fbpx

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

Exclusive Preview – Huawei MediaPad M5 Pro 10.8”

ผมทราบข่าวการเปิดตัวของ Huawei MediaPad M5 มาตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่าน ความน่าสนใจของแท็บเล็ตรุ่นนี้ไม่ได้อยู่ที่มันเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ซึ่งปัจจุบันมีตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ได้มากมายนักเมื่อเทียบกับแท็บเล็ต iOS หรือไอแพด แต่มันเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ได้บูรณาการเอาระบบมัลติมีเดียมารวมไว้ในตัวมันได้อย่างน่าสนใจ

ความน่าสนใจประการแรกคือมันรองรับการเขียนด้วยปากกาอิเล็กทริกนิกส์ นอกจากนั้นมันยังมีระบบเสียงที่ร่วมออกแบบกับแบรนด์เนมในสายไฮไฟระดับแนวหน้าอย่าง Harman Kardon แถมยังมีตรารับรองอีกว่ารองรับระบบเสียง Hi-Res Audio ด้วย !

จากที่ผมได้รู้จักแท็บเล็ตของหัวเว่ยมา MediaPad M5 จะเป็นแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดแล้วครับ ช่วงแรกที่ทราบข่าว ผมเกิดคำถามขึ้นมาในหัวทันทีว่า เขาจะเอามาขายไหม และจะเอามาเมื่อไร

จนเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม คำถามของผมก็มีคำตอบแล้วครับ ทางหัวเว่ยประเทศไทยได้นำเข้ามาขายแล้ว และผมก็มีโอกาสได้ลองใช้งานมันก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการอยู่พักหนึ่งก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แถมรุ่นที่ได้ลองยังเป็นรุ่น Pro ซึ่งเป็นเรือธงของซีรีส์นี้ซะด้วย

MediaPad M5 Pro 10.8” สวยอลังการ จัดเต็มภาพและเสียง
ก่อนอื่นต้องแจ้งให้ทราบกันก่อนว่า MediaPad M5 Series นั้นจะมี 2 ขนาดหน้าจอคือ 8.4 และ 10.8 นิ้ว และรุ่นหน้าจอ 10.8 นิ้วยังมีที่เป็นรุ่น Pro ที่มาพร้อมกับปากกา M-Pen ทุกรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ LTE, Bluetooth และ Wi-Fi Dual Band

รุ่นที่ผมได้มาลองเป็น Exclusive Preview นี้จะเป็น MediaPad M5 Pro 10.8 นิ้ว ซึ่งเป็นรุ่น top ที่จัดเต็มทุกออปชันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ใหญ่ถึง 10.8 นิ้ว เป็นจอ IPS LCD ความละเอียด 2,560 x 1,600 พิกเซล ระบบเสียง Hi-Res Audio โดย Harman Kardon มีพอร์ต Pogo-Pin ที่รองรับการเขื่อมต่อกับ Keyboard และเมาส์ไร้สาย (2 รายการหลังต้องแยกซื้อต่างหาก)

แท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมกับขุมกำลังชิปประมวลผล Kirin 960 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 + EMUI 8.0 แบตเตอรี่ในตัวความจุ 7,500 mAhr ขนาดเครื่อง 258.7 mm × 171.8 mm × 7.3 mm น้ำหนัก 498 กรัม

แกะกล่องลองเล่น
เนื่องจากการผมมีเวลาค่อนข้างจำกัดกับเครื่องตัวอย่าง การลองจึงมุ่งเน้นไปที่ความรู้สึกที่ได้สัมผัสตัวเครื่องและประสบการณ์ในส่วนที่คิดว่าเป็นจุดเด่นของแท็บเล็ตรุ่นนี้

ประการแรกที่ชอบใจคือตัวเครื่องสวยมาก แม้ว่าจะเป็นสัดส่วนที่ไม่คุ้นเคย เพราะตัวเครื่องเมื่อเทียบกับ iPad มันจะมีลักษณะกว้างกว่าและดูเหมือนตั้งใจออกแบบมาให้ใช้งานแนวนอนเป็นหลัก

