AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

วิธีริปแผ่นซีดีอย่างมีคุณภาพกับ dBPoweramp CD Ripper

เมื่อพูดถึงการริปแผ่นซีดีหรือการดึงเอาไฟล์ข้อมูลที่เก็บบันทึกอยู่ในแผ่นซีดีออกมาเก็บไว้ในรูปแบบของไฟล์เพลงนั้น ในพ.ศ.นี้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด

ทว่าทราบหรือไม่ครับว่าเบื้องหลังการริปแผ่นซีดีนั้นถ้าจะให้ได้คุณภาพออกมาดีก็คงต้องเลือกเฟ้นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ใช้ริปกันสักหน่อย และจากที่ทีมกองบรรณาธิการ AV Tech Guide ของเราได้ลองเล่นกันมาก็ขอแนะนำโปรแกรม dBPoweramp CD Ripper ซึ่งได้รวบรวมเอาข้อดีด้านหลายๆ ด้านมาไว้รวมกัน

โปรแกรมตัวนี้ราคาขายอยู่ที่ $39 (single license) หรือประมาณหนึ่งพันสามร้อยบาทสำหรับเวอร์ชั่นล่าสุดในปัจจุบัน (version 16) ราคานี้เมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่คุณจะได้ทราบต่อจากนี้ไปบอกได้เลยว่าคุ้มมากทั้งในแง่ของการใช้งานและคุณภาพเสียงของไฟล์ที่ได้

แนะนำ dBPoweramp CD Ripper
dBPoweramp CD Ripper เป็นผลงานของทีมโปรแกรมเมอร์ที่เรียกตัวเองว่า ‘illustrate’ ซอฟต์แวร์ตัวนี้เป็นโปรแกรมหนึ่งในชุดโปรแกรมชื่อว่า dBpoweramp Reference R15 (เป็นเวอร์ชั่นในขณะที่เขียนบทความนี้) มาพร้อมกับโปรแกรมน่าใช้อีกตัวในชุดที่มีชื่อว่า dBPoweramp Music Converter ทำหน้าที่แปลงฟอร์แมตของไฟล์เสียง

dBPoweramp CD Ripper ถูกออกแบบมาให้ใช้กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac OS X สามารถทดลองดาวน์โหลดไปใช้งานก่อนได้เป็นเวลา 21 วัน หรือจะซื้อเลยก็ได้โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ www.dbpoweramp.com/cd-ripper.htm

ในแง่ของการทำงานเป็นโปรแกรมริปเพลงจากแผ่นซีดี dBPoweramp CD Ripper มีคุณสมบัติของโปรแกรมที่ดีครบถ้วน น่าจะครบถ้วนที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จักและลองเล่นมาก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการริปซีดีที่อ้างว่าทั้งแม่นยำและรวดเร็วฉับไวจากเทคโนโลยี Rip Secure & Fast และ AccurateRip ที่ใช้ประโยชน์จาก CPU ของคอมพิวเตอร์อย่างเต็มที่ (ใช้งาน CPU แบบมัลติคอร์ได้สูงสุดถึง 16 คอร์)

หรือจะเป็นส่วนของซอฟต์แวร์เข้ารหัสที่รองรับไฟล์เสียงครบถ้วนมากที่สุดเพราะมีทั้ง mp3, m4a (AAC iPod & iTunes), Windows Media Audio (WMA), Ogg Vorbis, FLAC, Apple Lossless (ALAC) รวมถึงฟอร์แมตยิบย่อยอีกจำนวนหนึ่ง

ขณะเดียวกันยังสามารถสั่งริปทีเดียวแล้วให้เอาต์พุตไฟล์ออกมาครั้งละมากกว่า 1 ฟอร์แมตหรือ Multi-Encoder ได้ด้วยครับ นอกจากนั้นยังมีซอฟต์แวร์ส่วนที่เป็น Digital Signal Processing (DSP) ที่ใส่คุณสมบัติพิเศษต่างๆ เพิ่มเข้าไปในไฟล์เสียงของเราได้ด้วย อย่างเช่น การเข้ารหัส HDCD, การเปลี่ยนแปลงค่า sample rate หรือ bit depth

สำหรับเรื่องของฐานข้อมูล meta data ของแผ่นซีดี แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ของ GraceNote อย่างใน iTunes แต่ก็ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า PerfectMeta คือการนำฐานข้อมูลจาก 5 แหล่งใหญ่มาเลือกใช้ได้แก่ All Media Guide, SonataDB (เน้นเพลงคลาสสิก), GD3, MusicBrainz และ freedb

