossless
iFi เปิดตัว iDSD Diablo 2 อุปกรณ์ DAC/Amp (หูฟัง) รุ่นล่าสุดของแบรนด์ มาพร้อมคุณสมบัติที่รองรับเทคโนโลยี aptX Lossless และการอัปเกรดที่ได้ต่อยอดไปจาก iDSD Diablo รุ่นแรก โดยได้รับการออกแบบใหม่หมดจดทั้งภายในและภายนอก พร้อมด้วยการพัฒนาทางเทคนิคในทุกด้าน
หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นก็คือการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth แบบใหม่ที่รองรับการถอดรหัสเสียง aptX Lossless ทำให้เป็น DAC/Amp ตัวแรกที่รองรับรูปแบบเสียง Bluetooth แบบไม่สูญเสียคุณภาพ (คุณภาพเสียงเทียบเท่าซีดี)
iDSD Diablo 2 มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ก็ยังพกพาได้สะดวก ตัวเครื่องมีดีไซน์เป็นร่องแบบใหม่ในเฉดสีใหม่สีแดงเข้มเมทัลลิก ร่องทั้ง 22 ร่องไม่ได้มีไว้สำหรับโชว์ลวดลายเท่านั้นแต่มีส่วนช่วยระบายความร้อนและเป็นรางยึดสำหรับ “ขาตั้งแบบปีก” ที่สามารถถอดออกได้ สามารถใช้เป็นขาสำหรับวาง Diablo 2 ได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง
เช่นเดียวกับรุ่นแรก iDSD Diablo 2 มาพร้อมกับภาคขายเสียงทรงพลังที่สามารถขับหูฟังได้ทุกประเภท ตั้งแต่มอนิเตอร์อินเอียร์ที่มีความไวสูงไปจนถึงหูฟังพลานาร์ฯ ที่กินกำลังขับมาก นอกจากกำลังขับแล้วมันยังมาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยความเป็นลิเนียร์ในการตอบสนองต่อเสียง รวมถึงระดับเสียงรบกวนและความเพี้ยนที่ต่ำมาก
นอกจากนี้ iDSD Diablo 2 ยังมีวงจรแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอะนาล็อกที่เลือกใช้ชิป DAC คู่ของ Burr-Brown DAC ซึ่งให้เสียงเป็นธรรมชาติเมื่อทำงานร่วมกับสถาปัตยกรรม True Native ของ iFi เอง การจัดวงจรสัญญาณแบบดิฟเฟอเรนเชียลสี่คู่ ยังส่งผลให้พื้นเสียงรบกวนต่ำลง การแยกช่องสัญญาณดีขึ้น รวมถึงการถ่ายทอดรายละเอียดในเสียงเพลงได้ดีขึ้นทั้งในแง่ของรายละเอียดส่วนหลัก ๆ และไมโครไดนามิก
iDSD Diablo 2 มาพร้อมกับอินพุต USB DAC ที่รองรับการถอดรหัสสัญญาณเสียง hi-res audio ในรูปแบบ PCM สูงสุดถึง 32bit/768kHz และในรูปแบบ DSD ด้วย sample rate สูงถึงระดับ 22.5792 MHz (DSD512) นอกจากนั้นยังรองรับการถอดรหัสไฟล์เสียงในรูปแบบของไฟล์ MQA Full Decode ได้สูงสุดถึงระดับ 384kHz
สำหรับภาคขยายเสียงหูฟังในตัว iDSD Diablo 2 ให้กำลังเอาต์พุตที่ระดับ 5,180mW/12.9V ที่ 32 โอห์ม และ 611mW/19.2V ที่ 600 โอห์ม ทางเอาต์พุตแบบบาลานซ์ 4.4mm ซึ่งถือว่าทรงพลังมากเมื่อเทียบกับ DAC/Amp แบบพกพาทั่วไป
ภาคขยายเสียงใน iDSD Diablo 2 สามารถตั้งค่าเกนขยายได้สามแบบ ได้แก่ Normal, Turbo และ Nitro รวมถึงโหมดการลดทอนกำลังเสียง IEMatch เพื่อให้สามารถใช้งานกับหูฟัง IEM ที่มีความไวสูง นอกจากนี้ระดับเสียงยังถูกควบคุมโดยโพเทนชิออมิเตอร์ (ตัวปรับความดังเสียง) แบบอะนาล็อกคุณภาพสูงเพื่อความบริสุทธิ์ของเสียง