ที่ว่าสวยมากนอกจากความสว่าง คมชัดและสีสันของหน้าจอแล้ว ตัวเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียมยูนิบอดี้ยังบาง เบาและออกแบบให้โค้งมนจนสัมผัสได้ถึงความหรูหราทันสมัย ที่ชอบใจเป็นพิเศษคือหน้าจอที่ปิดด้วยกระจก 2.5D ลองดูจากภาพประกอบเถอะครับว่ามันดูดีขนาดไหน

อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง หัวชาร์จที่ให้มาเป็นแบบ Quick Charge
จอ 10.8 นิ้ว ความละเอียด 2,560 x 1,600 พิกเซล กระจก 2.5D โค้งมนตรงขอบสวยมากครับ
ปุ่มควบคุมทั้งหมด ช่องใส่ซิมแบบไฮบริด ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้และพอร์ต USB Type-C จะอยู่ทางด้านขวาของเครื่อง
ปุ่มโฮมแบบกดไม่จม (เหมือน MediaPad M3) ที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว
กล้องหลังความละเอียด 13MP ระบบออโตโฟกัสจะนูนออกมาแบบนี้ ส่วนกล้องหน้าจะเป็น 8MP

ด้านหลังเครื่องจะมองเห็นช่องลำโพงยาว ๆ พาดอยู่ที่ขอบด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง ทั้ง 2 ส่วนออกแบบเป็นลำโพงสเตริโอแยะเสียงซ้าย-ขวาได้ชัดเจนมาก เหมือนมีลำโพงซาวด์บาร์สเตริโอขนาดเล็กอยู่ 2 ตัวช่วยกันทำงานเลยล่ะครับ ด้านพลังเสียงต้องบอกว่าหายห่วง MediaPad M3 เสียงดีแค่ไหน รุ่นนี้คูณไปอีก 2-3 เท่าได้เลย

ช่องลำโพงตามขอบล่างของตัวเครื่อง
ขั้วต่อสีทองที่เห็น 3 จุดนั้นคือ Pogo-Pin เอาไว้ต่ออุปกรณ์เสริม
ช่องลำโพงที่อยู่ตามขอบบนของตัวเครื่อง จะเห็นแถบสายอากาศที่แนบไว้ตามขอบเครื่องอย่างกลมกลืน

ผมมีคลิปเสียงลองเทียบกับ iPad Pro 9.7 นิ้วที่ว่าเสียงดีมากแล้ว มาให้ชมกันด้วยครับ ลองใส่หูฟังด้วยนะครับ แล้วจะได้ทราบว่าแท็บเล็ตตัวนี้ เรื่องเสียงเขาจัดเต็มจริง ๆ ไม่ใช่แค่ดังอย่างเดียวแต่ดังแล้วยังมีรายละเอียด แถมมิติเสียงยังเข้าขั้นน่าขนลุกเลยทีเดียว ใครไปลองตัวเครื่องจริงห้ามพลาดในส่วนนี้เด็ดขาด ทีเด็ดของเขาจริง ๆ ครับ จะเล่นเกม ดูหนังหรือฟังเพลง ผมว่ามีแท็บเล็ตน้อยรุ่นนักที่ลำโพงในตัวจะให้รายละเอียดเสียงออกมาได้ขนาดนี้

ในส่วนของ Hi-Res Audio ผมได้ลองเล่นเพลงในแอปฯ USB Audio Player Pro เพื่อตรวจสอบส่วนของ Audio CODEC ในแท็บเล็ตนี้ พบว่าภาคถอดรหัสเสียงในตัวมันและที่ตัวอะแดปเตอร์แปลงจาก USB Type-C เป็น 3.5mm รองรับ Native Hi-Res Audio ถึงระดับ 24bit/192kHz แน่นอนครับ จะฟังจากลำโพงในตัวต่ออะแดปเตอร์ฟังจากหูฟัง ก็จะได้รายละเอียดแบบ Hi-Res Audio แท้ ๆ อย่างแน่นอน

ระบบเสียง Harman Kardon และอะแดปเตอร์แปลง USB Type-C เป็น 3.5mm เพราะที่ตัวเครื่องไม่มีแจ็คหูฟัง
ระบบเสียง Hi-Res Audio แท้ ๆ