Step by Step กับ dBPoweramp CD Ripper

ก่อนเริ่มใช้งานริปแผ่นซีดี แนะนำให้เข้าไปตั้งค่าที่ ‘dBPoweramp Configuration’ ก่อนครับ ทางเข้าอยู่ใน Start Bar ของวินโดวส์ ค่าที่เราสนใจคือค่า ‘Text Encoding’ ที่อยู่ในแต่ละหัวข้อที่เกี่ยวกับการ Tagging ตั้งค่านี้ให้เป็น Unicode-16 ทั้งหมดนะครับ ไม่เช่นนั้นแล้วไฟล์ที่เราริปมาจะแสดงภาษาท้องถิ่น อย่างเช่นภาษาไทยไม่ได้

นี่เป็นหน้าโปรแกรมหลักของ dBPoweramp CD Ripper ให้เลือก Drive ที่เราจะใช้ริป ซึ่งในที่นี่คือไดร์ฟ G:

จากนั้นให้เข้าไปเลือกเอาต์พุตฟอร์แมตไฟล์ที่เราต้องการ สังเกตว่าตัวโปรแกรมมีเอาต์พุตฟอร์แมตให้เลือกเยอะมาก ในที่นี้ผมเลือกเป็นไฟล์ .wav ซึ่ง dBPoweramp CD Ripper เป็นริปเปอร์เพียงไม่กี่ตัวที่สามารถ tag ไฟล์ .wav ได้โดยตรงครับ จากนั้นก็เลือก Path ที่จะเก็บไฟล์ที่เราริปแล้ว และเลือกตั้งชื่อไฟล์ตาม tag ก็ได้ด้วยนะครับ ส่วนตัวผมนิยมตั้งค่าตามในภาพที่เห็นนั่นแหละครับ

เมื่อเราใส่แผ่นซีดีเข้าไปในไดร์ฟและออนไลน์อินเตอร์เน็ตเอาไว้โปรแกรมวิ่งไปหา meta data ของแผ่นนั้นๆ มาให้เองอัตโนมัติเลยครับซึ่งฐานข้อมูลที่โปรแกรมตัวนี้ใช้นั้นมีหลากหลายแหล่งเลย สำหรับภาพปกแผ่นหรือ Album Art นั้นถ้าไม่มีหรือไม่ถูกต้องสามารถ drag & drop ไฟล์ภาพปกที่ถูกต้องมาใส่แทนได้เลยครับ สะดวกและง่ายมาก

อย่าลืมกดเข้าไปที่ปุ่ม Options เพื่อตั้งค่าการริปเป็นโหมด Secure และคลิกเลือกที่ AccurateRip ด้วยครับ

กดปุ่มเริ่มทำการริปได้เลยครับ หน้าตาของโปรแกรมระหว่างทำการริปจะเป็นดังภาพนี้ แทรคที่ริปได้สมบูรณ์ด้วยฟังก์ชั่น AccurateRip จะมีการแสดงสัญลักษณ์ให้เห็นด้วยครับ

เมื่อริปเสร็จแล้วโปรแกรมจะแสดง log สรุปผลการริปมาให้ดูทีละแทรคด้วยครับ ตรงไหนสมบูรณ์ดีหรือไม่สมบูรณ์ยังไงก็จะแจ้งให้ทราบกันตรงนี้เลย

หลังจากนั้นไฟล์ที่เราริปไว้แล้ว แนะนำให้ย้ายไปเก็บใน External HDD นะครับ ด้วยเหตุผลตามที่บอกเอาไว้ในตอนที่แล้ว วิธีการตั้งชื่อ Folder ถ้าเป็นมาตรฐานทั่วไป จะให้ชื่อศิลปินเป็น Folder หลัก ตามด้วย Folder ย่อยที่ป็นชื่ออัลบั้มของศิลปินนั้นๆ

อย่างเช่นในกรณีนี้ผมก็จะเก็บไฟล์เพลงเป็น Music\Michael Ruff\Speaking in Melodies เวลาเรามีไฟล์จำนวนมากๆ การจัดเก็บจะเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ปะปนกันมั่วครับ ส่วนแผ่นที่เป็นรวมเพลงหลากหลายศิลปินก็ให้ไปรวมกันอยู่ใน Music\Various Artists เป็นต้น

มนตรี คงมหาพฤกษ์

ผู้ก่อตั้งสื่อออนไลน์ AV Tech Guide อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารและออนไลน์ GM2000 Magazine จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนใจเครื่องเสียงทั้งระบบอะนาล็อกและดิจิทัล ใช้งานสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android ใช้คอมพิวเตอร์ทั้ง macOS และ Windows หลงใหลเทคโนโลยีเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนี้กำลังเห่อระบบบันทึกเสียงและไมโครโฟนแบบมืออาชีพ