iDSD Diablo 2 ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุสูง 4,800mAh ซึ่งช่วยให้สามารถขยายเสียงได้อย่างทรงพลังและใช้งานได้ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ในขณะที่เชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟหลักโดยใช้ iPower 2 ซึ่งเป็นอะแดปเตอร์ AC/DC ที่มีวงจรตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟเพื่อให้กระแสไฟฟ้า DC ที่เสถียรและสะอาด จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเสียงของอุปกรณ์
นอกจากนี้ Diablo 2 ยังรองรับการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี xMEMS ซึ่งเป็นเทคโนโลยีลำโพงไมโครโซลิดสเตตแบบใหม่ที่คาดว่าจะแจ้งเกิดในตลาดหูฟังและหูฟังแบบอินเอียร์ในอนาคต เทคโนโลยีนี้ใช้ประโยชน์จากกระบวนการผลิตระบบกลไกไฟฟ้าขนาดเล็ก (MEMS) โดยผสมผสานเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์เข้ากับชิ้นส่วนกลไกที่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้ ส่งผลให้ไดอะแฟรมซิลิคอนรวมกับชั้นเพียโซอิเล็กทริกได้ออกมาเป็นไดรเวอร์ขนาดเล็กจิ๋วที่มีการตอบสนองทางเฟสที่ดี รวมถึงการตอบสนองต่อสัญญาณเสียงแบบฉับพลัน
ไดรเวอร์แบบ xMEMS ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้า ซึ่งต้องใช้แอมพลิฟายเออร์พิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น iDSD Diablo เวอร์ชันลิมิเต็ดเอดิชั่นที่เรียกว่า Diablo-X ซึ่งเปิดตัวโดย iFi เมื่อต้นปีนี้ และล่าสุดก็คือ iFi iDSD Diablo 2 นั่นเอง
ตามที่ได้กล่าวถึงข้างต้น DAC/Amp รุ่นนี้มาพร้อมกับ aptX Lossless ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อเสียงแบบไร้สายผ่านบลูทูธในรูปแบบ ‘lossless’ ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่สามารถสตรีมเสียงคุณภาพซีดี ‘lossless’ ที่ 16bit/44.1kHz โดยให้บิตเรตสูงถึงระดับ 1.2Mbps ซึ่งมากกว่าสองเท่าของบิตเรตสูงสุดของ aptX Adaptive และ aptX HD และสูงกว่าค่าสูงสุดของ LDAC ประมาณ 20%
iFi iDSD Diablo 2 เป็น DAC แบบพกพาตัวแรกที่รองรับ aptX Lossless และ Bluetooth เวอร์ชัน 5.4 ช่วยให้การเชื่อมต่อเสียงแบบไร้สายได้ทั้งคุณภาพเสียง ความเสถียร ความเร็ว และความหน่วงต่ำ สามารถจับคู่กับอุปกรณ์บลูทูธต้นทางได้สูงสุดแปดเครื่อง ช่วยให้สามารถสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์เหล่านั้นได้อย่างราบรื่น
ในด้านการเชื่อมต่อ iFi iDSD Diablo 2 มีอินพุต S/PDIF แบบ 3.5mm ที่สามารถเชื่อมต่อใช้งานได้ทั้งสัญญาณดิจิทัลแบบ coaxial และ optical ควบคู่ไปกับพอร์ต USB-C แยกต่างหากสำหรับจ่ายไฟหลัก/ชาร์จ อุปกรณ์ยังมีช่องเสียบหูฟังทั้งแบบซิงเกิลเอนด์ 6.3mm และเอาต์พุตแบบบาลานซ์ 4.4mm รวมถึงช่องเอาต์พุต 4.4mm ชุดที่สองที่ด้านหลังเครื่องซึ่งสามารถใช้งานเป็นเอาต์พุตเสียงแบบ fixed level ได้
iDSD Diablo 2 มาพร้อมกับชุดอุปกรณ์เสริมมากมาย รวมถึงสายสัญญาณเสียงดิจิทัล อะแดปเตอร์ และกระเป๋าเดินทางคุณภาพระดับพรีเมียม ทำให้เป็นแพ็คเกจพกพาระดับพรีเมียม ขณะนี้มีจำหน่ายแล้วจากร้านค้าปลีกบางแห่งในราคา แนะนำที่ $1,299 หรือประมาณ 47,000 บาท
ที่มา: hifitrends
