Dyson Zone หูฟังตัดเสียงรบกวนตัวแรกจาก Dyson เปิดพรีออเดอร์ในไทยแล้ว ราคาเริ่มต้น 28,900 บาท
กรุงเทพฯ 7 พฤศจิกายน 2566 – Dyson เตรียมสร้างปรากฎการณ์ที่ล้ำไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ Dyson Zone เฮดโฟนตัดเสียงรบกวนในประเทศไทย มอบประสบการณ์การฟังแบบดื่มด่ำขั้นสุดด้วยเสียงสมจริง กับการใช้งานยาวนานได้สูงสุดถึง 50 ชั่วโมง ทั้งยังช่วยลดความผิดเพี้ยนของเสียงให้ต่ำเป็นพิเศษ พร้อมตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและสร้างรายละเอียดเสียงที่สมจริงเต็มสเป็กตรัม
เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone สามารถชาร์จเต็ม 100% ได้ภายใน 3 ชั่วโมง และมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนขั้นสูงแบบแอ็คทีฟ รวมถึงสร้างรายละเอียดเสียงที่สมจริง เก็บครบทุกสเป็กตรัมเสียง มาพร้อมไมโครโฟน 11 ตัว โดยมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ จำนวน 8 ตัว เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงสุดที่ 38 เดซิเบลและตรวจจับเสียงรอบข้างได้ถึง 384,000 ครั้งต่อวินาที
เพื่อมอบเสียงที่คมชัดและสมจริง เก็บครบทุกสเป็กตรัมเสียง เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone สามารถสร้างช่วงความถี่เสียงตั้งแต่ 6Hz ถึง 21kHz เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สวมใส่สามารถได้ยินครบทุกโน้ตและชัดเจนทุกคำพูด โดยช่วงความถี่ดังกล่าวขับเคลื่อนด้วยระบบวิศวกรรมอิเล็กโทรอคูสติก และส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ลำโพงนีโอไดเมียม 16 โอห์ม ขนาด 40 มม. ที่เป็นหัวใจของระบบเสียงของDyson ZoneTM
นอกจากนี้ ทั้งลำโพง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ระบบกลไกการทำงาน การใช้วัสดุ และเสียง ยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อลดความผิดเพี้ยนของเสียงให้น้อยที่สุด อีกทั้งสัญญาณเสียงขาออกของลำโพงยังมีการควบคุมและชดเชยย่านความถี่เสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมโดยเทคโนโลยีประมวลผลสัญญาณอัจฉริยะที่ระดับ 48,000 ครั้งต่อวินาที เมื่อผสานกับระบบตัดเสียงรบกวน จะปรับค่าความผิดเพี้ยนฮาร์โมนิกให้เป็นกลางจนถึงระดับที่ไม่สามารถได้ยินในทุกย่านความถี่ (เหลือ 0.08% ที่ระดับความดัง 94 เดซิเบล ที่ความถี่ 1 กิโลเฮิร์ตซ์)
นอกจากนี้ยังมี “โหมด Transparent” ซึ่งเป็นระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟที่เหนือชั้น ช่วยลดมลภาวะทางเสียงและตรวจจับเสียงรอบข้าง พร้อมทั้งมอบความตื่นตัวตลอดเวลาให้กับผู้ใช้งานขณะเดินทาง
เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone มีไมโครโฟนเสริมโดยเฉพาะสำหรับการโทร บันทึกเสียง หรือควบคุมเสียง เพื่อความชัดเจนในการส่งสัญญาณเสียงได้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังสามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างตามสภาพแวดล้อมของผู้ใช้งาน
เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงและดีไซน์ของอานม้า เพื่อให้กระจายถ่ายเทน้ำหนักได้เท่ากันทั้งสองข้างของศีรษะ แทนการกระจายน้ำหนักด้านบนศีรษะเพียงจุดเดียว นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงรูปทรงศีรษะที่หลากหลายของผู้ใช้งานทั่วโลก เพื่อปรับให้ใส่ได้กระชับพอดีและแนบสนิทหูผู้ใช้ทุกคน
เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone ยังได้รับการออกแบบตามหลักวิศวกรรม เพื่อจัดการกับมลภาวะทางเสียงและมลพิษทางอากาศ เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone ยังสามารถติดตั้งหน้ากากกรองอากาศสำหรับการเดินทาง เพื่อปล่อยอากาศบริสุทธิ์แก่ผู้ใช้งานเมื่อต้องเดินทางในเขตเมืองที่มีมลพิษหรือขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะ เทคโนโลยีนี้เกิดจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ Dyson สั่งสมมากว่า 30 ปี
การทำงานของเครื่องกรองอากาศขับเคลื่อนด้วยคอมเพรสเซอร์ที่อยู่ในบริเวณด้านนอกตัวหูฟังแต่ละข้าง โดยจะดึงอากาศผ่านตัวกรอง 2 ชั้น และปล่อยอากาศบริสุทธิ์ 2 กระแสไปยังจมูกและปากของผู้ใช้ผ่านหน้ากากกรองอากาศสำหรับการเดินทาง ขณะเดียวกัน ตัวกรองประจุไฟฟ้าสถิตจะขจัดอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน และตัวกรองคาร์บอนจะดูดซับก๊าซ เช่น ไนโตรเจนไดออกไซด์ จากมลภาวะในเมือง
แอปพลิเคชัน MyDyson™ สามารถใช้ในการควบคุมเฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone ปรับความเร็วการไหลเวียนของอากาศและโหมดการตัดเสียงรบกวน รวมถึงการปรับสมดุลเสียง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งการรับฟังเสียงที่แตกต่างกันได้ 3 รูปแบบ ทั้ง Dyson EQ, Bass Boost และ Neutral นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถจำกัดระดับเสียงตามคำแนะนำด้านสุขภาพการได้ยินด้วย
ในแอปพลิเคชันยังสามารถเช็คระดับค่าไนโตรเจนไดออกไซด์ในอากาศและควบคุมระบบการกรองได้ในทันที ทั้งยังสามารถตรวจสอบระดับเสียงรบกวนรอบข้างแบบเรียลไทม์ นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์แบบเดียวกับเครื่องฟอกอากาศของ Dyson ทั้งการให้ข้อมูลสภาพแวดล้อมของผู้ใช้ที่สามารถเข้าไปดูได้เพียงไม่กี่คลิก เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น
เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson ZoneTM เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้ ที่ www.dyson.co.th และ Dyson Demo Store ทุกสาขาจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ที่ Dyson Demo Store ทุกสาขา โดย Dyson Zone ราคาอยู่ที่ 28,900 บาท และ Dyson Zone Absolute ราคาอยู่ที่ 32,900 บาท