Google จ่าย 9 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อยังคงได้เป็นตัวเลือกแรกใน iPhone !
อ้างอิงแหล่งข่าวจาก Business Insider รายงานว่าในปัจจุบันการที่ Google ได้เป็น default search engine หรือว่าเป็นระบบค้นหาข้อมูลหลักในบราวเซอร์ Safari ของ iPhone นั้น ไม่ได้เป็นเพราะทาง Apple เห็นว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดี แต่เพราะว่าทาง Google จะต้อง “จ่าย” เพื่อให้ได้สิทธิ์นี้
ขณะที่นักวิเคราะห์ข้อมูลประเมินว่าในปีนี้ Google อาจต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินสูงถึง 9 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว เป็นรายได้ที่บริษัท Apple สามารถทำเงินได้มากกว่าธุรกิจ iCloud หรือ Apple Music ของตัวเองเสียอีก
ที่น่าสนใจไปกว่านั้นยังมีการประเมินว่าปีหน้า Google อาจต้องจ่ายแพงกว่านี้หากยังต้องการให้ search engine ที่ดีที่สุดในโลกของตัวเองยังคงเป็นตัวเลือกแรกใน iPhone
การคาดการณ์นี้มาจากนาย ร็อด ฮอลล์ (Rod Hall) จากสถาบัน Goldman Sachs ซึ่งได้ให้ความเห็นไว้ว่า
“เราเชื่อเหลือเกินว่าอัตราค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสิทธินี้จะแปรผันตามจำนวนครั้งที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์บนแพลทฟอร์มของ Apple เรียกใช้งานระบบค้นหาของ Google ผ่านทาง Siri หรือจากบราวเซอร์ Safari”
ดังนั้นในปีหน้านาย ร็อด ฮอลล์คิดว่า Google อาจต้องจ่ายให้ Apple เป็นจำนวนเงินมากถึง “12 พันล้าน (หนึ่งหมื่นสองพันล้าน) เหรียญสหรัฐ” เลยทีเดียว ย้อนกลับไปในปี 2013 ค่าใช้จ่ายรายปีในส่วนนี้คือจำนวนเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งก็นับว่ามากมายเกินที่คนส่วนใหญ่คาดไปมากแล้ว
นักวิเคราะห์ประเมินว่าอัตราค่าใช้จ่ายส่วนดังกล่าวน่าจะอยู่ที่ 10 เหรียญสหรัฐต่อปีต่อผู้ใช้ไอโฟน 1 เครื่อง
เมื่อปีที่แล้วจากการสำรวจของ BMO Capital Markets ทั่วโลกมีคนใช้งานไอโฟนประมาณ 715 ล้านคน และเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ ตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นในอนาคตจะเป็นอย่างไร ก็คงจะต้องขึ้นอยู่กับการตกลงของทั้ง 2 บริษัท
แต่ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ผู้ที่ต้องการใช้งาน Google เป็น default search engine ในไอโฟน สามารถตั้งค่าด้วยตัวเองง่าย ๆ โดยเข้าไปที่ Settings (การตั้งค่า) แล้วเลื่อนลงไปที่ Safari เข้าไปที่เมนูย่อย ‘Search Engine’ จะเห็นชื่อ Google อยู่ท่ามกลางตัวเลือกอื่น ๆ เช่น Yahoo, Bing และ DuckDuckGo