สำหรับปากกา M-Pen พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่จะเป็น USB Type-C เมื่อหมุนที่เหน็บปากกาออกมาจะมองเห็นตัวพอร์ต ตามข้อมูลแจ้งเอาไว้ว่ามันใช้เวลาชาร์จเต็ม 100 นาที สามารถใช้งานได้ถึง 50 วัน ถ้าใช้เฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง ตัวปากกาสามารถแยกแยะระดับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ สังเกตว่าที่ตัวปากกามีปุ่มกดอยู่ 2 ปุ่มแถว ๆ ตำแหน่งวางนิ้วชี้และนิ้วโป้ง แต่เท่าที่ได้ลองยังไม่ทราบว่าหลัก ๆ แล้วมันทำหน้าที่อะไรบ้าง

เท่าที่ได้ลองเขียนด้วยปากกาตัวนี้กับแอปฯ ที่ติดเครื่องมา ผมว่ามันก็ลื่นไหลพอสมควร แต่บางจังหวะยังแอบมีหน่วงบ้างเล็กน้อยเมื่อลากเส้นเร็ว ๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการเขียนบน iPad 9.7” (2018) ด้วย Apple Pencil

อาจเป็นไปได้ว่าในไอแพดนั้นผมเขียนในแอปฯ Notability ซึ่ง support การเขียนด้วย Apple Pencil ได้เนียนอย่างเหลือเชื่อ หากมีโอกาสได้ลองตัว MediaPad M5 Pro นานกว่านี้ ผมอาจได้เจอแอปฯ ที่เป็นเนื้อคู่ของปากกา M-Pen ก็เป็นไปได้ครับ

น่าซื้อไหม?
ส่วนนี้เป็นคำถามที่ตอบยากเลยทีเดียว ต้องถามว่าคุณมั่นใจกับแท็บเล็ต Android มากแค่ไหนครับ ในเมื่อแท็บเล็ต Android ยังคงใช้ OS ของสมาร์ทโฟนมาขยายให้มีขนาดใหญ่ขึ้นตามหน้าจอ ไม่เหมือนแท็บเล็ต iOS อย่าง iPad ที่ใช้ OS ที่ทำขึ้นมาสำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ ดังนั้นถ้ายังไม่แน่ใจในคำตอบ ก็ต้องไปดูในส่วนของออปชันและมัลติมีเดีย

ส่วนหลังนี้เท่าที่ได้ลองมาภายใต้เวลาอันจำกัด ส่วนตัวผมว่า MediaPad M5 Pro น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนที่ไม่คิดจะเล่น iPad ทุกอย่างที่ใส่มาในแท็บเล็ตตัวนี้ผมว่ามันใช่เลย

มันเหมือนเราย่อสมาร์ททีวีที่บ้านแล้วเอามันยัดใส่กระเป๋าเป้ติดตัวเราไปทุกที่นั่นแหละครับ อารมณ์นั้นเลย ภาพและเสียงมาเต็มน่าประทับใจจริง ๆ ทว่าตัวที่ผมได้มาลองใช้งานให้หน่วยความจำมาแค่ 64GB RAM 4GB ซึ่งผมว่าน้อยไปหน่อยสำหรับความสามารถด้านมัลติมีเดียในระดับนี้

Huawei MediaPad M5 Pro 10.8” เปิดราคามาล่าสุดที่ 18,990 บาท ดังนั้นคำถามว่า น่าซื้อไหม ผมเชื่อว่าทุกท่านที่อ่านบทความนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นแล้ว หากมีโอกาสได้ไปลองเล่นเพื่อยืนยันคำตอบให้กับตัวเองอีกที รับรองว่าจะหาคำตอบให้ตัวเองได้ไม่ยากแน่นอนครับ ผมมั่นใจเช่นนั้นจริงๆ !

มนตรี คงมหาพฤกษ์

ผู้ก่อตั้งสื่อออนไลน์ AV Tech Guide อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารและออนไลน์ GM2000 Magazine จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนใจเครื่องเสียงทั้งระบบอะนาล็อกและดิจิทัล ใช้งานสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android ใช้คอมพิวเตอร์ทั้ง macOS และ Windows หลงใหลเทคโนโลยีเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนี้กำลังเห่อระบบบันทึกเสียงและไมโครโฟนแบบมืออาชีพ